“ชัยธวัช” ฉะ “รัฐบาลประยุทธ์” ปรับเกณฑ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2566 ซัด สวัสดิการควรเป็นสิทธิของทุกคน ยัน ก้าวไกลสู้เต็มที่เลือกตั้งซ่อมระยอง ห่วงจัดตั้งรัฐบาล อาจถูกควบคุมจากขั้วอำนาจเดิม

เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 14 สิงหาคม 2566 นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ที่พรรคก้าวไกล ถึงกรณีรัฐบาลเปลี่ยนแปลงเกณฑ์การรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ว่า พรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว เพราะสวัสดิการควรจะเป็นสิทธิของทุกคน ไม่ใช่การสังคมสงเคราะห์ที่จะต้องมาพิสูจน์ความจน ซึ่งการปรับนโยบายเรื่องสวัสดิการที่เป็นเรื่องใหญ่กระทบกับคนจำนวนมาก ไม่ควรทำในช่วงที่ยังไม่มีรัฐบาลใหม่เป็นอย่างยิ่ง และส่วนตัวคิดว่าเมื่อรัฐบาลใหม่ไม่ว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี คงจะต้องเร่งทบทวนเรื่องนี้ 

“ยืนยันว่านโยบายสวัสดิการควรจะถ้วนหน้า การมีสวัสดิการถ้วนหน้าไม่ได้เป็นการเอาเงินไปให้คนรวย ข้อมูลทางวิชาการต่างๆ ชัดเจนว่าสวัสดิการช่วยลดความเหลื่อมล้ำ และคนที่ได้ประโยชน์จากเรื่องดังกล่าวส่วนใหญ่ คือคนที่มีฐานะปานกลางและยากจน ดังนั้นหลายคนอาจจะไม่เข้าใจ มองว่าการให้สวัสดิการถ้วนหน้าโดยไม่แยกแยะว่าใครรวยหรือจนจะทำให้ใช้ภาษีของประชาชนโดยสิ้นเปลือง แต่ความเป็นจริงไม่ใช่อย่างนั้น ที่ผ่านมาการพิสูจน์ความจนมีปัญหาเยอะ เพราะมีคนตกหล่นจากการพิสูจน์ความจนอยู่ไม่น้อย”

ห่วงจัดตั้งรัฐบาล อาจถูกควบคุมจากขั้วอำนาจเดิม

นายชัยธวัช ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการถามความเห็นประชาชนในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ว่า เป็นเรื่องที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ทำกันเอง ไม่ได้เป็นการมอบหมายจากพรรค ซึ่งเรื่องนี้จะนำกลับมาพูดคุยกันอีกครั้งในการประชุม สส. ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (15 สิงหาคม 2566) โดยตอนนี้ยังไม่ได้คุยกันถึงทิศทางของพรรค คาดว่าจะได้ข้อสรุปในที่ประชุม สส.

...

ขณะที่ กรณีพรรคเพื่อไทยเริ่มถูกกระแสกดดันจากพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ขอให้จัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีก่อนโหวตนายกรัฐมนตรี รวมถึงปัญหาเรื่องของตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย มองว่าเรื่องนี้เป็นสถานการณ์ที่น่าลำบากของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายชัยธวัช ระบุว่า การจัดแบ่งตำแหน่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นเรื่องปกติในการจัดตั้งรัฐบาล ทางปฏิบัติก็ปฏิเสธไม่ได้ที่ต้องทำควบคู่กันไป แต่ทั้งนี้มีความเป็นห่วงว่าการจัดตั้งรัฐบาลในสถานการณ์แบบนี้ น่าจะถูกกำกับควบคุมจากขั้วอำนาจรัฐบาลเดิม เป็นสถานการณ์ที่น่าจะปฏิเสธได้ยาก 

ส่วนอยากให้มีการกลับมาร่วมกันเหมือนเดิมหรือไม่นั้น คงอยู่ที่การตัดสินใจของพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคก้าวไกลเข้าสู่โหมดที่เตรียมตัวทำงานไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทไหน เราใช้ช่วงเวลานี้ในการเตรียมงานภายในพรรค พัฒนาความพร้อมและศักยภาพของ สส.ใหม่ 

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าได้พูดคุยกับ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 หรือไม่ หลังจากมีการออกมาทวีตข้อความว่า “ผมไม่ลาออกง่ายๆ หรอก จบนะ” นายชัยธวัช ระบุว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน เรื่องนี้คงจะมีการพิจารณาอีกทีหลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการแล้ว 

เชื่อมั่น ก้าวไกลยังอยู่ในใจชาวระยอง

ขณะเดียวกัน นายชัยธวัช ยังเปิดเผยด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ตนและ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะไปให้กำลังใจ นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ ในการสมัครเลือกตั้งซ่อม สส.ระยอง เขตเลือกตั้งที่ 3 และหากได้ทราบหมายเลขของผู้สมัครก็จะรีบประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใน อ.แกลง และ อ.เขาชะเมา ได้รับทราบ เพราะมีความกังวลว่ายังมีประชาชนอีกมากที่ไม่ทราบว่าจะมีการเลือกตั้งซ่อมวันไหน ซึ่งโดยปกติประชาชนจะไม่ค่อยตื่นตัวในการเลือกตั้งซ่อมเท่ากับการเลือกตั้งทั่วไป จึงต้องเร่งเคาะประตูบ้านและประชาสัมพันธ์ให้ทั่วพื้นที่ให้เร็วที่สุด ว่าจะมีการเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 10 กันยายน 2566

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงความมั่นใจที่จะรักษาแชมป์ สส.ระยอง เขต 3 เลขาธิการพรรคก้าวไกล ตอบว่า “ก็สู้เต็มที่ เท่าที่ไปสัมผัสเดินเคาะประตูบ้านพูดคุยกับประชาชน และพี่น้องประชาชนที่มารอให้กำลังใจเมื่อวาน ทำให้เรามีความมั่นใจว่าพรรคก้าวไกลยังอยู่ในใจของพี่น้องประชาชน อ.แกลง และ อ.เขาชะเมา”