"เรืองไกร" คาใจศาล รธน.เมินคำร้องมาตรา 68 ทั้งที่อยู่ในวิสัยที่จะทำได้ ตามจี้ตุลาการฯ วินิจฉัยสถานะของ "วสันต์-ชัช" ยังคงสถานะโดยสมบูรณ์หรือไม่
วันที่ 1 ก.ค.นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ในฐานะผู้ร้องสอดขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 กล่าวว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดสอบผู้ร้องและผู้ถูกร้อง รวมทั้งพยานทั้งสองฝ่าย ในวันที่ 5-6 ก.ค.มีข้อสงสัยว่าทำไมจึงไม่รวมคำร้องของตนเข้าไปร่วมพิจารณาด้วย ทั้งที่อยู่ในวิสัยที่จะทำได้ และเคยมีแนวปฏิบัติมาแล้ว อย่างกรณีคำร้องการใช้อำนาจรัฐแทรกแซงการปฏิบัติราชการ กรณีการแจกถุงยังชีพ ระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ซึ่งเป็นคนละเหตุการณ์ แต่ศาลรัฐธรรมนูญยังรวม 2 สำนวนเข้าด้วยกัน กรณีนี้ก็น่าจะพิจารณาด้วยกันได้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับทราบจากศาลรัฐธรรมนูญเลยว่า จะเอาอย่างไรกับคำร้องของตน แล้วจะตอบสังคมอย่างไรกับมาตรฐานในการพิจารณาคดี
นายเรืองไกรกล่าวว่า ดูแล้วเรื่องนี้มันแปลกๆ หรือท่านกลัวว่าผู้ถูกร้องคือ ส.ส. ส.ว.อีก 175 คน ซึ่งมีทั้ง ส.ส.ประชาธิปัตย์และ ส.ว.ในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ แม้จะเป็นเสียงข้างน้อย แต่ก็มีการแปรญัตติขอแก้ไขข้อความ จนกรรมาธิการฯ ต้องแก้ไขตามอยู่หลายมาตรา จะอึดอัดใจหากจะให้ตนไปร่วมให้ปากคำด้วย ขณะเดียวกันคำร้องที่ตนขอให้คณะตุลาการรัฐธรรมนูญ ร่วมกันวินิจฉัยสถานะของนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และนายชัช ชลวร ตุลาการฯ ยังคงสถานะโดยสมบูรณ์หรือไม่ ขณะนี้ได้พิจารณาไปถึงไหน คืบหน้าอย่างไร และจะส่งผลต่อการพิจารณาคดีต่างๆหรือไม่ อยากให้ศาลรัฐธรรมนูญทำให้ชัดเจนก่อน เพราะหากพบภายหลังว่ามีปัญหาท่านจะรับผิดชอบกันอย่างไร ซึ่งตนจะตามดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเอาอย่างไร.
...