"ทวี สอดส่อง" ไม่หนักใจประเด็น นช. "ทักษิณ" ยัน ปฏิบัติตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ แย้ม เตรียมเข้าทำงาน 12 ก.ย. ขณะที่ "โฆษก ยธ." ย้ำ ขอรัฐบาลแถลงนโยบายเสร็จสิ้น 11 ก.ย. นี้ ยธ. พร้อมประกาศนโยบาย สานงาน 100 วัน เพื่อประชาชน
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 7 ก.ย. 66 ที่กระทรวงยุติธรรม ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมหารือ รับทราบแผนงานของกระทรวง และกรมต่างๆ ของผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงยุติธรรม โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยธ. เป็นประธาน พร้อมด้วยนางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและในฐานะโฆษก ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม เป็นต้น เข้าร่วมประชุมนั้น
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยธ. ลงจากอาคารห้องประชุมชั้นบนมายังชั้น 1 บริเวณด้านหน้าศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม เพื่อรับหนังสือเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชนและพบปะสื่อมวลชน ก่อนกล่าวสั้นๆ ว่า วันนี้ยังไม่มีการแถลงนโยบายใดๆ แต่เพียงเข้ามารับทราบข้อมูลทั้งหมดของกระทรวงยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ตนจะมอบหมายให้โฆษกกระทรวงยุติธรรมดำเนินการตอบข้อซักถามต่างๆ แทน นอกจากนี้ ในที่ประชุมเมื่อช่วงเช้า ตนได้แจ้งให้คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่รับทราบว่ารัฐบาลจะมีการแถลงนโยบายเร็วๆ นี้ หากส่วนใดที่มีความข้องเกี่ยวกับกระทรวงยุติธรรมก็ขอให้แต่ละหน่วยงานไปศึกษาให้ละเอียดและรวบรวมข้อมูล อีกทั้งตนยืนยันว่าจะต้องรอให้รัฐบาลมีการแถลงนโยบายให้เสร็จสิ้นก่อน กระทรวงยุติธรรมจึงจะมีการแถลงนโยบายในขั้นตอนถัดไป ส่วนกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการนอนพักรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ และรับโทษจำคุกที่เหลืออีก 1 ปีนั้น ตนไม่มีความหนักใจในเรื่องนี้ เพราะเจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ ทำตามขั้นตอนตามหลักเกณฑ์กฎหมายทุกอย่าง
...
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ก็ได้ขออนุญาตยุติการสัมภาษณ์ และขอเดินออกจากวงสัมภาษณ์ของสื่อมวลชน เพื่อไปปฏิบัติภารกิจต่อไป พร้อมระบุทิ้งท้ายว่า ตนจะเข้ามาดำเนินงานที่กระทรวงยุติธรรมในวันที่ 12 ก.ย. นี้ เนื่องจากจะต้องรอการแถลงนโยบายของรัฐบาลในวันที่ 11 ก.ย. ให้เสร็จสิ้นก่อน
ขณะที่นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า วันนี้รมว.ยุติธรรมเข้ามาพบปะผู้บริหารของกระทรวง สำหรับวาระเนื้อหาที่มีการพูดคุยกัน คือ ให้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะแถลงนโยบายในห้วงระหว่างวันที่ 11-12 ก.ย. และรัฐมนตรีได้ฝากการบ้านให้ผู้บริหารไปเตรียมข้อมูลในบางประเด็น พร้อมฝากให้ไปดูนโยบายของรัฐบาลว่าจะมีส่วนใดเกี่ยวข้องกับกระทรวงยุติธรรมบ้าง เพื่อดูว่าภารกิจของกระทรวงนั้นจะสามารถเพิ่มเติมในประเด็นไหนให้เกิดความชัดเจนในเชิงปฏิบัติได้ ดังนั้น การทำงานระยะต่อไปหรือในห้วง 100 วัน หรือ 3 เดือนหลังจากนี้ ท่านรัฐมนตรีก็ยังได้ฝากปลัดกระทรวงยุติธรรมไปทบทวนในหลายๆ ภารกิจที่คิดว่าน่าจะส่งผลกระทบโดยตรง เช่น จะทำอย่างไรให้ประชาชนสามารถเข้าถึงความยุติธรรมเพิ่มมากขึ้น ยกระดับความเชื่อมั่นของประชาชน รวมถึงเรื่องประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด จะทำอย่างไรให้ประชาชนยังรู้สึกว่าการแพร่ระบาดของยาเสพติดนั้นยังมีอยู่ ส่วนในกรอบของกรมราชทัณฑ์ที่มีการกำหนดเกี่ยวกับเรื่องผู้ต้องขังเด็ดขาดและผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณาคดี ก็ให้ไปดูว่าจะมีแนวทางอย่างไรบ้าง
นายวัลลภ เผยอีกว่า ภาพรวมทั้งหมดในวันนี้พบว่ารัฐมนตรีค่อนข้างให้ความสำคัญกับภารกิจของกระทรวงทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ทั้งหน่วยงานยุติธรรมจังหวัดและหน่วยงานกรมราชทัณฑ์ กรมคุมประพฤติ กรมพินิจ และกรมอื่นๆ ส่วนบทบาทของกรมบังคับคดีนั้น ท่านรัฐมนตรีได้หยิบยกมาว่าให้มีการบูรณาการกันอย่างจริงจัง ไม่เฉพาะเรื่องของหนี้สินที่มีผู้เดือดร้อนจากการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. แต่หวังว่ากรมบังคับคดีจะต้องยกระดับการทำงานโดยเน้นเป้าหมายให้ประชาชนได้รู้สึกว่ามีกลไกที่ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ถึงแม้กฎหมายจะเขียนไว้แล้วก็ตาม แต่ในเชิงของการบริหาร ควรที่จะทำให้ประชาชนรู้สึกเชื่อมั่น ส่วนเรื่องที่ดินแปลงสุดท้ายของประชาชน ท่านรัฐมนตรีก็ได้ฝากไว้ว่าจะมีกลไกอย่างไรให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ทำกินให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ วันนี้ถือว่าเป็นการพบปะของรัฐมนตรีและคณะผู้บริหารของกระทรวง เพื่อเตรียมความพร้อมชี้แจงการอภิปรายนโยบาย คาดว่าภายในอาทิตย์ถัดไปจะมีการแถลงนโยบายของกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้สาธารณะและประชาชนได้ร่วมติดตามบทบาทการทำงานของกระทรวงหลังจากนี้
เมื่อถามว่าการประชุมในช่วงเช้าได้มีตัวแทนจากกรมราชทัณฑ์เข้ามาพูดคุยหารือด้วยหรือไม่ นายวัลลภ ระบุว่า ไม่มี มีเพียงระดับปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง และผู้ตรวจราชการ ซึ่งรัฐมนตรีก็ได้กล่าวย้ำหลายครั้งว่ายังไม่ใช่การมอบนโยบาย แต่เป็นเพียงการพบปะพูดคุยเพื่อเตรียมชี้แจงแถลงนโยบายของกระทรวงเท่านั้น และยืนยันว่าในที่ประชุมนั้น ท่านรัฐมนตรีไม่ได้มีการกล่าวเปรยถึงกรณีของนายทักษิณแต่อย่างใด
ต่อข้อถามเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษที่จะมีความเกี่ยวข้องกับบทบาทของกระทรวงยุติธรรม มีแนวทางอย่างไรบ้าง นายวัลลภ ปฏิเสธการตอบคำถาม โดยระบุว่า เนื่องจากตนไม่ได้รับหน้าที่ดูแลกำกับด้านงานของราชทัณฑ์ วันนี้ได้รับมอบหมายเพียงอธิบายบรรยากาศการประชุมหารือของคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเท่านั้น และรัฐมนตรีเองก็ระมัดระวังการให้สัมภาษณ์เนื่องจากวันนี้ยังไม่ใช่การแถลงชี้แจงนโยบายของกระทรวง แต่เป็นเพียงการเตรียมข้อมูลเพื่อจะไปชี้แจงนโยบายในระดับชั้นสภาผู้แทนราษฎร รัฐมนตรีจึงยังไม่มีการมอบหน้าที่ใดๆ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว