“สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม ลั่น กองทัพพร้อมทำตามนโยบายรัฐบาล ลดการเกณฑ์ทหาร เห็นผลทันที ยกเครื่องงานประชาสัมพันธ์กองทัพ เตรียมเดินสายรับฟังความคิดจากอดีต รมว.กลาโหม ผบ.ทบ. และนักวิชาการด้านความมั่นคง
เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 66 นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางไปพร้อมกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง เพื่อพูดคุยกับว่าที่ ผบ.เหล่าทัพ ว่ากรณีไปพูดคุยถึงสถานการณ์ของประเทศ สอบถามปัญหา และแลกเปลี่ยนความต้องการของแต่ละฝ่าย ซึ่งทางฝ่ายการเมืองได้ระบุว่าอยากผลักดันนโยบายต่างๆ อาทิ การเปลี่ยนการเกณฑ์ทหารเป็นรูแบบสมัครใจ การร่วมกันพัฒนากองทัพให้เป็นที่พึ่งของประชาชนมากยิ่งขึ้น รวมถึงสอบถามความต้องการของกองทัพว่ามีความต้องการอยากให้รัฐบาลสนับสนุนในเรื่องใดบ้าง รวมถึงมีความกังวล หรืออุปสรรคอะไรเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งทางกองทัพมีความเห็นไปทิศทางเดียวกับรัฐบาล ที่เขาเองก็ปรับปรุงองค์กรมาโดยตลอด ไม่ขัดข้องอะไรและยินดีปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล ส่วนจะทำได้ช้าหรือเร็ว ก็จะสะท้อนให้รัฐบาลทราบถึงข้อติดขัดให้รัฐบาลช่วย
เมื่อถามว่าสิ่งที่กล่าวมาจะเห็นผลเป็นรูปธรรมได้เมื่อไหร่ นายสุทิน กล่าวว่า จะเห็นผลเป็นรูปธรรมในทันที ยกตัวอย่าง เช่น การเปลี่ยนระบบการเกณฑ์ทหารเป็นรูปแบบสมัครใจ ในเดือน เม.ย.2567 ที่จะมีการเกณฑ์ทหารอีกครั้ง จะเห็นอัตราเกณฑ์ทหารที่ลดลงจากเดิมอย่างแน่นอน และจะค่อยๆ หมดไปจนเหลือเพียงการเข้ากองทัพแบบสมัครใจ รวมถึงการปรับลดขนาดกองทัพที่สังคมมองว่ากองทัพมีนายพลมากเกินไปนั้น เท่าที่คุยกับทางกองทัพเขามีแผนปรับลดในส่วนนี้อยู่ ภายในปี 70 หรือในรัฐบาลนี้กองทัพจะกระชับลง นายพลจะหายไปจำนวนมาก ส่วนจะเป็นกี่เปอร์เซ็นต์นั้นกองทัพกำลังทำตัวเลขมาให้ดู และที่ผ่านมาเขามีแผนอยู่แล้วแต่ยังไม่ได้ประชาสัมพันธ์ และเท่าที่ได้พูดคุยกันเมื่อนายกฯ ได้ฟังความเห็นของกองทัพแล้วก็มีความสบายใจ
...
เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่กับการคุมกองทัพ นายสุทิน กล่าวว่า เดิมหนักใจ แต่เมื่อมาถึงตอนนี้สบายใจขึ้นมาก เพราะการทำงานกับคนมีวินัยเขาพูดง่าย และเท่าที่ได้พูดคุยกับ ผบ.เหล่าทัพ เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดใหม่ๆ ถือเป็นจังหวะที่ดีของตนที่ได้เข้าไปพัฒนา ส่วนนโยบายที่จะเอาทหารออกมาเพิ่มบทบาท พัฒนาเป็นที่พึ่งประชาชน เขาก็ตอบรับว่าเป็นภารกิจของกองทัพอยู่แล้ว เพราะความยากจนเป็นภัยชนิดหนึ่ง กองทัพยินดีปฏิบัติ เช่น ใช้ทหารเข้ามามีส่วรร่วมแก้ภัยแล้งเขาก็พร้อม การนำที่ดินของทหารที่ไม่ได้ใช้งานมาให้ประชาชนทำกิน หรือให้หน่วยงานอื่นไปใช้ประโยชน์ เช่น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พัฒนาพื้นที่เป็นแหล่งน้ำเขาก็ยินดี แต่รัฐบาลต้องจัดการระเบียบปฏิบัติให้ รวมถึงเรื่องปราบยาเสพติด ทหารเขาเคยรับบทบาทนี้มาโดยตลอด เขาก็ยินดีสนองนโยบายรัฐบาล โดยทั่วไปถือว่าเป็นบรรยากาศที่ดี ทำให้มั่นใจว่ากองทัพจะมีบทบาทออกมาช่วยแก้ปัญหาประเทศร่วมกับรัฐบาล และจากการพูดคุยสิ่งที่ทั้งฝ่ายการเมืองและกองทัพเห็นตรงกัน คือ กองทัพต้องมีการยกเครื่องงานประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมากองทัพทำเรื่องที่เป็นประโยชน์จำนวนมาก แต่สังคมรับรู้อีกอย่าง ทำให้สังคมมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อกองทัพ
นายสุทิน กล่าวด้วยว่า หลังจากพูดคุยกับว่าที่ ผบ.เหล่าทัพแล้ว หลังจากนี้จะไปพบ พล.อ.อ.สุกําพล สุวรรณทัต อดีต รมว.กลาโหม รวมถึง พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีต รมว.กลาโหม และกำลังประสานเข้าพบ พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รวมถึงจะพบนักวิชาการด้านความมั่นคง อาทิ นายสุรชาติ บำรุงสุข นายปราโมทย์ นาครทรรพ เพื่อรับฟังความคิดเห็นแง่มุมต่างๆ ด้านความมั่นคงต่อไป.