ฉลองเบิร์ธเดย์ 74 ปีสุดชื่นมื่น “อุ๊งอิ๊ง” ประกาศ “ทักษิณ” กลับไทยแน่ 10 ส.ค. ที่สนามบินดอนเมือง วอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยใจดี ครวญ “คุณพ่อ” ก็คนไทยคนหนึ่ง “ทักษิณ” วิดีโอคอลย้ำ อีกไม่กี่วันเจอกัน “บิ๊กตู่” ลั่นต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายฉุนสื่อจี้ถามอยู่นั่น “นิพิฏฐ์” เตือนระวังพังทั้งระบบอธิบดีกรมคุกแจงขั้นตอนการรับตัวตั้งแต่ดอนเมืองจนถึงเรือนจำ ชี้เข้าข่ายถือเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ “ชัยธวัช” ออกตัวไม่เกี่ยวกับตั้งรัฐบาล “ธนาธร” นิ่งข่าวบินพบ “ทักษิณ” ที่ฮ่องกง เพื่อไทยโวได้เสียง สว.หนุนเพิ่ม “ประเสริฐ” ปัดยืมมือขั้วเก่าผลัก ก.ก.พ้นวงโคจร ลุยปรับเนื้อหาเอ็มโอยู 8 พรรค “ชัยธวัช” ย้ำเบอร์ 1-2 จับมือกันแน่นใครก็ทำอะไรไม่ได้ “ปดิพัทธ์” ไม่ปฏิเสธโดนบีบเป็นฝ่ายค้าน “วันนอร์” ย้ำเลื่อนโหวตนายกฯไร้การเมืองแทรก 3 ส.ค.ศาล รธน.เคาะคำร้องญัตติชงนายกฯ ม็อบนัดแต่งดำแยกราชประสงค์
การจัดตั้งรัฐบาลโดย 8 พรรคร่วมฝ่ายเสรีประชาธิปไตย ที่เต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนามพร้อม จะพลิกขั้วเปลี่ยนข้างได้ตลอด ถูกเติมสถานการณ์ร้อนเมื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ส่งสัญญาณผ่าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย บุตรสาว จะกลับประเทศไทยแน่วันที่ 10 ส.ค.นี้
แห่อวยพร “ทักษิณ” ครบ 74 ปี
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 ก.ค. ที่ตำหนักสมเด็จพระสังฆราช ญาโณทยมหาเถระ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร มีบรรดานักการเมือง และญาติๆนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนรี อาทิ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ อดีต สส.กทม. นางพอฤทัย ชินวัตร ภรรยานายพายัพ ชินวัตร นายฤภพ ชินวัตร หลานชาย น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ หลานสาว ร่วมทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 74 ปี แก่นายทักษิณที่จัดเป็นประจำทุกปี ทางคณะร่วมกันถวายสังฆทาน ผ้าไตร ตาลปัตร เทียนพรรษา จตุปัจจัยไทยธรรม จากนั้นพระสงฆ์จำนวน 9 รูปเจริญพระพุทธมนต์
...
“อิ๊ง” เฉลย “ทักษิณ” กลับ 10 ส.ค.
ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายก รัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย โพสต์อินสตาแกรมว่า “26 ก.ค.ของทุกปี เป็นวันสำคัญของลูกเสมอ แต่ปีนี้ลูกยังไม่อยากจะเชื่อตัวเอง ในสิ่งที่ลูกกำลังจะพิมพ์ พ่อจะกลับมาแล้ววันที่ 10 ส.ค.นี้ ที่สนามบินดอนเมือง 17 วันเกิดที่ต่างประเทศของพ่อ ลูกพลาดไปแค่สองครั้ง ถ้ารวมปีนี้คือครั้งที่สาม เพราะต้องเตรียมหลายอย่างที่เมืองไทย ใจของลูกและทุกคนในครอบครัวเราหนักอึ้ง ทั้งดีใจ ทั้งเป็นห่วง แต่ก็เคารพการตัดสินใจของพ่อเสมอ ขอให้บุญรักษาให้พ่อของลูกแข็งแรงปลอดภัย ได้มาส่งหลานๆไปโรงเรียนบ่อยๆเหมือนที่พ่อตั้งใจ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายใจดีกับพ่อของลูก เหมือนที่พ่อใจดีกับทุกคนเสมอ รักพ่อที่สุดในโลก”
ครวญ “คุณพ่อ” ก็คนไทยคนหนึ่ง
น.ส.แพทองธารระบุอีกว่า “สำหรับพี่น้องที่อ่านมาถึงตรงนี้ คุณพ่อเป็นคนไทยคนหนึ่ง เป็นนายกฯที่ถูกพูดถึงว่ามีผลงานมากที่สุด ประสบชะตากรรมถูกกระทำแสนสาหัส การตัดสินใจกลับบ้านครั้งนี้เป็นสิ่งที่คุณพ่อพูดอย่างจริงจังต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี 2565 แม้จะอยู่บนพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ และในฐานะคนไทยคนหนึ่ง แต่คำนึงถึงอย่างที่สุดต่อความสบายใจ และกังวลห่วงใยของทุกคนค่ะ #74yearsyoung #tonywoodsome”
“ทักษิณ” ย้ำอีกไม่กี่วันเจอกัน
สำหรับพื้นที่ที่เป็นฐานที่มั่นของพรรคเพื่อไทย และกลุ่มคนเสื้อแดง ก็ร่วมจัดทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันเกิดนายทักษิณเช่นกัน อาทิ ที่วัดมหาวนาราม(วัดป่าใหญ่) จ.อุบลราชธานี กลุ่มแฟนคลับชาวอุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร จัดกิจกรรม “HAPPY BIRTHDAY สุขสันต์วันเกิดลุงโทนี่ 74 ปี” มีประชาชนในพื้นที่ สส. อดีต สส. พรรคเพื่อไทย ร่วมกิจกรรม อาทิ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ สส.บัญชีรายชื่อ นายสมคิด เชื้อคง อดีต สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีการถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์จำนวน 9 รูป ทั้งนี้ นายทักษิณได้วิดีโอคอลมาพูดคุยกับผู้ร่วมงาน พร้อมขอบคุณที่จัดงานให้ ขอให้ทุกคนโชคดี “เราจะได้พบกันอย่างใกล้ชิดเมื่อผมกลับประเทศไทย ซึ่งคงอีกไม่กี่วันก็จะได้กลับ ความจริงอยากกลับเร็วที่สุด แต่บังเอิญติดวันหยุดหลายวัน”
เพื่อนมงฟอร์ตฯตั้งตารอรับ
ที่วัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ บ้านเกิดของนายทักษิณ ชินวัตร กลุ่มศิษย์เก่าร.ร.มงฟอร์ตวิทยาลัย รุ่น 08 และพี่น้องเสื้อแดง ร่วมทำบุญวันเกิดให้นายทักษิณ มีการนิมนต์พระสงฆ์สวดชัยมงคลคาถา ถวายปัจจัย ถวายเพล พระสงฆ์จำนวน 13 รูป บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น เช่นเดียวกับที่ จ.นครราชสีมา ชมรมคนเสื้อแดงโคราช นัดพบปะรับประทานอาหารร่วมกันที่ตลาด CEO ในโอกาสวันคล้ายวันเกิดนายทักษิณ ที่จัดเป็นประจำทุกปี มีการพูดคุยกันถึงโพสต์ของ “อุ๊งอิ๊ง” ที่ระบุว่านายทักษิณจะเดินทางกลับไทยวันที่ 10 ส.ค.ที่จะนั่งเครื่องบินส่วนตัวมาลงที่สนามบินดอนเมือง ก่อนจะพากันเป่าเค้กขนาด 1 ปอนด์ ที่เตรียมไว้
เอฟซี พท.รับได้ ก.ก.เป็นฝ่ายค้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า เนื่องในโอกาสวันที่ 26 ก.ค. ตรงกับวันคล้ายวันเกิดปีที่ 74 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ส่งผลให้บรรยากาศที่พรรคเป็นไปอย่างคึกคัก มีกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางมาร่วมอวยพรวันเกิดให้ตลอดทั้งวัน โดยกลุ่มประชาชนผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย นำโดย นายนิยม นพรัตน์ มอบช่อดอกไม้และเค้กสนับสนุนให้จัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ตัวแทนกลุ่มอ่านแถลงการณ์ว่า ขอแสดงออกถึงการสนับสนุนแนวทางการดำเนินการตามวิถีทางประชาธิปไตย ขอให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำหลักหาเสียงโหวตแคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย และหวังอย่างยิ่งว่าจะได้รับความสนับสนุนจากพรรคก้าวไกล และหวังว่าจะยังจับมือเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเช่นเดิม แต่หากพรรคก้าวไกลเลือกยึดมั่นในอุดมการณ์และนโยบายของพรรคที่ได้หาเสียงไว้ ด้วยการถอยไปเป็นฝ่ายค้าน พวกเราก็เคารพการตัดสินใจ
จับเข่า สส.ถกทิศทางการเมือง
ต่อมาเวลา 18.00 น. มีการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พร้อมแคนดิเดตนายกฯทั้ง 3 คนของพรรคเข้าร่วม ได้แก่ นายเศรษฐา ทวีสิน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และนายชัยเกษม นิติสิริ เนื้อหาในที่ประชุมได้พูดคุยถึงทิศทางการเมืองหลังจากนี้ ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม สส.รวมตัววิดีโอคอลไปอวยพรวันเกิดให้กับนายทักษิณ บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น
“อิ๊ง” ขอบคุณกระแสต้อนรับพ่อ
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ยอมรับเมื่อช่วงเช้าตื่นเต้นขณะตัดสินใจโพสต์แจ้งว่าคุณพ่อจะเดินทางกลับไทยวันที่ 10 ส.ค. ตั้งใจไว้แล้วว่าจะโพสต์ข้อความว่าอะไร รู้สึกว่าวันนี้มาถึงแล้วที่จะโพสต์บอกขอบคุณกระแสต้อนรับคุณพ่อ รู้สึกดีใจแทน ส่วนตัวเห็นว่าคุณพ่ออาจรอไม่ไหวแล้ว ด้วยเคยประเมินไว้ว่าต้องการกลับมาตั้งแต่เดือน ก.ค. ยอมรับว่ายังห่วงเรื่องของความปลอดภัยเพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง คุณพ่อเป็นคนจัดการเองทั้งหมด ตนมีหน้าที่แจ้งให้ประชาชนรับทราบ เหตุผลที่เลือกลงสนามบินดอนเมืองเนื่องจากจะนั่งเครื่องบินส่วนตัวมา แต่ไม่ทราบในรายละเอียดว่ามีการประสานกับทางการไว้แล้วหรือยัง คาดว่าคุณพ่ออาจประเมินสถานการณ์การเมืองไว้แล้วว่าการโหวตนายกฯ หรือสถานการณ์การเมืองทุกอย่างน่าจะจบลง เป็นเวลาที่ค่อนข้างสงบ เป็นเหตุผลครอบครัวไม่ใช่เหตุผลการเมือง และพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
“ทักษิณ” ยันกลับไทยเลี้ยงหลาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังปิดการประชุม สส. ได้มีการวิดีโอคอลไปอวยพรวันเกิดนายทักษิณ โดยนายทักษิณกล่าวกับผู้ร่วมงานที่อยู่ร่วมอวยพรว่า “จะเดินทางกลับมาวันที่ 10 ส.ค. ส่วนรายละเอียดให้ผู้เกี่ยวข้องเป็นคนประสาน อยากกลับมาเลี้ยงหลาน แล้วให้ น.ส.แพทองธารมาอยู่ช่วยงานที่พรรค ส่วนนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ คงอยู่ที่ทำเนียบ”
“อ๋อย” ตื่นเต้น “พี่โทนี่” กลับไทย
นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยังไม่ทราบข้อมูลเรื่องที่นายทักษิณจะเดินทางกลับมาวันที่ 10 ส.ค. เพิ่งรู้จากสื่อเช่นกันแสดงความเห็นไม่ถูก ในพรรคเพื่อไทยไม่มีใครทราบ แต่เท่าที่ทราบนายทักษิณเคยพูดว่าไม่มีอะไรมาเกี่ยวกับพรรค เมื่อถามว่าตื่นเต้นหรือไม่ที่นายทักษิณจะกลับไทย นายจาตุรนต์ตอบว่า “ก็ตื่นเต้น” เมื่อถามว่าจะไปรอต้อนรับหรือไม่ นายจาตุรนต์ตอบว่า ยังไม่ได้คุยกันเลย เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยพูดคุยเรื่องการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯแล้วหรือยัง นายจาตุรนต์ตอบว่า ยังไม่ได้คุยกัน แต่สัปดาห์ที่ผ่านมาเหมือนจะสรุปกันแล้ว แต่ยังไม่เห็นประกาศเป็นทางการ
“ต๋อม” ออกตัวไม่เกี่ยวกับตั้ง รบ.
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่าไม่ทราบรายละเอียดที่นายทักษิณจะกลับไทย ไม่เกี่ยวกับพรรคก้าวไกล และคงไม่เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล เมื่อถามถึงกระแสข่าวจะมีแกนนำก้าวไกลบินไปพบนายทักษิณที่ฮ่องกง จะมีการต่อรองเงื่อนไขการเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายชัยธวัชตอบว่า ไม่น่าจะใช่ การเจรจาต้องรอการประชุมของ 8 พรรคร่วม เมื่อถามย้ำว่าไม่มีการเดินทางไปพบนายทักษิณ หรือไม่ทราบข้อมูล นายชัยธวัชตอบว่า ไม่น่าจะมีการคุยกันตามที่เป็นข่าว ขณะนี้ต้องใช้กลไกของ 8 พรรคร่วมฯ และการประชุมร่วมกันของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยเป็นหลัก
“ธนาธร” นิ่งข่าวบินพบ “ทักษิณ”
ที่อาคารอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เดินทางเข้ามาที่อาคารอนาคตใหม่ ทันทีที่ลงจากรถบริเวณลานจอดชั้น 2 นายธนาธรได้หันมายิ้มให้ผู้สื่อข่าว แต่ไม่ได้ตอบคำถามถึงกระแสข่าวเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเจรจาลับท่ามกลางกระแสข่าวถูกจับตาว่านายธนาธรเป็นหนึ่งในบุคคลที่เดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพื่อเจรจาลับเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลที่ฮ่องกงก่อนหน้านี้
“บิ๊กตู่”เห็นแต่ข่าวว่าจะกลับมา
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยังคงเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ก่อนจะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 8/2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ติดต่อมาแล้วใช่หรือไม่ว่าจะเดินทางกลับไทยวันที่ 10 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ถามกลับว่า “ติดต่อใคร” ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าติดต่อฝ่ายความมั่นคง ตามที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ระบุจะเดินทางกลับวันที่ 10 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ตอบสั้นๆว่า “ไม่ทราบ เห็นแต่ข่าวเฉยๆ” เมื่อถามว่าต้องเตรียมแผนรองรับหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ส่ายหน้า ไม่ตอบคำถามดังกล่าว
ต้องเข้าสู่กระบวนการตาม ก.ม.
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงกรณีนายทักษิณจะเดินทางกลับไทยว่า เขามีกระบวนการอยู่แล้ว กลับมาก็ต้องมีคนไปรับและดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมาย ไม่ต้องประสาน มาเมื่อไหร่ก็เข้าสู่กระบวนการอยู่แล้ว เมื่อถามว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการรายงานอะไรบ้างหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ยังไม่ได้รายงาน ไม่มีอะไร ไม่มีข่าว ข้อมูลข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏ เมื่อถามต่อว่าสั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “ไม่ต้องสั่ง เอ๊ะ! ทำไมต้องให้ผมไปสั่งในทุกเรื่อง ตำรวจเขาก็ทำหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว ใครจะไป ใครจะมาไม่มีเฉพาะรายหนึ่งรายใด ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยวิธีการเดียวกันนั่นแหละ ใช่ไหมล่ะ” เมื่อถามย้ำว่ามองอย่างไรกับการกลับมาของนายทักษิณในช่วงจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่คิด เป็นไปตามกฎหมาย
“นิพิฏฐ์” เตือนระวังพังทั้งระบบ
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “คุณทักษิณกลับไทย ฟังข่าวคุณอุ๊งอิ๊งกล่าวว่าคุณทักษิณจะกลับไทย 10 ส.ค. เรื่องนี้ทำท่าว่าจะจริง ถ้าจริงผลจะเป็น อย่างไร คุณทักษิณสามารถกลับได้ตลอดเพราะเป็นคนไทย แม้มีคดีอยู่ก็ตาม ปัญหาคือเข้ามาแล้วต้องทำอย่างไร ง่ายๆคือเจ้าหน้าที่ต้องจับกุมตามหมายศาล แล้วควบคุมตัวส่งศาล จากนั้นศาลจะส่งไปยังเรือนจำในเขตอำนาจศาล คุมขังแล้วทำอย่างไร คดีที่ถึงที่สุดแล้วก็ขังยาวไปเลยจนครบกำหนดโทษ คดีที่อยู่ระหว่างพิจารณาก็นำเข้าสู่การพิจารณาสู้คดีกันไป ขอประกันได้หรือไม่ ตอบว่ายาก เพราะคดีถึงที่สุดแล้ว ถามว่ามาแล้วจะขังที่เรือนจำหรือโรงพยาบาล ฟันธงเลยโรงพยาบาลติดแอร์อย่างดี เขาวางแผนจะทำอย่างไรต่อไป อันนี้สำคัญ มีทางออก 2 ทาง แต่ยากมาก กระทบบางเรื่องที่สำคัญ งานนี้ถ้าพลาดคือพลาดทั้งระบบ และพังทั้งระบบ”
อธิบดีคุกแจงขั้นตอนการรับตัว
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับตัวนายทักษิณ ชินวัตรเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมว่า เมื่อนายทักษิณเข้ามาไทย ขั้นตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จะรับตัวและทำบันทึกการจับกุมตามขั้นตอน กรมราชทัณฑ์ต้องว่าไปตามหมายศาล รอดูว่าจะมีคำสั่งหรือหมายศาลคดีใดแจ้งมา เมื่อนายทักษิณเข้าสู่ขั้นตอนของศาลเสร็จสิ้น หากเป็นคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ กทม. เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะควบคุมตัวนายทักษิณไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ขณะนี้ยังไม่ได้รับหมายศาลใด
เข้าข่ายถือเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ
นายอายุตม์กล่าวอีกว่า การจำแนกคัดกรองผู้ต้องขังดำเนินการตามขั้นตอนทั่วไปตามระเบียบ ตรวจสอบประวัติ ทำทะเบียนประวัติ นายทักษิณถือเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ หากมีโรคประจำตัวต้องเข้ารับการรักษาต่อเนื่อง ราชทัณฑ์จะมีแพทย์ประจำเรือนจำฯ ใช้ดุลพินิจจำแนกผู้ต้องขัง จะนำตัวไปยังห้องกักโรคของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ประมาณ 10 วัน ถัดไปจึงเข้าสู่กระบวนการรักษาโรค ย้ายไปยังหอผู้ป่วย คล้ายกรณีของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่วนกรอบระยะเวลาการรักษาโรคไม่ได้มีกำหนดไว้ แพทย์ประจำเรือนจำเป็นผู้ประเมินอาการ และให้ความเห็นการรักษาและเรื่องนี้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ รักษาราชการแทน รมว.ยุติธรรม ยังไม่มีการประสานมาแต่อย่างใด
เพื่อไทยโวได้เสียง สว.หนุนเพิ่ม
ที่รัฐสภา เวลา 09.15 น. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสาเหตุการยกเลิกประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่า กระบวนการต่างๆอยู่ระหว่างการทำงาน โดยเฉพาะการเจรจากับ สว. รอผลการตัดสินใจหลายอย่าง และสภาฯเลื่อนโหวตนายกฯวันที่ 27 ก.ค. ทั้งนี้ ผลการ พูดคุยกับ สว.ถือว่าได้เสียงพอสมควร 13 เสียงเดิมพรรคก้าวไกลยืนยันยังอยู่ ขอให้คอยสักนิดยังมีเวลา บางคนมีเงื่อนไขเรื่องมาตรา 112 บางคนไม่มี ขอไปทำตัวเลขก่อน ไม่อยากคิดว่าไปถึงไหน นอกจากคุยกับ สว.แล้ว ยังได้คุยกับพรรคอื่นเกือบหมดแล้ว เป็นเรื่องที่ 8 พรรคต้องมาคุยอีกครั้ง ส่วนกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลมองหน้ากันไม่ติดนั้น ไม่มี ยังต่อสายคุยนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล และนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ถึงเหตุผลการเลื่อนประชุม 8 พรรค ทุกคนยอมรับ หากพรรคเพื่อไทยจะนัดวันใดก็พร้อม ส่วนที่พรรคเพื่อไทยไปหารือกับพรรคการ เมืองอื่น ไม่ใช่การยืมมือเพื่อผลักพรรคก้าวไกลออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีการคุยเรื่องการร่วมรัฐบาล หรือตำแหน่ง ครม. การไปคุยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ ก็ออกหมายสาธารณะผ่านสื่อ
ลุยปรับเนื้อหาเอ็มโอยู 8 พรรค
นายประเสริฐกล่าวว่า ส่วนข้อเสนอของเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ ที่ระบุควรทำเอ็มโอยูฉบับใหม่นั้น ถ้ามีการนัดหมาย 8 พรรคร่วมอีกคงพูดคุยเรื่องนี้ เพื่อปรับแก้เอ็มโอยูให้สอดคล้องขึ้น เอ็มโอยูเดิมระบุจะสนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โอกาสเป็นไปไม่ได้แล้วขณะนี้ เมื่อถามว่าล่าสุดพรรคก้าวไกลจะเสนอที่ประชุมรัฐสภาให้ทบทวนมติวันที่ 19 ก.ค. กรณีไม่ให้เสนอชื่อนายพิธาโหวตนายกฯซ้ำรอบ 2 นายประเสริฐตอบว่า ขอดูเหตุผลก่อนว่าพรรคก้าวไกลจะยื่นหรือไม่ และดูรายละเอียดก่อน เมื่อถามว่า เป็นห่วงกรณีการเสนอแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย แล้วจะโดนตีตกเหมือนพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายประเสริฐตอบว่า ไม่ห่วง คุณสมบัติแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทยครบ อยากให้เสนอครั้งแรกแล้วผ่าน เพราะโหวตมา 2 รอบแล้ว เมื่อถามถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะกลับไทยวันที่ 10 ส.ค. นายประเสริฐตอบว่า เพิ่งทราบพร้อมกับสื่อ
“ณัฐวุฒิ” ชี้ต้องได้รัฐบาลโดยเร็ว
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้ควรต้องมีทางออก และทางออกต้องได้รับความเห็นชอบร่วมกันของ 8 พรรคร่วม ท้ายที่สุดจะร่วมทำงานด้วยกันได้ตลอด รอดฝั่งหรือไม่ทีมเจรจาต้องหาข้อสรุปกัน ส่วนตัวยังย้ำจุดยืนเดิมทุกประการ เคยพูดอะไรไว้อย่างไรก็ยังมีความเห็นแบบนั้น เมื่อถามว่าสภาวะประเทศจำเป็นต้องมีรัฐบาลโดยเร็วหรือไม่ นายณัฐวุฒิตอบว่า ถ้าเร็วได้มันดีอยู่แล้ว แต่ถ้าช้าก็ต้องดูว่าช้าเพราะอะไร
ก.ก.ขออย่าเพิ่งฟันธงฉีกเอ็มโอยู
ที่พรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงโอกาสที่พรรคก้าวไกลจะพลิกกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้งว่า ทุกอย่างเป็นไปได้หมด แต่สิ่งที่อยากผลักดันตอนนี้คือควรปลดล็อกมติที่ประชุมรัฐสภาที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทำให้การเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯซ้ำไม่ได้ ในส่วนนี้จะเป็นเงื่อนไขบีบให้จัดตั้งรัฐบาลของ 8 พรรคร่วมมีปัญหาได้ ไม่ว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯจากพรรคใดก็ตาม เมื่อถามอีกว่าหากปลดล็อกเรื่องนี้ได้จะเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซ้ำอีกครั้งหรือไม่ นายชัยธวัชตอบว่ายังไม่ได้คุยกัน เมื่อถามย้ำว่ายังมั่นใจใช่หรือไม่ว่าจะไม่ไปถึงขั้นฉีกเอ็มโอยู นายชัยธวัชตอบว่า อย่าเพิ่งไปประเมิน สิ่งสำคัญคือความต้องการและความคาดหวังจากประชาชนที่อยากเห็นพรรคอันดับ 1 และ 2 ที่เป็นฝ่ายประชาธิปไตยจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน เพื่อยุติการสืบทอดอำนาจของขั้วอำนาจเดิม เชื่อว่า 8 พรรค โดยเฉพาะพรรคอันดับ 1 และ 2 จับมือกันแน่น รัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นไปได้ยากกว่ารัฐบาลเสียงข้างมาก
“ปดิพัทธ์” แจงฉีกเอ็มโอยูทำได้
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการงดประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 27 ก.ค. เพื่อโหวตเลือกนายกฯว่า เราเคารพการตัดสินใจของประธานฯ แต่มีวาระที่น่าเสียดายคือวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ทำให้ไม่ถูกพิจารณาไปด้วย เมื่อถามว่ามีผู้เสนอให้ฉีกเอ็มโอยูของ 8 พรรคร่วม ให้พรรคเพื่อไทยร่างเอ็มโอยูขึ้นมาใหม่ นายปดิพัทธ์ตอบว่า เป็นสิทธิที่ทำได้ ส่วนการโหวตเลือกนายกฯยังมีความซับซ้อนในเรื่องผู้ตรวจการแผ่นดินและศาลรัฐธรรมนูญ ต้องตั้งวาระให้รอบคอบขึ้น รอดูความพร้อมจากทุกฝ่าย
ไม่ปฏิเสธถูกบีบเป็นฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่าที่ประชุมจะโหวตเลือกนายกฯอีกครั้งต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อนหรือไม่ นายปดิพัทธ์ตอบว่า ต้องถามประธานรัฐสภา ยืนยันว่าขณะที่การเลือกนายกฯยังไม่เรียบร้อย กระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติจะเดินหน้าได้ ตนรับผิดชอบในเรื่องการบรรจุร่าง พ.ร.บ.ต่างๆ เมื่อถามถึงกระแสข่าวบีบพรรค ก.ก.ไปเป็นฝ่ายค้าน นายปดิพัทธ์ตอบว่า ไม่สามารถตอบแทนพรรคได้ ดูจากท่าทีแกนนำพรรคหลายคน คิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องว่าจะทำอะไรก็ได้ให้ได้เป็นรัฐบาล เพราะทุกพรรคมีจุดยืนชัดเจน เมื่อถามถึงกรณีหากเลื่อนการโหวตเลือกนายกฯไปอีก 10 เดือน นายปดิพัทธ์ตอบว่า ขอสงวนไว้สำหรับความเห็นของประธานรัฐสภา
รื้อเอ็มโอยูเป็นสิทธิเพื่อไทย
นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ กล่าวถึงข้อเสนอให้แก้เอ็มโอยู 8 พรรคร่วมว่า เอ็มโอยูส่วนใหญ่ทั้ง 23 ข้อ เป็นนโยบายของพรรคก้าวไกลทั้งหมด เมื่อส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เอ็มโอยูเดิมจึงใช้ไม่ได้ ต้องให้พรรคเพื่อไทยทำใหม่ แต่จะทำหรือไม่แล้วแต่พรรคเพื่อไทย จะไปเอาพรรคอื่นมาร่วมเพื่อให้ได้ถึง 375 เสียง หรือจะยึดใน 8 พรรคร่วมก็สามารถทำได้ เมื่อถามว่าการฉีกเอ็มโอยูเดิมแล้วร่างใหม่จะกระทบความสัมพันธ์ 8 พรรคหรือไม่ นายเชาวฤทธิ์ตอบว่า อยู่ที่พรรคเพื่อไทย หากยึดร่างเดิมแล้วนำมาเปลี่ยนแปลง แก้ไข เพื่อสนับสนุนแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย แล้วเอา 8 พรรคร่วมเดิมมาเป็นเหมือนแนวร่วมก็เหมือนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนข้อความเท่านั้น
เปิดทางจีบขั้วเก่าผสมพันธุ์
เมื่อถามว่าจะมีการนำเรื่องนี้มาหารือในที่ประชุม 8 พรรคร่วมหรือไม่ นายเชาวฤทธิ์ตอบว่า จะนำไปหารือ ส่วนจะดึงพรรคไหนมาร่วมเพื่อให้ได้ถึง 375 เสียง 8 พรรคร่วมมอบอำนาจให้พรรคเพื่อไทย เป็นผู้ประสานกับพรรคอื่นและ สว. พวกเราไม่ได้ติดใจอะไร เพราะมอบอำนาจให้เพื่อไทยไปหมดแล้ว พรรคเพื่อไทยก็ต้องไปทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ส่วนที่พรรคก้าวไกลมองว่าการเจรจาของพรรคเพื่อไทยกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิมเป็นการยืมมือเพื่อนเพื่อผลักพรรคก้าวไกลคงไม่เป็นอย่างนั้น เพราะพรรคเพื่อไทยเชิญพรรคต่างขั้วมาปรึกษาหาทางออกทั้ง 5 พรรคร่วมรัฐบาลเดิมให้คำแนะนำว่ามีปัญหาอะไร และควรแก้ไขอย่างไร
“วันนอร์” ติว สส.อย่าทำตัวขี้เรื้อน
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานพิธีเปิดโครงการสัมมนาบทบาทหน้าที่ของ สส.กับการสนับสนุนการดำเนินงานและการให้บริการแก่ สส. นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวเปิดงานว่า เป็น สส.มา 44 ปี 11 สมัย ขอพูดในฐานะ สส.รุ่นพี่ด้วยความเป็นกันเอง เชื่อว่าทุกคนมีที่มาเหมือนกันคือ สมัครใจเป็นผู้แทนของประชาชน ต้องไม่ลืมว่าอำนาจอธิปไตย สส.มาจากประชาชน เมื่อได้เป็นผู้แทนอย่าเบื่อประชุมสภา อยากให้ สส.ตั้งใจพยายามทำงาน ชีวิตผู้แทนไม่มีใครเหนือใคร 4 ปีต้องเลือกตั้ง บางคนได้กลับมาอีก บางคนไม่ได้กลับมา บางคนหยุดไปเพราะแปลงร่างเป็นงูเห่า ที่ผ่านมามี 40 คน ที่แปลงร่างไม่เห็นได้กลับมา เป็น สส. อย่าแปลงร่างแม้เฉพาะหน้าดูดีมีความสุข แต่ระยะยาวไม่มีใครมีความสุข ล้มเหลว สมัยนี้ยังดีที่เปรียบเป็นงู สมัยก่อน สส.ย้ายพรรคถูกมองว่าโสเภณีขายตัว หรือถูกเรียกว่า สส.หนังหมา
เน้นประสิทธิภาพออกกฎหมาย
นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า สส.ต้องปรับตัวตามบริบทสังคม หากไม่เปลี่ยนตามบริบทสังคมอาจไม่ได้กลับเข้ามาสภาฯอีก สมัยก่อนช่วงนายสมัคร สุนทรเวช เป็นฝ่ายค้าน ตนเป็นประธานสภาฯ มักหนักใจ เพราะพูดไม่หยุด ไม่ต่ำกว่าครั้งละ 1 ชั่วโมง ไม่มีจำกัดเวลา ตนและนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯช่วยกันคิดว่า ขอให้ได้ประสิทธิภาพในการออกกฎหมาย ในอดีตมี สส.ที่เคารพคือ นายบุญเท่ง ทองสวัสดิ์ อดีต สส.แม่ฮ่องสอน และลำปาง 18 สมัย เป็น สส.สมัยแรก อายุ 25 ปี ที่ จ.แม่ฮ่องสอน จากนั้นลงสมัครที่ จ.ลำปาง ได้เป็นผู้แทน 17 สมัย เคยถามถึงเหตุผล ทราบว่านายบุญเท่งมีภรรยาทุก อำเภอในเขตเลือกตั้ง ให้ช่วยเป็นหัวคะแนน แต่ไม่อยากให้ผู้แทนปัจจุบันเอาแบบอย่าง อาจเกิดปัญหา เพราะมีสมัยหนึ่งพบว่ามีภรรยาหลวงมารอสามีที่เป็นประธานสภาฯ แต่สามีไม่ทราบจึงพาภรรยาน้อยมา ทำให้เกิดเรื่องทะเลาะและถูกตีข่าวไปทั่ว
เลื่อนโหวตไร้การเมืองแทรก
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการเลื่อนวันประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตนายกฯในวันที่ 27 ก.ค. ว่าไม่มีประเด็นการเมืองมาเกี่ยวข้อง แต่พิจารณาแล้วเห็นว่ากรณีผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยมติการประชุมรัฐสภาวันที่ 19 ก.ค. มีปัญหากับรัฐธรรมนูญหรือไม่ และมีประเด็นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้รัฐสภาหยุดการโหวตเลือกนายกฯ ไว้ก่อน จนกว่ามีคำวินิจฉัยเพื่อไม่ให้มีปัญหา ส่วนจะนัดประชุมอีกครั้งช่วงใดอยู่ระหว่างหารือ ต้องรอฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งเช่นไร หากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องไว้พิจารณาก็นัดประชุมได้ทันที ต้องรอความพร้อมจากสมาชิกรัฐสภาด้วย ส่วนที่พรรคก้าวไกลเตรียมเสนอญัตติให้รัฐสภาทบทวนมติที่ประชุมรัฐสภา วันที่ 19 ก.ค.นั้น ต้องรับฟังและปรึกษาหารือได้ แต่จะ ทบทวนมติที่ลงไปแล้วได้หรือไม่ ต้องพิจารณาอีกครั้ง
เชื่อได้นายกฯก่อน สว.หมดอายุ
นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อดีตประธานสภาฯ ให้สัมภาษณ์กรณีข้อเสนอเลื่อนโหวตนายกฯออกไป 10 เดือนจนกว่า สว.หมดอำนาจว่า เป็นเรื่องของพรรคที่เป็นผู้รับผิดชอบ ไม่ขอวิจารณ์ให้ความเห็น เขาคงไม่รอ 10 เดือน เขาคงดำเนินการไปเรื่อยๆก่อนที่จะถึง 10 เดือน เชื่อว่าคงได้ข้อยุติไปแล้ว เมื่อถามว่า สว.ชุดนี้ถือเป็นตัวแปรสำคัญ นายชวนตอบว่า เมื่อเทียบกับครั้งที่แล้ว การตั้งรัฐบาลครั้งนี้น่าจะง่ายที่สุด เพราะมีแค่ 3 พรรคก็รวมเสียงได้ตัวเลขชัดเจน แต่ครั้งที่แล้วมีถึง 19 พรรค แต่บังเอิญมันเกิดมีปัญหาเป็นเรื่องขัดแย้งเกี่ยวกับทัศนคติและนโยบาย
โยน 2 พรรคใหญ่ชี้ชะตาประเทศ
นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า สถานะรัฐบาลที่ไม่เต็มตัว มีข้อจำกัดหลายอย่าง การที่มีผู้เสนอให้รัฐบาลชุดนี้อยู่รักษาการไปอีก 10 เดือน คิดว่าไม่สามารถทำได้ เชื่อว่าความคิดดังกล่าวเป็นความคิดส่วนบุคคล และ 8 พรรคร่วม โดยพรรคที่ได้เสียงข้างมากทราบดีอยู่แล้ว 8 พรรคที่จับมือกันอยู่คงเข้าใจถึงสภาพเป็นอย่างดี 8 พรรค 312 เสียง 2 พรรคใหญ่ก็ 192 เสียง ดังนั้นหัวใจสำคัญอยู่ที่พรรคใดพรรคหนึ่งคงต้องพิจารณาว่าจะให้ประเทศไทยเดินหน้าอย่างไร คงวางแนวทางกันได้คิดกันได้ว่าควรจะเป็นอย่างไร จะดันทุรังต่อจะเอาอนาคตหรือประชาชนมาเป็นตัวประกันหรืออย่างไร อย่าเอาความโกรธแค้นส่วนตัว อย่าเอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาเป็นเหตุอ้างทำให้ประเทศชาติไม่สามารถเดินไปข้างหน้าได้ หากเอาทิฐิมานะเป็นที่ตั้งไม่ยอมกันท่าเดียว ประเทศชาติก็ไปไม่ได้
3 ส.ค.เคาะคำร้องญัตติชงนายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่เอกสารข่าวระบุว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 25 ก.ค. ผู้ตรวจการแผ่นดิน (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 25 ก.ค. พร้อมเอกสารประกอบคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ผ่านระบบงานคดีรัฐธรรมนูญอิเล็ก ทรอนิกส์ (e -Filing) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 กรณีรัฐสภามีมติเรื่องการเสนอชื่อบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกฯ ให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบในรอบที่ 2 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ คดีอยู่ระหว่างการดำเนินการทางธุรการของ สนง.ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเสนอคณะตุลาการพิจารณา คาดว่าจะมีการบรรจุคำร้องดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินหรือไม่ ในวันที่ 3 ส.ค.
ภท.ซัด “ปกรณ์วุฒิ” แถลงเท็จ
ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายตฤณ แก่นหิรัญ ทนายความในคดีข้อกล่าวหาเรื่องการยื่นบัญชีทรัทย์สิน ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ภท. แถลงถึงกรณีที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุว่านายศักดิ์สยามยังคงมีหนี้สินกับห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) บุรีเจริญคอนสตรัคชัน 38 ล้านบาท และมิได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะฝ่ายกฎหมายขอชี้แจ้งข้อเท็จจริงว่า การแถลงข่าวของนายปกรณ์วุฒิเป็นความเท็จทั้งสิ้น ความจริงคือนายปกรณ์วุฒิทราบดีว่านายศักดิ์สยามจำหน่ายจ่ายโอนหุ้นใน หจก.บุรีเจริญฯ และขาดจากการเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของ หจก.บุรีเจริญฯตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.2561 ปรากฏตามหนังสือรับรองและสำเนาคำร้องขอจดทะเบียนของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญฯ ลงวันที่ 6 ก.พ.2561 ที่เป็นเอกสารที่นายปกรณ์วุฒิ นำส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วยตนเอง
แจงหนี้ 38 ล้านตกเป็นของ ผจก.
นายตฤณกล่าวต่อว่า ดังนั้นหนี้จำนวน 38 ล้านบาท ที่ปรากฏในเอกสารงบการเงินของ หจก.บุรีเจริญฯ ปี 2562 ย่อมหมายถึงบุคคลที่มีชื่อเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของ หจก.บุรีเจริญฯ ในขณะนั้น ไม่ใช่นายศักดิ์สยาม นายศักดิ์สยามไม่มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินจำนวนดังกล่าวต่อ ป.ป.ช. ขณะที่นายปกรณ์วุฒิแถลงยอมรับข้อเท็จจริงว่า สิ่งที่ได้แถลงข่าวนั้นเป็นเพียงข้อสันนิษฐานเท่านั้น จึงเป็นการยืนยันในข้อเท็จจริงที่ไม่มีอยู่จริง และขัดแย้งต่อพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนคดีทั้งในศาลรัฐธรรมนูญ และ ป.ป.ช. ส่วนหนี้ 38 ล้านบาทที่อ้างนั้นเป็นการคลาดเคลื่อนไม่ใช่นิติกรรมอำพราง เพราะเกิดขึ้นในปี 2562 นายศักดิ์สยามไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว ในขณะนั้นหุ้นส่วนผู้จัดการของ หจก.บุรีเจริญฯ มี 2 คน แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้เพราะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญไปครบถ้วนทุกประเด็นผ่านเอกสารไม่ต่ำกว่า 1,500 หน้า ทั้งเป็นเอกสารมหาชนสามารถตรวจสอบได้
ป.ป.ช.ลุยสอบ “พิธา” ขายที่ดิน
เมื่อเวลา 17.30 น. ที่สำนักงานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ส่งรายละเอียดคำพิพากษาศาลแพ่ง ที่อ้างเป็นผู้จัดการมรดกหุ้นไอทีวี 42,000 หุ้นให้ ป.ป.ช.ว่า นายพิธาน่าจะส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้ป.ป.ช.แล้ว ส่งล่าช้าหน่อยไม่เป็นไร ไม่เกี่ยวกับเรื่องขาดคุณสมบัติ สส.ที่เป็นหน้าที่ของ กกต. และศาลรัฐธรรมนูญ หุ้นไอทีวีของนายพิธาแค่ 42,000 หุ้น เทียบกับทรัพย์สินของนายพิธามีเป็น 100 ล้านบาท คิดว่าคงไม่ใช่การปกปิดทรัพย์สิน ส่วนกรณีการขายที่ดิน 14 ไร่ ที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยแจ้งมูลค่าที่ดิน 18 ล้านบาท แต่ขายไปในราคา 6 ล้านบาทนั้น คงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นก่อน ว่าทำไมที่ดินถึงมูลค่าลดลง เป็นที่ดินแปลงเดิมหรือไม่ เพราะปกติที่ดินมีแต่จะปรับมูลค่าเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น เพราะเป็นเรื่องราคาพึงพอใจ มูลค่าอาจปรับเปลี่ยน ต้องขอตรวจสอบก่อน
จ่อฟัน 10 นักการเมืองถือที่ดินมิชอบ
นายนิวัติไชยยังกล่าวถึงการตรวจสอบนักการเมืองถือครองที่ดินหรือเอกสารสิทธิโดยมิชอบ หรือสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบว่า เท่าที่ทราบมีกว่า 10 รายที่ ป.ป.ช.จะแจ้งข้อกล่าวหาเร็วๆนี้ โดยแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วบางส่วน แต่ยังมีอีกส่วนที่กำลังตรวจสอบอยู่ เราลงพื้นที่ปูพรมไปแล้วหลายราย จะผิดหรือถูกว่ากันอีกที เพราะเหลือขั้นตอนวินิจฉัย เมื่อถามว่าเป็นกรณีเดียวกับการถือครองเอกสารภ.บ.ท.5 หรือ ส.ป.ก.หรือไม่ นายนิวัติไชยตอบว่า ความจริงการครอบครองที่ดิน เป็นการถือครองต่อเนื่องมาตั้งนานแล้ว หรือบางคนเพิ่งมาครอบครอง ต้องดูเหตุแยกแยะว่าเหตุเกิดเมื่อไร แต่ถ้าปัจจุบันยังถือครองอยู่ ถือว่าผิดจริยธรรม
“ทักษิณ”รอดคดีซื้อเครื่องแอร์บัส
นายนิวัติไชยกล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีกำหนดการกลับไทยวันที่ 10 ส.ค. ยังมีคดีค้างอยู่ในชั้นไต่สวนของ ป.ป.ช.ว่า ยังไม่ได้ดู ไม่แน่ใจเหลืออีกกี่คดี แต่คดีล่าสุดกรณีการจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัส แบบ A340-500 และ A340-600 ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ระหว่างปี 2545-2547 ทำให้การบินไทยมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้นนั้น ป.ป.ช.มีความเห็นให้คดีตกไป เพราะพยานหลักฐานอาจไม่พอรับฟังได้ว่ากระทำความผิด ส่วนจะตีตกผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดเลยหรือไม่ ให้รอแถลงเร็วๆนี้
ฟัง นร.ทุนขับขาน “คนดีไม่มีวันตาย”
ช่วงสายที่ทำเนียบรัฐบาล นายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี นำคณะตัวแทนนักเรียน โครงการทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ม.ท.ศ.) และโครงการทุนเฉลิมพระเกียรติในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 16 คน เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯกล่าวให้โอวาทว่า โครงการทุนการศึกษาพระราชทานฯ เป็นทุนที่ยิ่งใหญ่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานให้แก่เยาวชนมาเกือบ 15 ปี เป็นโอกาสที่พระราชทานแก่คนรุ่นใหม่ และขอให้ทุกคนให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์ สิ่งไหนดีเราก็สืบสานไม่เอามาขัดแย้งกัน ร่วมกันทำให้ประเทศไทยมีความรักความสามัคคี ตอนนี้หลายอย่างทำสำเร็จ หลายอย่างมีปัญหาต้องฟังกันและกัน ตามหลักประชาธิปไตย แต่ต้องมีกติกามีกฎหมาย ให้เกียรติกันและกัน สำคัญคือประเทศไทยจะอยู่ได้ด้วยชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนที่ได้รับการดูแลให้มีความสุข จากนั้นตัวแทนนักเรียนทุนได้แลกเปลี่ยนความเห็นกับนายกฯ และได้ขับร้องเพลง “คนดีไม่มีวันตาย” เป็นกำลังใจให้นายกฯ
ม็อบนัดแต่งดำแยกราชประสงค์
วันเดียวกัน นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และ น.ส.ธนพร วิจันทร์ แกนนำกลุ่มเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน ใช้สื่อสังคมออนไลน์นัดชุมนุมสวมชุดดำ ระบุข้อความ “เลือกตั้งแล้ว เสียงส่วนใหญ่จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ องคาพยพเผด็จการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ เอาข้อบังคับไปตัดสิทธิโหวตนายกฯ กลายเป็นวิกฤติการเมืองไทย ประชาชนรวมพลังกันยึดมั่นประชาธิปไตย เรียกร้อง สว.ลาออก ศาลรัฐธรรมนูญหยุดวินิจฉัยทำลายประชาธิปไตย พบกัน 27 ก.ค. เวลา 17.00-21.00 น. ที่แยกราชประสงค์”
ผลโหวต 3 แพลตฟอร์มให้รอ 10 ด.
อีกด้าน นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หรือฟอร์ด นายภานุมาศ สิงห์พรม หรือเจมส์ แกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอกโพสต์ผลโหวตในหัวข้อว่า “ควรจะรออีก 10 เดือนจนกว่า สว.จะหมดวาระหรือไม่” ผ่านเพจเฟซบุ๊กที่มีผู้ติดตาม 2 ล้านคน ระบุว่า วันนี้เราเปิดให้ประชาชนได้ส่งเสียงใน 3 Platforms ทั้ง Facebook, Instagram และ Twitter แล้ว จากประชาชนผู้ที่ได้ทำโพลกว่า 21,666 คน ผลปรากฏมี 1,645 เสียงที่ “ไม่เห็นด้วย” คิดเป็น 7.59% และมี 20,021 เสียงโหวต “เห็นด้วย” คิดเป็น 92.41% ที่ส่งเสียงออกมาชัดเจนอย่างแลนด์สไลด์ว่า “จำเป็นต้องรอ 10 เดือนให้ สว.ไม่สามารถโหวตนายก (ขอย้ำอีกครั้งว่าอาจเร็วกว่านั้นหาก สว.ยอมกำจัดตนเอง) เพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจจากฝั่งเผด็จการให้จงได้”
ศปปส.แจ้ง ม.112 จับม็อบแยกอโศก
ช่วงบ่ายที่ สน.ทองหล่อ นายอานนท์ กลิ่นแก้ว แกนนำกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน(ศปปส.) นำหลักฐานคลิปปราศรัยเวทีม็อบ #พร้อม ที่แยกอโศกวันที่ 23 ก.ค. เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ให้ดำเนินคดีมาตรา 112 กับนายศุทธวีร์ สร้อยคำ หรือบังเอิญ ผู้ต้องหาคดีพ่นสีกำแพงวัดพระแก้ว ที่อยู่ระหว่างการประกันตัว นายอานนท์กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีม็อบเยาวชน ศปปส.จะมีคนเข้าไปสังเกตการณ์ ถ้ากล่าวพาดพิงสถาบันเบื้องสูงจะดำเนินการตามกฎหมาย ก่อนหน้านี้เมื่อการชุมนุมวันที่ 14 ก.ค. ที่หน้าหอศิลป์ฯได้แจ้งความตามมาตรา 112 กับผู้ปราศรัยไป 1 ราย
ลูกแม่โดมร่วมทวงคืนอำนาจ
ช่วงเย็นที่ลานสัญญา ธรรมศักดิ์ หน้าตึกคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์รังสิต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี กลุ่มนักศึกษาและประชาชนร่วมกันจัดกิจกรรม THE RETURN OF THAMMASAT #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน ทวงคืนอำนาจให้แก่ประชาชนแสดงจุดยืนต่อ 8 พรรคประชาธิปไตย ไม่เอา สว. โดยระดมเขียนป้ายเป็นข้อความต่างๆ เช่น 250>14 ล้าน, มีอะไรอีกไหมที่ลืมหลอก, เรื่อง 112 ก็แค่ข้ออ้าง, กฎหมา (ย) ชายแก่เขียน, นิติปัญญาชนคนเท่ากัน ฯลฯ ติดไว้รอบเวทีปราศรัยและที่ฐานอนุสาวรีย์นายสัญญา ธรรมศักดิ์ อดีตนายกฯ ก่อนพากันขึ้นปราศรัยชู 3 นิ้วโจมตีฝ่ายเผด็จการเล่นเกมใช้รัฐธรรมนูญปี 60 สว. ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นเครื่องมือทำนิติสงครามกับประชาชนเสียงข้างมาก ทำให้ บ้านเมืองเสียหาย และย้ำไม่ให้ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลตระบัดสัตย์กับประชาชน พร้อมกับชักชวนให้มาร่วมชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 10 ส.ค. กำหนดยุติกิจกรรมในเวลา 20.00 น.
เด็กศิลปากรนัดขับไล่ สว.ลากตั้ง
ที่บริเวณประตูด้านหน้ามหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ อ.เมืองนครปฐม นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร และบรรดาสมาชิกด้อมส้ม จัดกิจกรรมชุมนุมขับไล่ สว. ติดแฮชแท็ก “ศิลปากรขับไล่ สว.” ใช้วิธีแบบสันติวิธี งดออกเสียง แต่ละคนจะยืนถือป้ายระบุข้อความ อาทิ “เหี้ยจับกันฉันจะรอดู” “250 มากกว่า 14 ล้าน” “ดีล 10 สิงหาคม พาคนกลับบ้าน พา ปชต.ลงเหว” “rip thailand งดออกเสียง ที่มีเสียง” เป็นต้น ด้านตัวแทนกลุ่มกล่าวว่า วันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการประชาธิปไตย ให้เห็นคุณค่าถึงสิทธิเสียงประชาชนที่ลงคะแนนเลือกตั้ง และวันที่ 27 ก.ค.เวลา 17.00-20.00 น. มีการนัดชุมนุมใหญ่ที่ราชประสงค์ เรียกร้องให้ สว.ลาออก และให้ 8 พรรคผนึกกำลังกันให้เหนียวแน่น ไม่ลดเพดานจากเอ็มโอยูเดิม ปรารถนาให้ยึดหลักการเสียงข้างมากในสภาจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ