"ธัญวัจน์" สส.ก้าวไกล ดันร่างกฏหมายนโยบายโอบรับความหลากหลาย ชูสมรสเท่าเทียม-คำนำหน้าตามสมัครใจเข้าสภา ลดความเสี่ยงตีตก หลังโหวตนายกฯสะดุด-ตั้ง รบ.ล่าช้า

เมื่อวันที่ 9 ส.ค.66 ที่รัฐสภา นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ร่วมยื่นร่างกฎหมายนโยบายโอบรับความหลากหลาย ให้ประธานสภานำเข้าสู่วาระการพิจารณาของสภา ซึ่งเป็น 1 ในร่างกฎหมาย 9 ฉบับ ใน 3 ชุดกฎหมายเปลี่ยนประเทศของพรรคก้าวไกล

โดย นายธัญวัจน์ กล่าวว่า ในสถานการณ์การเมืองที่ยังไม่ได้มีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลยังไม่สำเร็จ ผลคือทำให้ในวันนี้สภาชุดที่ 26 ยังไม่มีคณะรัฐมนตรี (ครม.) และประเด็นร่างกฏหมายสมรสเท่าเทียม จากสภาชุดที่ 25 ยังค้างพิจารณารอเข้าสู่วาระ 2 ซึ่งมีความเสี่ยงอย่างมาก ที่คณะรัฐมนตรีอาจไม่สามารถยืนยันได้ทันเวลา จากราชกิจจานุเบกษามีการเรียกประชุม 3 ก.ค.64 และมีรัฐพิธีในวันถัดมา ร่างกฏหมายสมรสเท่าเทียมจะตกไปในวันที่ 3 ก.ย.66 จากวันนี้เหลือเวลาอีก 25 วัน การยื่นกฏหมายสมรสเท่าเทียมอีกครั้งในวันนี้นั้น ก็เป็นการทำคู่ขนานกับฉบับที่ค้างอยู่ เพื่อลดความเสี่ยงหากมีการตั้งรัฐบาลล่าช้า และหากฉบับดังกล่าวต้องตกไปจริง การยื่นร่างกฏหมายในช่วงเวลานี้ ก็น่าจะทันเวลาต่อการพิจารณาในสภาชุดนี้

นายธัญวัจน์ กล่าวต่อว่า ร่างกฏหมายโอบรับความหลากหลายอีกฉบับ คือ ร่างพระราชบัญญัติรับรองเพศ คำนำหน้า และคุ้มครองผู้มีความหลากหลายทางเพศ เป็นกฏหมายสำคัญอีกฉบับ ที่ผู้มีความหลากหลายทางเพศได้ต่อสู้มานาน โดยทั่วไปขณะนี้รัฐจะเป็นคนบอกว่าเราเพศอะไร เมื่อเกิดมารัฐก็จะตัดสินจากอวัยวะเพศ แต่ร่างกฏหมายฉบับนี้คือการกลับวิธีคิด คือ การใช้สิทธิประชาชนแสดงเจตจำนงต่อรัฐว่า ตนต้องการดำเนินชีวิตในเพศไหน และสามารถเลือกคำนำหน้าตามสมัครใจได้ ร่างกฏหมายฉบับนี้ได้นำแนวทางของประเทศ อาร์เจนติน่าและมอลต้ามาเป็นต้นแบบ เพราะในวันนี้สิทธิมนุษยชน คือ เราต้องสามารถนิยามเพศตัวเองได้  และรัฐต้องให้สิทธิเจตจำนงในการดำเนินตามอัตลักษณ์ทางเพศของประชาชน

...

"สมรสเท่าเทียม และคำนำหน้าตามสมัครใจ คือ กฏหมายของประชาชน 14 ล้านเสียง นี่คือสัญญาประชาคมที่พรรคก้าวไกลได้สัญญา คือ ความหลากหลายของผู้คนในสังคม" นายธัญวัจน์ กล่าว