“พล.อ.ประวิตร” หารือและมุ่งยกระดับความร่วมมือด้านกีฬา ย้ำสัมพันธ์ไทย-จีน ก่อนประชุม คกก.โอลิมปิก กำชับเตรียมความพร้อมนักกีฬาเต็มที่ สร้างชื่อเสียงประเทศ ด้านรองประธานโอลิมปิกจีน เชิญร่วมพิธีเปิดเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้การต้อนรับ นายหวัง รุ่ยเหลียน (Mr.Wang Ruilian) รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะ ณ บ้านอัมพวัน คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในโอกาสที่เดินทางมาเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีอาเซียน-สาธารณรัฐประชาชนจีน ในด้านกีฬา
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวขอบคุณ นายหวัง และคณะ ที่ให้เกียรติมาเข้าพบในวันนี้ ซึ่งไทยกับจีนมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาอย่างยาวนานในทุกระดับ รวมทั้งประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ ที่มีความรักความผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้น ทั้งด้านการค้า วัฒนธรรม ประเพณี และอื่นๆ รวมถึงด้านการกีฬาด้วย โดยในโอกาสที่จีนจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ณ นครหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 23 กันยายน - 8 ตุลาคม 2566 โดยมีนักกีฬาของไทยหลายประเภทเข้าร่วมการแข่งขันด้วย ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร ยังได้กล่าวอวยพร ขอให้จีนประสบความสำเร็จในการจัดการแข่งขันด้วยดี
...
ทางด้าน นายหวัง รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวขอบคุณ พล.อ.ประวิตร ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมยืนยันความสัมพันธ์อันดีที่มีมาอย่างมั่นคงของทั้ง 2 ประเทศ อีกทั้งเรียนเชิญ พล.อ.ประวิตร และคณะ เพื่อเป็นเกียรติเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ณ นครหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีนด้วย จากนั้นทั้ง 2 ฝ่าย ยังได้หารือความร่วมมือทางด้านกีฬา เพื่อส่งเสริมการกีฬาของทั้ง 2 ประเทศ ให้มีการพัฒนาร่วมกัน และนำไปสู่ความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศให้มากยิ่งขึ้นต่อไปด้วย
ในเวลาต่อมา พล.อ.ประวิตร ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 3/2566 โดยวาระที่สำคัญ ได้แก่ การเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาตส์เกมส์ (Asian Indoor & Martial Arts Games) ครั้งที่ 6 รวมถึงการเตรียมการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ณ นครหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน โดย พล.อ.ประวิตร ย้ำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมของนักกีฬาอย่างเต็มที่ ทั้งร่างกาย จิตใจ และทักษะกีฬา โดยให้นำวิทยาศาสตร์การกีฬา และโภชนาการการกีฬา มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และให้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ.