ไม่มีช็อตกราบแผ่นดิน แต่มีการกราบพระบรมฉายาลักษณ์

ตามฉากภายหลังเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวแลนดิ้ง ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีโอกาสออกมาทักทายแกนนำพรรคเพื่อไทย

โบกมือให้กองเชียร์ โชว์ให้สื่อมวลชนชักภาพพร้อมลูกๆ

ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวนำส่งศาลฎีกา ดำเนินพิธีกรรมตามสถานะ “นักโทษหนีคดี” แล้วส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

จากทั้งหมด 3 คดี กำหนดโทษ 10 ปี แต่ติดจริงแค่ 8 ปี

โดยสภาพของผู้ต้องขังที่มีโรครุมเร้าอย่างน้อย 4 โรค ทั้งโรคเกี่ยวกับดวงตา ปอดอักเสบ ความดันสูง มีโอกาสได้สิทธิรับการดูแลเป็นพิเศษกว่านักโทษทั่วไป

จาก “เสือติดปีก” กลายเป็น “แมวเชื่อง” ในที่คุมขัง

“ทักษิณ” ยอมเอาตัวเองเป็น “ตัวประกัน”

“นายใหญ่” มอบตัว พรรคเพื่อไทยหงายไพ่เล่น แทบไม่เหลือแต้มต่อรองแล้ว ตามแนวโน้มสถานการณ์โยงเป็นปมเกี่ยวเนื่องไปกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมร่วมรัฐสภา

ปฏิบัติการดัน “เสี่ยนิด” นายเศรษฐา ทวีสิน ขึ้นแท่นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย

แท็กทีมหามแห่กันแบบ “ม้วนเดียวจบ”

พรรคเพื่อไทย แตะมือทีมเกรียนเซราะกราวภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา ผนึกด้วยทีม 2 ลุง ค่ายรวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ และ “สว.ลากตั้ง” ในปีกของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหลัก ดาหน้ากดปุ่มไฟเขียวแคนดิเดตนายกฯทีมนายห้างดูไบ ผ่านด่านอรหันต์

ทุกอย่างเป็นไปตามดีลอำนาจ สไตล์การเมืองแบบไทยๆผลประโยชน์ลงตัวเหนือสิ่งอื่นใด

...

ในโหมดของ “รัฐบาลพิเศษ” เพื่อความสมานฉันท์

กับเครื่องหมายคำถามจะก้าวข้ามความขัดแย้งพ้นหรือไม่ ในปรากฏการณ์แบบที่ภาพของการแถลงโชว์จับมือตั้งรัฐบาล กระตุ้นกระแส “เพื่อไทยตระบัดสัตย์” แรงอันดับหนึ่งในทวิตเตอร์ กระหึ่มโลกโซเชียลฯ

เป็น “รายจ่าย” สูงๆของทีมนายห้างดูไบในการผสมพันธุ์ข้ามขั้วกับ 2 ลุง

ก่อนอื่นเลย ต้องเซ่นด้วย “เสี่ยเต้น” นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำหัวโจกเสื้อแดง ทนแรงกดดันไม่ไหว ตัดใจไขก๊อกจากตำแหน่งผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย

แสดงสปิริตที่กระทำการหักหาญน้ำใจผู้สนับสนุน

และการแสดงออกแบบนิ่มๆแต่สะท้อนทางความรู้สึกที่รุนแรงเจ็บลึก แบบที่ น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต สส.เชียงใหม่ ผู้เคยต้องโทษติดคุกจากการเปิดหน้าต่อต้านรัฐธรรมนูญฉบับ คสช.ต้องร่อนใบลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย

เพราะไม่เหลือที่ยืนให้ผู้มีอุดมการณ์ต่อต้านเผด็จการ

เช่นเดียวกับอาการพลิ้วไม่ออก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต้องให้เมียโพสต์โซเชียลฯเจาะรูระบายแรงกดดัน ยืนยันขอตั้งรัฐบาลให้จบก่อน จำยอมไขก๊อกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

กลืนน้ำลายไม่ลง จากที่พูดไว้ชัดๆทุกเวที จะถอนสมอทันทีหากพรรคเพื่อไทยสลัดคราบฝ่ายประชาธิปไตยไปตั้งรัฐบาลกับพรรค 2 ลุง

แนวร่วมกระเจิดกระเจิง กองหนุนกระจัดกระจาย

มวลชนที่เคยเป็นกำแพงแน่นๆให้พิง ผุพังทลายตามแรงศรัทธาที่หดหาย

ในขณะที่เกมในสภา รัฐบาลเพื่อไทยต้องเจอฤทธิ์เดชของ “นักเลือกตั้งอาชีพ” ทั้งในค่ายและพรรคร่วมรัฐบาลแย่งกันจับจอง “ทำเลทอง” เสือหิว เสือโหย ไอ้ห้อย ไอ้โหน ที่อดอยากปากแห้งมาพักใหญ่ เผลอละสายตา

อาจเจอปมทุจริตคอร์รัปชัน “จุดตาย” ระบอบทักษิณ

เป็นเชื้อมะเร็งร้ายลามกลับมาได้ตลอดเวลา

ยิ่งเป็นอะไรที่ต้องเจอกับเกมการตรวจสอบที่เข้มข้นดุดัน ตามสัญญาณจากพรรคก้าวไกลที่ลงมติ “โหวตสวน” ไม่ให้ความเห็นชอบกับชื่อของ “เศรษฐา” นายกฯค่ายเพื่อไทย

ตัดหาง ไม่ไว้ไมตรี ไม่มีการปรานีปราศรัยแน่

และด้วยฟอร์มของทีมเด็กรุ่นใหม่ที่โชว์ให้เห็นความจัดจ้านในบทของฝ่ายค้าน ข่มขวัญรัฐบาลเพื่อไทยที่เผชิญปมปัญหา “ศรัทธาติดลบ” ตั้งแต่เริ่มต้น

มันคือโจทย์โคตรหินของคนเป็นนายกฯตัวสูงๆ.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ "วิเคราะห์การเมือง" เพิ่มเติม