“เศรษฐา ทวีสิน” แจงในที่ประชุมสภา เตือน สส.ฝ่ายค้าน โตๆ กันแล้ว ไม่อยากได้ยินการใช้วาทกรรมด้อยค่า จ่อเจรจาเยอรมนี เรื่องเครื่องยนต์เรือดำน้ำ ย้ำ รัฐบาลใช้คำว่าพัฒนากองทัพ “โรม” ลุกประท้วงใช้คำเสียดสี

เมื่อเวลา 19.42 น. วันที่ 12 กันยายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นชี้แจงอีกครั้งในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา วาระเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยเป็นการแจงหลังจากที่ นายชัยธวัช ตุลาธน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล อภิปรายเรื่องการปฏิรูปกองทัพ ว่า ฟังมาเกือบ 2 วันเต็ม แต่ 2 ท่านนี้ ฟังแล้วต้องยอมรับว่าหดหู่ใจ 

นายเศรษฐา กล่าวต่อไปโดยเชื่อว่าเป็นปัญหาใหญ่ฟังรากลึกในสังคมไทย เรื่องของการด้อยค่าภาคส่วนต่างๆ ทั้งนักการเมืองด้วยกันเอง ทั้งที่ยังไม่ทำเข้าไปบริหารราชการ หรือสถาบันทหารอันทรงเกียรติ แน่นอนว่าทุกสถาบัน ทุกหน่วยงานรัฐ มีทั้งคนดีและไม่ดี การเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา เป็นจุดเริ่มต้นที่จะเข้ามาช่วยกันแก้ไขสะสางปัญหาที่หมักหมมมานาน เป็นปัญหาใหญ่ และเป็นเรื่องของการไม่เข้าใจกัน ช่องว่างที่มีระหว่างกัน ประเด็นที่ยกมาอภิปรายคือทหารและประชาชน ยืนยันว่ารัฐบาลของประชาชนภายใต้การนำของตนใช้คำว่าพัฒนากองทัพ เชื่อว่าความหมายใกล้เคียงกัน ผลลัพธ์อาจจะต่างกันบ้าง ตามกาลที่เปลี่ยนไป ตามขีดจำกัดในการทำงาน ตามผลลัพธ์ที่อยากให้เห็นสังคมที่เดินไปข้างหน้าได้ ลดความขัดแย้ง ลดการใช้วาทกรรมที่มีการด้อยค่ากันในสภาอันทรงเกียรตินี้

จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์
จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์

...

ชัยธวัช ตุลาธน
ชัยธวัช ตุลาธน

“เมื่อกี๊ฟังไป เห็นใบหน้ายิ้มแย้ม หัวเราะเยอะกันไปกับตัวอย่าง หลายอย่างอาจจะเป็นตัวอย่างที่ดี อาจจะเป็นตัวอย่างที่จริงบ้าง หรือต้องการการพิสูจน์ทราบ เข้าใจครับ แต่ว่าวิธีการนำเสนอ คำพูดต่างๆ แทนที่จะทำให้บรรยากาศในการทำงานร่วมกัน ในการเจรจา ในการพัฒนาสถาบันทหาร ควบคู่กันไปกับการมีชีวิตที่ดีขึ้นกับพี่น้องประชาชน จะลำบากขึ้น ผมในฐานะผู้นำรัฐบาลมีความเป็นห่วงจริงๆ ครับ ผมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องที่บังคับกันไม่ได้ เรื่องการใช้วาทกรรมที่ด้อยค่ากัน ผมว่าผมพูดมาพอเรื่องนี้แล้ว” 

ทั้งนี้ ในเรื่องการจะพัฒนากองทัพร่วมกัน เป็นเรื่องที่ให้เกียรติกองทัพ และภาคการเมือง ซึ่งต้องมีเวลาในการทำงานร่วมกัน ทั้งเรื่องการเกณฑ์ทหารสมัครใจค่อยๆ ลดหลั่นกันไป ยืนยันว่าเพื่อให้ชายไทยทุกคนมีสิทธิ์ในการเลือกประกอบอาชีพอย่างสมศักดิ์ศรี โดยธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงของสถาบันทหาร เมื่อยามที่ต้องการท่านมาปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ในเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน ภาคส่วนทหารมีวินัยสูง ตนได้พูดคุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพในเบื้องต้น ไปรับฟังความเห็น คุยกันอย่างผู้หลักผู้ใหญ่ที่อยากเห็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า เรื่องการใช้งบมาช่วยพัฒนา ช่วยดูแลพี่น้องในยามที่เกิดปัญหาเอลนีโญ ภัยแล้ง น้ำท่วม วิกฤติทางเศรษฐกิจ ซึ่งภาคส่วนทหารตอบรับดี ยืนยันว่าพร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือพี่น้อง 

นอกจากนี้ เรื่องของการลดขั้นตอนการจัดซื้ออาวุธก็มีการพูดคุยกันว่าเท่าที่จำเป็นเท่านั้นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจเปราะบาง รัฐบาลต้องการงบประมาณในการจัดสรรไปภาคส่วนอื่นที่อาจจำเป็นมากกว่า เรื่องการนำพื้นที่ทหารมาให้ประชาชนทำมาหากินก็ได้พูดคุยกัน การตอบรับที่ดีจากภาคทหารเป็นเรื่องที่ตนคาดหวังไว้ ซึ่งทหารไม่ได้จะกันเพียงพื้นที่บางส่วนให้ แต่จะมีการพัฒนาพื้นที่ให้ความพร้อมเพื่อให้พี่น้องเข้ามาทำมาหากินได้ และจะขยายไปในทุกภูมิภาค 

“ขอเวลาหน่อยครับ วันนี้เพิ่งเข้ามา ไม่อยากได้ยินการด้อยค่าของกันและกัน เตือนนิดนึง โตๆ กันแล้ว เป็นผู้หลักผู้ใหญ่เข้าใจครับ ตระหนักดีครับ”

รังสิมันต์ โรม
รังสิมันต์ โรม

ระหว่างนั้น นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ขอใช้สิทธิ์ประท้วงว่า “ท่านนายกฯ ใช้ข้อความเสียดสี ด้วยความเคารพนะครับ ถ้าเราโตๆ กันแล้ว ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี กรุณาอย่าให้ข้อความเสียดสีกันเลยครับ เราอภิปรายด้วยเหตุด้วยผล พวกเราพยายามนำเสนอ ถ้าท่านนายกรัฐมนตรีรู้สึกว่าพวกเราเสียดสีท่าน สิ่งที่ท่านต้องทำเป็นอย่างแรกคืออย่าเสียดสีพวกเรา” 

จากนั้น นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม วินิจฉัยว่า ได้ฟังการอภิปรายของทั้ง 2 คน พูดไปในแง่ลบกับนายกรัฐมนตรี จึงต้องชี้แจงในสิ่งที่ถูกพูดถึงแบบนั้น ดังนั้นอย่าใช้คำว่าเสียดสีเลย พร้อมขอให้ชี้แจงต่อ และอย่าใช้คำหยาบ หรือคำเสียดสี

นายเศรษฐา ระบุต่อไปถึงเรื่องปัญหาการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่ค้างมาจากรัฐบาลก่อนๆ จะไม่บอกว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการซื้อยุทโธปกรณ์บางชนิด แต่วันนี้เราได้มาแล้วจะมีความพร้อม จะครบหรือไม่ จะไปดูด้วยตนเอง เกี่ยวกับเครื่องยนต์เรือดำน้ำ ได้พูดคุยกับภาคส่วนทหารแล้ว ซึ่งในช่วงที่ตนจะเดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา สัปดาห์หน้า พยายามให้กระทรวงการต่างประเทศนัดประธานาธิบดีเยอรมนี หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง ว่ามีทางไหนที่จะพยายามเจรจาให้ปัญหานี้จบลง 

“ยืนยันนะครับว่าวันนี้ประเทศเราต้องการความสมัครสมานสามัคคี ต้องการการเห็นใจซึ่งกันและกัน มีคนดี มีคนไม่ดี ปัญหาต้องถูกแก้ไขอย่างบูรณาการ พูดจากันด้วยความเข้าอกเข้าใจ แต่มีเป้าหมายและไทม์ไลน์ที่ชัดเจน ยืนยันนะครับเดี๋ยวถ้าเกิดว่าเราได้บริหารจัดการแล้ว คงจะมีการแถลงร่วมระหว่างภาครัฐบาลกับภาคทหารถึงไทม์ไลน์ที่ชัดเจน ในหลายๆ เรื่องที่ท่านให้ความกรุณาเสนอมา ส่วนเรื่องหลายๆ เรื่องที่เมื่อกี๊ท่านเสนอมาเกี่ยวกับอาจจะมีการทุจริตอาจจะมีการประพฤติมิชอบ ผมเชื่อว่าเป็นหลักฐานอยู่แล้วครับ เดี๋ยวก็คงจะมีการตรวจสอบกันไป แล้วก็มานำเสนอกัน” นายกรัฐมนตรีจบการชี้แจงที่ 19.51 น.