ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภา คนที่ 1 ยัน มีแต่เตรียมงาน ไม่มีเตรียมเซ็นเอกสารใบลาออก ลั่น ประธานทั้ง 3 วางตัวเป็นกลาง ตั้งรัฐบาล ไม่เกี่ยวงานนิติบัญญัติ ยัน ไม่กังวล ก้าวไกล ขยับตัว ทำอะไรก็เป็นประเด็น
วันที่ 24 ส.ค. เมื่อเวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 กล่าวยืนยัน การจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานนิติบัญญัติ เรื่องของการแต่งตั้งรัฐบาลไม่ได้เกี่ยวกับตำแหน่งรองประธานสภาที่แต่งตั้ง และโปรดเกล้าฯ ไปแล้ว ประธานทั้ง 3 ท่าน ต้องวางตัวเป็นกลางอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเป็นฝ่ายค้านของพรรคก้าวไกลจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของประธานสภาหรือไม่ นายปดิพัทธ์ ตอบว่า ประธานสภา ทั้ง 3 คน วางตัวเป็นกลางอยู่แล้ว ตนเองทำหน้าที่ได้ไม่เกี่ยวกับว่า สังกัดพรรคไหน
เมื่อถามต่อว่า ตำแหน่งรองประธานสภา มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนกฎหมายต่างๆ ของพรรคก้าวไกลหรือไม่ การที่แถลงการณ์เรื่องวิสัยทัศน์ของรองประธานสภา ไม่ได้มาทำหน้าที่ให้พรรคใดพรรคหนึ่ง ผมทำหน้าที่ให้สภา Smart Open และมีสมรรถนะสูง หวังว่า มีผมอยู่ในตำแหน่งนี้ มีประโยชน์ต่อสภาและประเทศแน่นอน ถ้ามีการปรับเปลี่ยนอะไรผมว่าไม่ได้มีสาระสำคัญอะไร ทุกตำแหน่งมีความสำคัญ ผู้นำฝ่ายค้านเองก็มีความสำคัญมาก รองประธานสภาก็มีความสำคัญมากเช่นกัน ผมคิดว่า เราทำตรงนี้ดีที่สุดก่อนและรอมติจากทางฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่า อะไรเป็นตัวตัดสินใจเมื่อเราต้องชั่งน้ำหนักระหว่างตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน และรองประธานสภา คนที่ 1
นายปดิพัทธ์ กล่าวอีกว่า ทุกฝ่ายต้องชั่งน้ำหนักหมด ไม่ว่าจะเลือกอย่างไรก็มีผลลัพธ์ความรับผิดชอบที่แตกต่างกัน แต่ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามที่พรรคก้าวไกลคุยกัน
ส่วนจะรอความชัดเจนในเรื่องคดีของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หรือไม่นั้น ต้องให้ทางพรรคก้าวไกลเป็นคนคุยกันเอง ว่า พรรคจะมีมติอย่างไร เราก็พร้อมจะทำตาม อีกทั้งเบื้องต้นก็ไม่ได้เตรียมเอกสารเซ็นใบลาออก มีเพียงการเตรียมงานเท่านั้น
...
ส่วนจะกังวลกับสถานการณ์ช่วงนี้หรือไม่ เพราะพรรคก้าวไกลจะขยับตัวทำอะไรก็เป็นประเด็น ก็ตอบว่า "ไม่กังวล" การเมืองในสภาเป็นไปไม่ได้ ถ้าเมื่อมีฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลแล้วจะไม่ได้มีการถกเถียงโต้กัน ตราบใดที่ยังยึดข้อบังคับอยู่ก็ต้องดำเนินการไปตามระเบียบของสภา ยืนยันว่า ไม่ได้มีความกังวลอะไร
ส่วนเรื่องที่ถูกท้วงติงเรื่องการแต่งกาย มองว่า เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทุกคนมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ได้ เป็นสิทธิตามข้อบังคับในการประท้วง ถือว่าเป็นเรื่องที่เล็กมาก พร้อมย้ำกับสื่อมวลชนถึงประเด็นรองประธานสภาว่า “โอเคนะ ยังอยู่นะ”