“เศรษฐา” เครื่องฟิตสุดๆ เดินสายต่อเนื่องถกภาคการท่องเที่ยวพังงา รับข้อเสนอสร้างสนามบินแห่งใหม่ ขอศึกษาแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก่อนสานต่อแบ่งเก้าอี้ลงลึกไปถึงควบคุมกรม ไม่ปฏิเสธนั่งนายกฯควบคลัง สั่งลุยเงินดิจิทัลไตรมาสแรก คนเสื้อแดงอีสานฮือต้าน รมว.กห.คนใหม่ เตือนเพื่อไทยราดน้ำกรดฆ่าตัวเอง “เสี่ยเฮ้ง” ประชดคนจัดโควตา รทสช.ลั่นนักเลงบ้านนอกไม่ยึดติดเก้าอี้ โผ ครม.เริ่มลงล็อก “เศรษฐา” นายกฯควบ รมว.คลัง ดัน “ภูมิธรรม”เป็นรองนายกฯเบอร์ 1 ควบ รมว.พาณิชย์ “ปานปรีย์” ขึ้นชั้นรองนายกฯควบ รมว.ต่างประเทศ ลดเกรด “จุลพันธ์” ไปนั่งช่วยคลัง “สุทิน” คุมวัฒนธรรม“เกรียง” รมช.เกษตรฯ ส่ง “หมอมิ้ง” ประกบเป็นเลขานายกฯ ตระกูลชิดชอบส่ง “เพิ่มพูน” ดู ศธ.คุมครูทั่วประเทศ “พิพัฒน์” จับกัง 1 “ชาดา” ผงาด รมช.มหาดไทยพปชร.ลงล็อกคุมงานน้ำ-ดิน “ไผ่ ลิกค์” เบียด “ตรีนุช”นั่ง รมช.พาณิชย์ “บิ๊กตู่” ร่ายผลงาน 9 ปี โวทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อชาติ เคาะโผ ผบ.เหล่าทัพลงตัวแล้ว

ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีใหม่ป้ายแดง โชว์ฟิตลุยงานก่อนเข้าทำเนียบรัฐบาลปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ เดินสายพบกลุ่ม ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว จ.พังงา ต่อเนื่องจาก จ.ภูเก็ต ขณะที่การจัดโผ ครม.เริ่มลงตัว โดยเฉพาะกระทรวงใหญ่ๆที่เกลี่ยโควตาให้กับพรรคร่วมรัฐบาล

...

“เศรษฐา” ถกภาคท่องเที่ยว

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ส.ค. ที่โรงแรมมอริซี เขาหลัก จ.พังงา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อม นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานด้านนโยบายพรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษก พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ จ.พังงา พูดคุยกับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว มีนายเอกรัฐ หลีเส็น ผวจ.พังงา และนายกฤษ สีฟ้า อดีตผู้สมัคร สส.พังงา พรรคเพื่อไทย ร่วมด้วย ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเสนอให้มีการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ให้สามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ จัดระบบขนส่งมวลชนให้มีคุณภาพ รับนักท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้ จ.พังงา และจังหวัดใกล้เคียง และขอให้รัฐบาลช่วยจัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาในช่วงโลว์ซีซัน

ยึดองค์รวมดูแลทั้งประเทศ

นายเศรษฐากล่าวว่า แปลกใจไม่มีนายกฯมาถึง จ.พังงาถึง 10 ปี พื้นที่โซนนี้เป็นแหล่งรายได้ที่มีอนาคต ทำรายได้ให้ประเทศ ต้องขอบคุณนายกฤษ รวมถึงนายพร้อมพงศ์ที่ดูแลพื้นที่ แม้พรรคเพื่อไทยจะไม่มี สส.ในพื้นที่แต่ตนจะมาที่นี่อีก ไม่ยึดเรื่องการเมืองแต่ยึดคนไทย เราดูองค์รวมการพัฒนาประเทศเป็นหลัก วันนี้เศรษฐกิจตกต่ำมากต้องเพิ่มรายได้ การเพิ่มรายได้ที่ชัดเจนคือเรื่องของการท่องเที่ยว เรารับฟังข้อเสนอให้สร้างสนามบินใหม่ ขอให้มั่นใจสนามบินใหม่รับเที่ยวบินขนาดใหญ่ได้แน่นอน หากรัฐบาลเพื่อไทยผ่านการถวายสัตย์แล้ว จะไม่ดูแยกโปรเจกต์แต่จะดูองค์รวมทั้งหมด ไม่ใช่แค่พังงา ภูเก็ต จะไปดูถึงระนอง รวมถึงดูเรื่องสิ่งแวดล้อมควบคู่ไป การดึงดูดนักท่องเที่ยวใหม่ก็สำคัญเช่นกัน สำหรับการท่องเที่ยวด้านสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญที่จะมีการพักอาศัยระยะยาวและมีค่าใช้จ่ายที่ดี ส่วนการจัด ครม.สัญจร อาจแยกเป็น ครม.เศรษฐกิจ หรือ ครม.ความมั่นคงเป็นกลุ่มเล็กสะดวกกว่า

ขอศึกษาแผนยุทธศาสตร์ชาติ

จากนั้นนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงโอกาสในการสร้างสนามบินใหม่ที่ จ.พังงา ว่า เป็นเรื่องสำคัญที่พรรคเพื่อไทยจะผลักดันให้เกิดขึ้น ส่วนจะปรับปรุงสนามบินเดิมหรือสร้างใหม่ ต้องรับฟังความคิดเห็นทั้งหมดก่อน แต่หากจะทำก็อยากให้ดีเลย เข้าใจว่ามีแผนอยู่แล้ว เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เตรียมส่งต่องานให้ นายเศรษฐาตอบว่า ขอบคุณ แต่ยังไม่ได้อ่านเฟซบุ๊กของ พล.อ.ประยุทธ์ จะรับไปพิจารณา และมีหลายท่านที่อยู่ในรัฐบาลเดิม ก็จะไปพูดคุยรับฟังงานที่ทำค้างไว้ โดยเฉพาะการลงทุนจากต่างประเทศ น่าจะต่อยอดไปได้ เมื่อถามว่าจะสานต่อแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีอย่างไร นายเศรษฐาตอบว่า ต้องมาดูกันว่าส่วนไหนทำได้หรือไม่ได้อย่างไร เพราะโลกปัจจุบันเปลี่ยนแปลงเร็วพอสมควร ย้ำว่าขอศึกษาก่อน

แบ่งเก้าอี้ลงลึกถึงควบคุมกรม

ผู้สื่อข่าวถามว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่ลงตัวหรือยัง นายเศรษฐาตอบว่า ใกล้เคียงมาก พยายามเต็มที่ ชื่อที่มีการนำเสนอในข่าวถือว่าใกล้เคียง คณะเจรจาเป็นไปในทิศทางที่ดี ลงรายละเอียดไปถึงรัฐมนตรีช่วยฯว่าควบคุมกรมอะไร อยู่ในช่วงการต่อรอง สำคัญกว่าสิ่งอื่นใดคือเรื่องความถนัดของบุคคลที่จะมาดูแลแต่ละกรมด้วย เราต้องเอาความเจริญของบ้านเมืองเป็นหลัก ไม่ใช่เรื่องการแบ่งสรรอย่างเดียว เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยรอบนี้ได้กระทรวงมหาดไทยไปคุมท้องถิ่นทั่วประเทศ พรรคเพื่อไทยจะเสียเปรียบหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ต้องดูไปก่อน ขอดูก่อนว่าจะมีการแบ่งงานกันอย่างไร เพราะต้องมีรัฐมนตรีช่วย ขอให้ใจเย็นๆ

ไม่ปฏิเสธนั่งนายกฯควบคลัง

เมื่อถามว่าผู้แทนการค้าไทยถือว่ามีบทบาทน้อย ในรัฐบาลใหม่จะนำมามีบทบาทอย่างไร นายเศรษฐาตอบว่า ปัจจุบันการค้าโลกเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องเอฟทีเอ การเปิดตลาด การเชื้อเชิญนักลงทุนเข้ามา เป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ผู้แทนการค้าไทยจะเป็นหัวหอกสำคัญในการพัฒนาประเทศ ส่วนจะเป็นของพรรคเพื่อไทยทั้งหมดเลยหรือไม่ เราต้องดูความเหมาะสมและความสามารถ เมื่อถามว่า ครม.สัดส่วนพรรคเพื่อไทยลงตัวร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วหรือยัง นายเศรษฐาตอบว่า “นิดๆหน่อยๆ 2-3 ตำแหน่ง” เมื่อถามย้ำว่าทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยจะเป็นทีมที่แข็งแกร่งหรือไม่ เพราะมีข่าวว่าจะนั่งควบตำแหน่ง รมว.คลังด้วย นายเศรษฐาตอบว่า อยากให้ผลงานเป็นตัวพิสูจน์ ไม่อยากพูด แต่เราพยายามเต็มที่ในสภาวะที่ค่อนข้างจะลำบาก มีความคาดหวังสูง แต่ตนเชื่อว่าคนที่ถูกคัดเลือกมาพร้อมจะทำงานบนความเหน็ดเหนื่อย

หวังว่า 28 ส.ค. โผ ครม.จะนิ่ง

เมื่อถามว่า รมช.คลังต้องทำงานรู้ใจกับ รมว.คลังหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ต้องทำงานร่วมกันได้ เชื่อว่าทั้ง 11 พรรคที่มาทำงานร่วมกัน เข้าใจถ่องแท้ถึงความต้องการและปัญหาของพี่น้องประชาชน เมื่อถามถึงกระแสข่าวมีชื่อนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะเป็น รมว.มหาดไทย แต่ล่าสุดมีชื่อเป็นรองนายกฯควบ รมว.พาณิชย์ จะเสียใจหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า คิดว่าทุกคนเข้าใจ หลายคนผ่านการทำงานมาเยอะ เชื่อว่าเหมาะสมและพร้อม เมื่อถามว่าวันที่ 28 ส.ค.นี้จะพร้อมหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า “หวังว่า”

ลุยเงินดิจิทัลไตรมาสแรกเลย

เมื่อถามว่ากระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะใช้ได้เมื่อไหร่ นายเศรษฐาตอบว่า เราเดินหน้าเต็มตัวแน่นอน ขอดูรายละเอียดอีกเล็กน้อย วันที่ 28-29 ส.ค. จะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาพบปะพูดคุยกันรวบรวมข้อมูล วางไทม์ไลน์หวังว่าในไตรมาส 1 ปีหน้าจะทำได้ เมื่อถามว่ามีผลสำรวจศรีปทุมโพลระบุว่าพรรคเพื่อไทยมีความนิยมลดลง จะเร่งฟื้นความเชื่อมั่นอย่างไร นายเศรษฐาตอบว่า อยู่ที่ผลงานอย่างเดียว วันนี้เราทำงานทุกวัน ทุกคนไม่เหน็ดเหนื่อย เรื่องการคาดหวังบุคคลอื่นเราควบคุมไม่ได้ และเชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจถึงความบอบบางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองที่เราต้องเดินหน้าไปด้วยกันให้ได้

เสื้อแดงฮือต้าน รมว.กห.ใหม่

ที่ศูนย์ประสานงานกลุ่มคนเสื้อแดงและกลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสาน อ.เมืองขอนแก่น นางพรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษากลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสาน อดีตแกนนำกลุ่ม นปช.ภาคอีสาน กล่าวว่า การที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล สร้างความไม่สบายใจให้กลุ่มคนเสื้อแดงมาก หลายคนเชื่อว่านายเศรษฐาเข้าไปรับใบสั่งแต่งตั้งรัฐมนตรีจาก พล.อ.ประยุทธ์ โดยเฉพาะ รมว.กลาโหม ที่มีข่าวว่าเป็นนายทหารที่มีความเกี่ยวข้องในการสั่งฆ่าคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ถ้าเป็นจริงตามข่าวคนเสื้อแดงรับไม่ได้ คงลุกฮือแน่ และจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายของคนเสื้อแดงจริงๆ ที่ผ่านมาการจับมือข้ามขั้วเราพยายามมองข้ามไปแล้ว เราต้องการสื่อถึงผู้มีอำนาจตัดสินใจว่า ขอให้พิจารณาคนที่เหมาะสม อย่าทำร้ายจิตใจทำให้คนเสื้อแดงถูกทำลายมากกว่านี้ พรรคเพื่อไทยกำลังใช้น้ำกรดราดตัวเอง ฆ่าตัวเอง

“อ้วน” อัปเกรดรองนายกฯ เบอร์ 1

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการฟอร์มทีม  ครม.รัฐบาล “เศรษฐา 1” มีความคืบหน้าลงตัวแล้วในหลายตำแหน่ง โดยจะจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีทั้งหมดให้เสร็จสิ้นภายในต้นสัปดาห์หน้าตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ หวังว่าจะจัดทำบัญชีรายชื่อ ครม.ให้เสร็จภายในวันที่ 28 ส.ค.นี้ โดยโควตา ครม.ในส่วนพรรคเพื่อไทยหลายตำแหน่งลงตัวชัดเจนแล้ว อาทิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯควบ รมว.คลัง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี อันดับ 1 ควบ รมว.พาณิชย์ แทนที่นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ที่หลุดไปเป็น รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ส่วนตำแหน่ง รมว.คมนาคม เป็นนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับกระทรวงสาธารณสุข ที่ชื่อนิ่งอยู่ที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยังมีชื่อปักหลักอยู่

“ปานปรีย์” รองนายกฯ ควบ กต.

ส่วนโควตา ครม. ที่มีการปรับล่าสุดคือ นายสุทิน คลังแสง จากเดิมถูกวางตัวเป็น รมว.ศึกษาธิการ ปรับไปเป็น รมว.วัฒนธรรม หลีกทางให้ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ จากพรรคภูมิใจไทย มาเป็น รมว.ศึกษาธิการแทน อีกตำแหน่งที่น่าสนใจที่มีการปรับเปลี่ยนคือ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร เดิมถูกวางตัวเป็นรองนายกรัฐมนตรี จะได้อัปเกรดควบ รมว.ต่างประเทศอีกตำแหน่ง และขยับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ที่ถูกวางไว้เป็น รมว.ต่างประเทศ ไปเป็น รมช.คลัง เพื่อช่วยงานนายเศรษฐา ส่วนนายเกรียง กัลป์ตินันท์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ล่าสุดมีชื่อเข้ามาเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์

“ชาดา” ลงเอยที่ รมช. มหาดไทย

ส่วนโควตา ครม.ของพรรคภูมิใจไทย ที่ได้เก้าอี้ 4 รมว. และ 4 รมช. ก็ลงตัวเรียบร้อยเช่นกัน โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นรองนายกรัฐมนตรีควบ รมว.มหาดไทย ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการอีก 3 ตำแหน่ง ได้แก่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ เป็น รมว.ศึกษาธิการ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็น รมว.แรงงาน นายทรงศักดิ์ ทองศรี เป็น รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ขณะที่เก้าอี้ 4 รัฐมนตรีช่วย ประกอบด้วย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ เป็น รมช.มหาดไทย นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล เป็น รมช.ศึกษาธิการ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี เป็น รมช.พาณิชย์

พปชร.ลงล็อกคุมงานน้ำ-ดิน

ด้านพรรคพลังประชารัฐได้โควตา 2 รมว. และ 2 รมช. ได้ดูแลงานเกี่ยวกับด้านน้ำและดิน ตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตั้งธงไว้ โดย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชาย พล.อ.ประวิตร จะได้ดำรงตำแหน่งรองนายกฯควบ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค พปชร. เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ ส่วนตำแหน่ง รมช. 2 เก้าอี้คือ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็น รมช.สาธารณสุข และนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เป็น รมช.พาณิชย์

รทสช.ยึดพลังงาน-อุตสาหกรรม

ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ได้โควตา 2 รมว. และ 2 รมช.นั้น ตำแหน่งที่ชัดเจนแล้วคือ รมว.พลังงาน เป็นของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ที่จะได้ควบเก้าอี้รองนายกฯอีกตำแหน่งด้วย ส่วน รมว.อุตสาหกรรมคาดว่าจะเป็น ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ขณะที่นายอนุชา นาคาศัย ได้รับตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ส่วน รมช.อีกตำแหน่งอยู่ระหว่างต่อรองจะเป็นตำแหน่งใด

“สาธิต” ให้หน้าตา ครม.พอใช้

นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดสรรโควตา ครม.ว่า หน้าตา ครม.ที่จัดโดยพรรคเพื่อไทย แต่ละตำแหน่งยังไม่ชัดเจน เท่าที่ดูบางกระทรวงไม่ได้ใช้คนที่มีความเชี่ยวชาญด้านนั้นดูแล แต่มีบางกระทรวงที่จัดคนที่มีความสามารถเฉพาะทาง อย่างกระทรวงสาธารณสุข ได้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นหมอที่มีประสบการณ์เคยเป็น รมช.สาธารณสุข แต่รอบนี้มาเป็น รมว.สาธารณสุข ถือว่าดี หรือกรณีนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา จะไปอยู่กระทรวงพาณิชย์ นายวราวุธได้การยอมรับในเรื่องการใช้ภาษา หากไปอยู่กระทรวงการต่างประเทศจะดูเหมาะสม แต่อยู่กระทรวงพาณิชย์ก็ถือว่ากลางๆ ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ได้กระทรวงยุติธรรม ถือว่าใช้ได้ เพราะเคยดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ภาพรวมถือว่าพอใช้ได้

“เฮ้ง” นักเลงบ้านนอกไม่ยึดติด

ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคว่า ยังไม่ได้รับการแจ้งหรือยืนยันอะไร พรรคมอบการตัดสินใจให้หัวหน้าพรรค การจะได้ตำแหน่งหรือไม่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ไม่ยึดติด เป็นเรื่องที่ว่าเขาให้ความสำคัญเราในการทำหน้าที่ต่อไปหรือไม่ ถ้าเราไม่ได้รับความสำคัญ หรือที่ผ่านมาจะมองด้วยอะไรก็แล้วแต่ เรายอมรับมติพรรค เพราะอาศัยบ้านเขาอยู่ อาศัยพรรคเขาอยู่ เราเป็นลูกพรรคเขา ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปอะไรทั้งสิ้น เราต้องเป็นเด็กดี ถ้าเด็กดื้อกันหมดดื้อแล้วได้ขนมได้อมยิ้ม มันก็ดื้อกันหมด ตาม พล.อ.ประยุทธ์มาพรรค รทสช.ด้วยหัวใจลูกผู้ชาย มาแบบนักเลงบ้านนอกที่ไม่ใช่คนเกเร มีความจริงใจ ซื่อๆ ชัดเจน สถานการณ์วันนี้เราเป็นคนบ้านนอกมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ นิสัยแบบนักเลงบ้านนอกอาจใช้ไม่ได้ทุกสถานการณ์ เราไม่ได้เสียใจ ไม่ได้ยึดติด แต่เข้าใจบางอย่างถ่องแท้ขึ้นเท่านั้นเอง

จะได้เป็นหรือไม่อยู่ที่ฟ้าลิขิต

นายสุชาติกล่าวว่า ภาคกลางเราอาจทำ จ.ชลบุรี ไม่ได้ตามเป้าหมาย แต่เราสู้สุดชีวิต ถึงแม้จะได้มา 1 เขตเรายอมรับ แต่ที่มากับตนก็ได้รวมเป็น 5 คน ที่ผ่านมาเราอาจทำอะไรที่ถูกใจและไม่ถูกใจ เราไม่ทราบตรงนี้ หากฟ้าลิขิตให้เราไม่ได้เป็นก็ไม่ได้เป็น ตนไม่สามารถเอารายชื่อในพรรคมากางได้ว่าใครเหมาะสมไม่เหมาะสม เพราะมอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคตัดสินใจเพียงคนเดียว ทั้งนี้ไม่อยากให้ประชาชนหรือใครมองว่าแก่งแย่งชิงตำแหน่งกัน ที่มีสมาชิกถามตนถึงโพสต์ประกาศ รทสช. เรื่องส่งรายชื่อบุคคลที่เหมาะสมนั่งรัฐมนตรี แล้วปรากฏชื่อของตนเยอะเป็นพันชื่อ แต่พรรคลบโพสต์ไปก็ไม่เกี่ยวกับตน พรรคต้องตอบเอง และขอบคุณสมาชิกพรรคทั่วประเทศที่เชียร์ อย่าไปคิดอะไรมากมายมันเป็นเรื่องปรับเปลี่ยนตามเวลา ไม่ได้ยึดติด

“อนุชา” ทยอยเก็บของที่ทำเนียบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายเศรษฐา ทวีสิน รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และการจัดตั้งรัฐบาลใกล้แล้วเสร็จ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรองนายกฯต่างทยอยเก็บของ ช่วงเช้าวันที่ 26 ส.ค. นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เจ้าหน้าที่ทยอยเก็บของ ส่วนใหญ่เป็นเอกสารและของใช้ต่างๆ กว่า 10 ลัง

“ลุงป้อม” อารมณ์ดีหม่ำชาบู

สำหรับความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายก หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ใช้เวลาช่วงวันหยุดไปร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับหลานๆ และเพื่อนๆ ที่ร้าน Shabu nashi ที่ศูนย์การค้าใจกลาง กทม. โดยมี พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรค พปชร. ร่วมด้วย ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พูดคุยทักทายกับลูกหลาน และเพื่อนๆอย่างอารมณ์ดี โดยสวมเสื้อเชิ้ตฮาวายสีน้ำเงิน สวมทับด้วยแจ็กเกตสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์รองเท้าผ้าใบสีขาว

“บิ๊กตู่” โว 9 ปีทุ่มเททำเพื่อชาติ

วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ตลอดระยะเวลา 9 ปี ของการปฏิบัติหน้าที่นายกฯ คนที่ 29 เป็นช่วงเวลาที่มีความหมายมากที่สุดของชีวิต เป็น 9 ปีที่ทำงานเพื่อปกป้องแผ่นดินไทยบ้านเกิดเมืองนอน เป็น 9 ปีที่ใช้สติปัญญาทุ่มเททุกศักยภาพและกำลังความสามารถ สานพลังจากทุก ภาคส่วน สร้างคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน รวมทั้งเชิดชูสถาบันอันเป็นที่รักของปวงชน ชาวไทย และเป็น 9 ปีของประเทศที่ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด มีความเจริญก้าวหน้าในหลายด้านทัดเทียมนานาอารยประเทศ พร้อมยกระดับไปสู่ประเทศชั้นนำของโลกในอนาคตอันใกล้ ขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อนข้าราชการและทุกภาคส่วน ที่เสียสละและอดทนในทุกสถานการณ์ที่ผ่านมา เพื่อให้ส่วนรวม สังคม และประเทศชาติ กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง มั่นใจอย่างยิ่งว่าประเทศไทยนับจากวันนี้เป็นต้นไปจะไม่ได้เริ่มนับที่ 1 อีก หากทุกอย่างที่เราสร้างกันมาได้รับการต่อยอด จะทำให้เราเดินทางเข้าสู่ “เส้นชัย” ได้เร็ววันขึ้น

เคาะโผ ผบ.เหล่าทัพลงตัวแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม เรียกประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลของกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 24 ส.ค. แต่ยังไม่ลงตัวในส่วนของผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) คนใหม่นั้น ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ได้พิจารณาบัญชีการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพล ประจำปี 2566 เรียบร้อยแล้ว คาดการณ์ว่า พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี “บิ๊กอ๊อฟ” รอง ผบ.ทหารสูงสุด (ตท.24) จะขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ “บิ๊กต่อ” รอง ผบ.ทบ. (ตท.23) เป็น ผบ.ทบ. พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล “บิ๊กไก่” ผู้ช่วย ผบ.ทอ. (ตท.24) เป็น ผบ.ทอ. ส่วนตำแหน่ง ผบ.ทร.ค่อนข้างชัดเจน แล้วว่าจะเป็น พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม “บิ๊กดุง” ผบ.กองเรือยุทธการ (ตท.23 ) ขึ้นมาเป็น ผบ.ทร. บัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลนี้ พร้อมจะนำขึ้นทูลเกล้าฯภายใน 1-2 วันนี้ ระหว่างนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบความเรียบร้อยทางธุรการ

ผู้นำฝ่ายค้านเป็นสิทธิก้าวไกล

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านว่า ตามรัฐธรรมนูญเป็นสิทธิอันชอบธรรมของพรรคก้าวไกล เพราะเป็นพรรคที่มี สส.ในฝั่งของฝ่ายค้านมากที่สุด ส่วนจะรับ หน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่เป็นเรื่องภายในของพรรคก้าวไกล เช่นเดียวกับตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร หากต้องการตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านก็ต้องลาออกจากรองประธานสภาฯ ต้องรอหัวหน้าพรรคก้าวไกลเสร็จสิ้นกระบวนการคดีต่างๆที่ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ สส.ได้ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์เราทำหน้าที่ฝ่ายค้านตามปกติ ในพรรคยังไม่ได้พิจารณาเรื่องผู้นำฝ่ายค้าน ขณะนี้คิดเพียงจะทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศมากที่สุด

“ชวน” ไม่ขอทรยศคนกาให้ ปชป.

ที่โรงแรมคิงปาร์ค อเวนิว กทม. นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมงานมอบรางวัลของสมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย ถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการสอบสวน สส. 16 คน ที่โหวตสวนทางมติพรรค เห็นชอบนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ ว่ายังยืนยันคำเดิมว่า พรรคมีมติชัดเจนให้งดออกเสียง แต่ส่วนตัวได้แจ้งว่าจะขอไม่เห็นชอบ เพราะไม่ต้องการลังเลให้เสียศักดิ์ศรี และทรยศกับความไว้ใจประชาชนคนใต้ และคนที่สนับสนุนพรรคมาตลอด นายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยประกาศด้วยซ้ำว่าใครไม่ปฏิบัติตามมติพรรคให้ลาออก ส่วนตัว ให้ความร่วมมือทุกอย่าง ขณะเดียวกัน สส. 16 คน กลับแหกมติพรรคเอง ขออย่าโกหก ส่วนเรื่องผลการสอบให้คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาดำเนินการไป ให้เป็นหน้าที่ของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะดำเนินการ

“เชาว์” ชี้ช่องเชือด 16 สส.งูเห่า

นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชา ธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กตอบข้อสงสัยเรื่องที่พรรคประชา ธิปัตย์จะดำเนินการขับ สส. 16 คน ที่แหกมติพรรค ว่า มีหลายคนสอบถามว่าพรรคจะจัดการกลุ่ม สส. 16 คนที่โหวตสวนมติพรรคไปลงคะแนนเสียงให้ความเห็นชอบนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯได้อย่างไร ในเมื่อ สส.ทั้ง 16 คน กุมเสียงข้างมากที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) บวกกับ สส. ตามข้อบังคับพรรค ตามที่นายเดชอิศม์ ขาวทอง ระบุว่าการขับ สส.ออกจากพรรค ต้องใช้เสียง สส. ร่วมกับ กก.บห.พรรค 3 ใน 4 ดูไปดูมาก็มาอยู่ตรงนี้หมดแล้ว ไม่รู้ใครจะขับใครกันแน่ เพราะเสียงส่วนใหญ่อยู่ตรงนี้เกือบทั้งหมด แต่เรื่องนี้ไม่ยาก เพราะ สส.ทั้ง 16 คน คือผู้ถูกกล่าวหา ถือเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องที่พิจารณา ไม่ควรเข้าร่วมประชุมเพื่อลงมติพิจารณาความผิดของตนเอง

“พิธา” บอกใบ้วัน-เดือน-ปีเกิด

ที่ตลาด ฮ.กอบโชคทรัพย์แลนด์ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง เมื่อเวลา 11.00 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นำทีมช่วยนายพงศธร ศรเพชร นรินทร์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม สส.ระยอง เขต 3 (อ.แกลง, อ.เขาชะเมา) ท่ามกลางพี่น้องประชาชน พ่อค้า แม่ค้าในตลาดให้การต้อนรับอย่างเนืองแน่น มีคนเข้ามาขอลายเซ็นและเซลฟี่จำนวนมาก นายพิธาประกาศเชิญชวนประชาชนให้ออกมาใช้สิทธิเลือกนายพงศธร ในวันที่ 10 ก.ย.นี้ ให้ถล่มทลาย และขณะเดินผ่านแผงลอตเตอรี่ แม่ค้าได้ขอให้ช่วยอุดหนุน นายพิธาตอบเพียงว่า เกิดวันที่ 5 เดือน 9 เมื่อประชาชนที่มารุมล้อมขอเซลฟี่ได้ยินต่างนำไปเสี่ยงโชคทันที

ปชป.ยกทีมช่วย “หมอบัญญัติ”

ที่ตลาดสามย่าน อ.แกลง จ.ระยอง นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม สส.ระยอง เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรค นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานคณะกรรมการนโยบาย น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง ร่วมรณรงค์หาเสียง มีกลุ่มผู้สนับสนุนเข้ามาพูดคุยและขอถ่ายรูปร่วมชู 2 นิ้ว สัญลักษณ์แห่งชัยชนะ และยังแวะทักทายกลุ่มเด็กเยาวชนที่มาฝึกซ้อมฟุตบอล ต่อมา น.ส.วทันยาให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าพรรคจะหาจุดลงตัวและเชื่อมต่อการทำงานได้ โดยเฉพาะการทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่เป็นบทบาทสำคัญที่พี่น้องประชาชนฝากความหวังไว้กับพรรคประชาธิปัตย์ อยากให้ผู้บริหารและสมาชิกเห็นความสำคัญในการ ร่วมมือกันทำงานทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เพื่อเรียกศรัทธาประชาชนกลับสู่พรรค ปชป.อีกครั้งหนึ่ง และยืนยันว่าการทำงานร่วมกันกับพรรคก้าวไกลจะไม่มีปัญหา และจะเป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็งในสภาชุดนี้อย่างแน่นอน