"สมศักดิ์-วิสุทธิ์" ยกทัพคณะยุทธศาสตร์การเกษตรเพื่อไทย ลงพื้นที่สกลนคร ถกรับมือน้ำท่วม-ภัยแล้ง-เอลนีโญ ชี้ ต้องบูรณาการงบให้ทั่วถึง หลังพบประชาชนยังขาดแหล่งน้ำ งง ถนนทำได้ แต่น้ำไม่ทำ

เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 66 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตรมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานยุทธศาสตร์การเกษตร พรรคเพื่อไทย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ นายอภิชาติ ตีรสวัสดิชัย สส.สกลนคร นางสาวจิรัชยา สัพโส สส.สกลนคร นายพัฒนา สัพโส สส.สกลนคร นางสาวสกุณา สาระนันท์ สส.สกลนคร นายเกษม อุประ สส.สกลนคร นายนิพนธ์ คนขยัน สส.บึงกาฬ นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ สส.นครพนม นางมนพร เจริญศรี สส.นครพนม นายสุรพจน์ เตาะเจริญสุข สส.ขอนแก่น นางสาววิภาณี ภูคำวงศ์ สส.ขอนแก่น รวมถึง ดร.นิยม เวชกามา อดีต สส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ดร.ดรุฒ คำวิชิตธนาภา นายศุภจักร บุตรก้ำพี้ นายสมนึก พรมมา นายอดิศักดิ์ สายกระสุน และ จ.ส.ต.ปฏิเวธ เพ็งทะลุง ได้ลงพื้นที่ จ.สกลนคร เพื่อติดตามการพัฒนาศักยภาพด้านการเกษตร โดยได้เดินทางไปที่สำนักงานชลประทานที่ 5 กรมชลประทานสกลนคร เพื่อติดตามการพัฒนาระบบชลประทานในการแก้ปัญหาภัยแล้งจากเอลนีโญในพื้นที่อีสานเหนือ

...

โดย สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ได้ร่วมกันสะท้อนปัญหาว่า การบริหารจัดการน้ำใน จ.สกลนคร ถือว่ามีปัญหาเป็นอย่างมากทั้งเรื่องการทำงานที่ล่าช้า แหล่งกักเก็บน้ำไม่เพียงพอ ไม่สร้างฝายชั่วคราว รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ล้าสมัย จึงอยากให้มีการตรวจสอบก่อนนำไปใช้งาน นอกจากนี้ อยากให้เพิ่มความรวดเร็วในการระบายน้ำให้มากยิ่งขึ้น เมื่อเจอเหตุน้ำท่วม ที่ผ่านมาการอนุมัติงานต่างๆ ที่ผ่านกรมชลประทานยังมีความล่าช้า และงบประมาณในภาคอีสานก็ยังไม่เพียงพอ ดังนั้นต้องมีการบริหารจัดการน้ำให้ทั่วถึง เพราะบางโครงการนั้นยังมีประชาชน เกษตรกรบางกลุ่มเข้าไม่ถึง รวมถึงการบำบัดน้ำเสียก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่กรมชลฯ ต้องเร่งช่วยเหลือประชาชน

ขณะที่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การพูดคุยในวันนี้จะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะประชาชนยังขาดแหล่งน้ำอีกเป็นจำนวนมาก โดยเกษตรกรบางรายต้องขาดทุนเพราะมีน้ำไม่เพียงพอในการทำการเกษตร การทำงานในเชิงบูรณาการ เราต้องช่วยกันออกแบบวางแผนงบประมาณเพื่อให้เพียงพอทั่วประเทศ ทั้งงบซ่อมบำรุง งบพัฒนา งบก่อสร้าง ซึ่งเรื่องการบริหารจัดการน้ำจากนี้ก็ควรต้องทำเป็นวาระแห่งชาติ

"ถนนทำแล้วทำอีก แต่ในส่วนของน้ำกลับไม่สามารถที่จะทำได้ แต่ความเดือดร้อนมีเท่ากัน ดังนั้นต้องเก็บความเห็นให้ได้มากที่สุด เพราะในส่วนของ สส.ก็ต้องผลักดันในสภา ส่วนของกรมชลประทานก็ต้องนำปัญหา กลับไปคิดวิเคราะห์แล้วเดินหน้าทำงาน รวมถึงขณะนี้ภัยแล้งจากเอลนีโญก็กำลังจะเกิดขึ้นในปีหน้า เราจึงต้องเร่งดำเนินการรับมือช่วยเหลือประชาชนให้ได้มากที่สุด" นายสมศักดิ์ กล่าว

ส่วนนายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณกรมชลฯ ที่เดินทางมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในวันนี้ ที่ผ่านมาการอภิปรายในสภามีการร้องเรียนเรื่องเกี่ยวกับชลประทานมากที่สุด เพราะ สส.บางคนดำรงตำแหน่งมา 5 สมัย แต่ก็ยังไม่สามารถทำโครงการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้สำเร็จ รวมถึงบางโครงการเปลี่ยนอธิบดีไปแล้วถึง 3 คน แต่โครงการก็ยังไม่ได้เริ่ม ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีนโยบายเรื่องการเพิ่มพื้นที่แหล่งน้ำชลประทานให้กับพี่น้องประชาชนจำนวน 50 ล้านไร่ รวมถึงเป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้วย

โดยนางมนพรยังได้สะท้อนปัญหาของชาวนครพนมว่า กรมชลฯ ควรจ่ายค่าชดเชยที่ดินให้รวดเร็วขึ้น และแล้วเสร็จก่อนที่จะเข้าทำงาน ส่วนเรื่องการปล่อยน้ำก็ควรคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย เพราะได้ส่งผลเสียไปถึงเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังริมน้ำ

ด้าน นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า จะรับทุกข้อเสนอของ สส.สกลนคร กลับไปศึกษา รวมถึงกลับไปดูแผนงานว่า เรื่องใดจะพอที่ผลักดันได้ เพราะต้องยอมรับว่างบประมาณที่กรมชลฯ มีนั้นต้องกระจายไปยังทั่วประเทศ จึงอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในแต่ละปี แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีที่ สส.จะช่วยกันผลักดันงานของกรมชลฯ ในสภา เพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยตรง.