เปิดปาก "อมรัตน์" เผยความรู้สึกตอนนี้ของคนใน "พรรคก้าวไกล" พร้อมลั่นคนที่ไม่รักษาสัจจะ ถึงจะมีความสามารถก็ไร้ประโยชน์
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 10 สิงหาคม 2566 ในรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ได้พูดคุยกับแขกรับเชิญ คุณอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล และ รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา ม.รังสิต และอดีต กกต. ประเด็น "เพื่อไทย" ขอโทษ "ก้าวไกล" แลกเสียงโหวตนายกฯ แล้วก้าวไกลจะให้อภัยไหม!
คุณอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล เผยว่า ยังมองไม่เห็นความจริงใจ เพราะเมื่อไม่กี่วันเพิ่งจะมาบอกขอแยกตัว ฉีก MOU ทั้ง 2 ฉบับ พอกลับมาแบบนี้เมื่อวานเหมือนซีรีส์เกาหลี ซึ่งเสียใจแทนประชาชน เพราะที่ทำอยู่ทุกวันนี้มันไม่ใช่เรื่องก้าวไกลกับเพื่อไทย แบบนี้ประชาชนได้อะไรจากการกลับไปกลับมา ทำให้การเมืองเป็นเหมือนแกะกับแพะ แกะคือเด็กเลี้ยงแกะ คนที่ไม่รักษาสัจจะ ตลอดมาเวลาพิสูจน์คนว่าไม่เคยรักษาสัจจะ ไม่ว่าจะเรื่องประธานสภา ขนาดทำสัญญาจับมือกันแล้วก็ทำสัญญาเป็นกระดาษทิชชู ฉีกทิ้งไปไม่ไยดี แบบนี้มันเข้าตำราเด็กเลี้ยงแกะ ไม่รักษาสัจจะ คนที่ไม่รักษาสัจจะถึงจะมีความสามารถก็ไร้ประโยชน์
...
ตอนนี้ต้องพูดกันตรงไปตรงมาแล้ว เพราะการเมืองเรามันมีวัฒนธรรมอ้อมค้อมกันไปมาเรื่อยๆ ซึ่งควรพูดกันสั้นๆ และมองไปที่การทำงานดีกว่า การเล่นการเมืองมากๆ แบบนี้มันไม่เกิดประโยชน์อะไรกับประชาชน ตอนนี้ สส.ก้าวไกลทุกคนก็ลงพื้นที่และผลักดัน พ.ร.บ.สำคัญๆ เข้าสภาฯ ทำงานหนักตลอดเวลา
ส่วนแพะก็คือพรรคก้าวไกล เป็นแพะรับบาป คือยังไงคุณก็จับมือรวมกันอยู่แล้ว ซึ่งจับมือกันมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว พยายามรวมกันไล่ก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน ส่วนตัวคิดว่าจะเชื่ออะไรได้กับคนที่โกหกครั้งแล้วครั้งเล่า เรื่องรักษาสัจจะเป็นเรื่องที่สำคัญ คนที่ไม่รักษาสัจจะไม่สามารถเอามาทำอะไรเพื่ออนาคตได้อยู่แล้ว
ขณะที่ รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร เผยว่า เมื่อวานนี้เพื่อไทยแถลงจบที่ 228 เสียง ซึ่งแปลว่ายังไม่ถึงครึ่ง วันนี้เพิ่มอีก 10 เสียง เป็น 238 เสียง ซึ่งก็ยังไม่พอ เมื่อยังไม่พอก็เหลืออีก 2 ทาง คือ 1.หาเสียงจาก สส.มาเพิ่มจากพรรคการเมืองที่เหลือ ซึ่งพรรคการเมืองตอนนี้ที่เหลือจริงๆ แค่ 3 พรรค คือ ประชาธิปัตย์ 25 เสียง, รวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง, พลังประชารัฐ 40 เสียง ซึ่งเหลือแค่ 3 ช้อยส์
คุณอมรัตน์ เผยว่า ความรู้สึกของ สส.ก้าวไกล กับคนในพรรคตอนนี้ คือผิดหวัง รู้สึกว่าเราสูญเสียตำแหน่งประธานสภาฯ ตำแหน่งนายกฯ การเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งๆ ที่เราชนะมาเป็นอันดับ 1 เพราะการเล่นการเมืองแบบตรงไปตรงมา และเชื่อในสัจจะวาจาของเพื่อนฝั่งประชาธิปไตยด้วยกัน ถึงจะมีความระแวงแคลงใจบ้างตลอดเส้นทาง แต่เราก็พยายามคิดว่าคนเราต้องมีศักดิ์ศรี และเชื่อมั่นในศักดิ์ศรี
แต่ในเมื่อมาฉีกกันแบบนี้แล้วสิ่งที่เราจะสูญเสียไม่ได้คือโหวตเตอร์ คนที่เราต้องแคร์มากที่สุดก็คือพี่น้องประชาชนที่ไปเลือกตั้ง 26 ล้านเสียง ตอนนี้เราไม่มีตำแหน่งอะไรเลย แล้วจะมาหลอกให้เราไปโหวตให้ ทั้งๆ ที่โหวตเตอร์ได้สั่งเรามาทุกช่องทางว่าไม่ให้โหวตให้ โดยเสียงสะท้อนมาจากทุกช่องทาง ถ้าเราไปโหวตให้เพื่อไทยอีก ถือเป็นการขัดคำสั่งของเจ้านายเราก็คือประชาชน เพราะถ้าเราสูญเสียพี่น้องประชาชนไปด้วย เราก็จะไม่เหลืออะไรเลย ฉะนั้นประชาชนคือคนที่เราแคร์และฟังมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม สามารถติดตามรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" พร้อมกันได้ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป ได้ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32.