ส่องประวัติ "ภูมิธรรม เวชยชัย" รองนายกฯ ควบรมว.พาณิชย์ คีย์แมนสำคัญ ผู้เดินเกมตั้งรัฐบาล "เศรษฐา 1" ขนาดเจ้าตัวยังโอด "เป็นการจัดตั้งรัฐบาลครั้งที่ยากที่สุดในชีวิต" รับหน้าที่ รองนายกฯ คนที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่แทน หาก นายกฯ ตัวจริง "เศรษฐา" ไม่อยู่
เปิดประวัติ "ภูมิธรรม" อดีต "คนเดือนตุลา"
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ควบ รมว.พาณิชย์ เกิด 5 ธันวาคม พ.ศ. 2496 ชื่อเล่น "อ้วน" ปี 2544 เคยเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (ประจำ รศ.ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เป็นคนเดือนตุลา
...
สวมบท เป็นผู้จัดการรัฐบาล คีย์แมนคนสำคัญ เจรจาตั้งรัฐบาลเศรษฐา 1 ตัวจริงเสียงจริงของพรรคเพื่อไทย ขนาดถึงกับให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ยอมรับว่า เป็นการจัดตั้งรัฐบาลครั้งที่ยากที่สุดในชีวิต อดีตเคยหนีเข้าป่าสมัยเดือนตุลาคม 2519 และถือได้ว่าเป็นสายตรงนายใหญ่ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ ตัวจริง
ซึ่งเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา นายภูมิธรรม ก็ยังปรากฏตัวที่สนามบินดอนเมือง ต้อนรับนายทักษิณ ชินวัตร เดินทางกลับประเทศไทยด้วย
ประวัติทำงานการเมือง + การศึกษา
ชื่อเดิม ธวัชชัย เป็นข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร (นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์) อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กรรมการในคณะกรรมการพัฒนาพรรคการเมืองเพื่อการปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญ ตามคำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ 14/2560 เป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร และอดีตรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย ปัจจุบันเป็นรักษาการรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนทวีธาภิเศก ปริญญาตรีรัฐศาสตรบัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปี พ.ศ. 2518 และปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2527 และได้ผ่านการศึกษาหลักสูตรป้องกันราชอาณาจักร จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ในปี พ.ศ. 2547
เป็นรองผู้อำนวยการโครงการอาสาสมัคร สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 ต่อมาได้หันเหมาทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ประจำสำนักประธานบริหารกลุ่มบริษัทในเครือชินวัตร ในระหว่างปี พ.ศ. 2540-2541
เป็นรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย กระทั่งได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในปี พ.ศ. 2548 ซึ่งในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ได้นำเสนอพระราชกฤษฎีกา ต่อคณะรัฐมนตรี เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2548 ให้ยุบเลิกองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.) โดยให้เหตุผลว่า มีปัญหาขาดสภาพคล่อง และมีหนี้สินสะสมกว่า 1,800 ล้านบาท และไม่มีความสามารถในการแข่งขันกับธุรกิจขนส่งของเอกชน
ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 เขาได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549 ในปี พ.ศ. 2555 ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และได้รับเลือกให้ทำหน้าที่เลขาธิการพรรค ในการประชุมพรรคฯ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 เขาได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 21
ต่อมาในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 เขาได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 4 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง เนื่องจากพรรคเพื่อไทยมีจำนวน สส. มากกว่าจำนวน สส. พึงมีตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
ในการเลือกตั้ง สส. พ.ศ. 2566 เขาได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 100 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง
อย่างไรก็ดี การจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยในครั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่สามารถทำจนสำเร็จได้ ก็เพราะมี "พี่อ้วน" ภูมิธรรม เวชยชัย เป็น 1 ในตัวจักรสำคัญ เดินเกมประสานทุกทิศจนสำเร็จ
ฉะนั้น จึงไม่แปลกใจ ที่จะได้รับความไว้วางใจจากพรรคเพื่อไทย ให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี คนที่ 1 ควบตำแหน่งรมว.พาณิชย์ และเสมือนเป็น "ผู้จัดการรัฐบาล" ที่จะดูแลประเทศ และ "รัฐบาลเศรษฐา 1" ในยามที่หาก นายกฯ "เศรษฐา ทวีสิน" มีภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้