ไพ่ใบนี้ แม้แต่เซียนยังเก็งไม่ถูกเลยก็แล้วกัน

ตามอาการเฮี้ยวๆอารมณ์ทะลุกลางปล้องของ “แสนดี” นายแสนปิติ สิทธิพันธุ์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ “เสี่ยทริป” นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงค่ายเพื่อไทย ที่อยู่ๆก็หาญกล้า เปิดหน้ามาล่อเป้า “ด้อมส้ม”

โพสต์กระดานโซเชียลฯ ถล่มยับทีมก้าวไกลแบบไม่ไว้ไมตรี

ฟันธง “หนุ่มทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ หัวขบวนกองทัพส้ม ไม่มีวันได้เป็นนายกรัฐมนตรี มีแค่เด็กหัวรั้นและดื้อด้านที่ต้องการให้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล

ไล่ขบวนแห่ “พ่อส้ม” หลีกไป เปิดทางให้ทีมนายห้างดูไบ

ส่งสัญญาณแทนคนของพรรคเพื่อไทยที่กำลังจ้องรอจังหวะตีชิ่งจากขบวนแห่ “พิธา” รอดักรวบกระดานอำนาจ ชิงสิทธิจัดตั้งรัฐบาล ยึดเก้าอี้นายกฯแทนทีมเด็กรุ่นใหม่

ในอารมณ์ที่นักการเมืองขาใหญ่ไม่กล้าล่อเป้า “ด้อมส้ม” แหยงอารมณ์แค้นกองเชียร์ “พิธา”

...

เลยได้ที ใช้บริการของ “แสนดี” มาเสี่ยงแทน

แม้ลูกชายของนายชัชชาติจะออกมาขอโทษในเวลาต่อมา ตามฟอร์มรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่โดยรูปการณ์มันก็ทำให้ “บุรุษแกร่งสุดในปฐพี” กับกองเชียร์ก้าวไกล “มองหน้ากันไม่ติด” ไปแล้ว แนวโน้มพรรคเพื่อไทยกับค่ายก้าวไกลคง “ไม่สนิทใจ” กันเหมือนที่ผ่านมา

เพราะมันก็ทะลุไปถึงไส้ติ่งแล้วว่า อีกฝ่ายคิดกันอย่างไร

ค่ายเพื่อไทยแค่ดึงจังหวะรอแบบกล้าๆกลัวๆ อย่างกระตือรือร้น กระวนกระวาย

ตามสถานการณ์ของ “พิธา” ที่ตกอยู่ในวงล้อม “นิติสงคราม” สภาพงอมพระราม อาการไม่ต่างจากมวยโดนถลุงไปแล้ว 2 นับ ยับเยินเต็มทน

แค่รอโดนกรรมการยุติการชก เพราะหมดทางสู้

คะแนนแพ้ขาดในยกแรก ยังไล่เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน ควานหาแต้มเพิ่มไม่เจอ

ตรงกันข้ามกับ “ส.ว.ลากตั้ง” และ ส.ส.ฝ่ายต้าน รวมหัวกันเปิดเกมสกัด งัดเหลี่ยมข้อบังคับสภาไม่เปิดทางให้ทีมแห่ “พ่อส้ม” เสนอญัตติที่ตกไปแล้ว ซ้ำใหม่ในสมัยประชุมเดียวกัน

สถานการณ์อย่างที่ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ตัวจี๊ดประจำทีม “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าค่ายพลังประชารัฐ ฟันธงแบบไม่กลัวหน้าแตก

19 กรกฎาคมนี้ ไม่มีการโหวตเลือก “พิธา” ยกสองแน่

แล้วไหนจะคิวนอกสภาที่ตีคู่มา ตามจังหวะศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณากรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยปมถือหุ้นสื่อ “เศษซากไอทีวี” พร้อมเงื่อนไขสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.

“พิธา” ส่อโดนบล็อกไม่ให้ขึ้นเวทีลุ้นยกสอง

โคตรเซียนการเมือง มองข้ามช็อตไปถึงยกสาม ยกสี่ ตามอาการแปร่งๆแบบที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กับ “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย หัวขบวนฝ่าย เสธ.ทีมนักรบห้องแอร์ของพรรคเพื่อไทย ออกมาตีปี๊บ รัวกลอง ประจานดักทาง

ผวาขั้วตรงข้ามพลิกเหลี่ยมชิงจัดตั้งรัฐบาล แฉยุทธการไล่ล่างูเห่า ต้อน ส.ส.จากขั้วเพื่อไทย ก้าวไกล มากกว่า 60 เสียง เพื่อรองรับเกมจบแบบหักมุม

สะท้อนดีลระหว่าง “บิ๊กบราเธอร์” กับคนลุ้นตั๋วกลับบ้านยังไม่คลิก

ท่ามกลางสัญญาณคลื่นความถี่สูงแรงขึ้นเป็นลำดับ ตามเงื่อนไขสถานการณ์บังคับ “นายกฯคนนอก” โผที่จำเป็นต้องถูกส่งมาสลายปมล็อก ลากประเทศลงเหว

แรงแข็งขืนดึงดัน ขั้วขัดแย้งขึงพืด ไม่มีใครยอมใคร

ไม่ว่าขั้วไหน ค่ายใด สีอะไร ขึ้นแท่นผู้นำ ยึดเกมอำนาจ ก็หนีไม่พ้นแรงต้าน

ตามฟอร์มม็อบที่ถูกอุ่นเตาเผาเครื่องไว้เป็นกองหนุนแต่ละฝ่าย ยังไงก็ต้องอาละวาดวุ่นวาย

การเมืองเน่า เศรษฐกิจเจ๊ง เป็นเรื่องที่ประชาชนคนไทยต้องทำใจรับสภาพกันเฉพาะหน้า แต่มันสำคัญตรงที่ว่า ต้องมีช่วง “พักเบรก” เพื่อแก้ไขอย่างเป็นระบบเผื่ออนาคตในทางยาวๆ

ขืนปล่อยให้รบกันไม่หยุด บ้านเมืองคงเหลือแต่ซาก.

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม

ทีมข่าวการเมือง