“เยาวชนปลดแอก” ประกาศเรียกร้องความปกติในระบอบประชาธิปไตย นัดชุมนุมก่อนโหวตนายกฯ ลั่น อย่าปล่อยให้ใครทำเสียงของประชาชนไร้ความหมาย ขณะที่หน้าหอศิลป์ไม่คึกเท่าท่ีควร พรุ่งนี้นัดรวมตัวรัฐสภา
วันที่ 12 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก กลุ่มเยาวชนปลดแอก Free YOUTH ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 2 ล้านคน เผยแพร่ข้อความนัดหมายชุมนุม เรียกร้องความปกติในระบอบประชาธิปไตย หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกสภาพความเป็น ส.ส.ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในกรณีหุ้นไอทีวี (itv) ทั้งๆ ที่ นายพิธา เป็น ส.ส. มาแล้วกว่า 4 ปี แต่เมื่อกำลังจะโหวตนายกรัฐมนตรีที่ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยอย่างท่วมท้น กกต.ชุดปัจจุบัน กลับดำเนินการเรื่องหุ้นไอทีวีด้วยความไวแสง จึงเป็นที่น่าสงสัย
ทั้งนี้ นายอานนท์ นำภา ทนายความ และแกนนำกลุ่มราษฎร ได้ประกาศชุมนุมซึ่งเป็นสิทธิในระบอบประชาธิปไตย ณ สกายวอล์ก หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เวลา 18.00 น. รวมทั้งยังมีกลุ่มอื่นๆ ในหลายภูมิภาค ดังต่อไปนี้.
- 18.00 น. หน้าคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยกลุ่ม คบเพลิง
- 16.00 น. อนุสรณ์รัฐธรรมนูญสุรินทร์ จ.สุรินทร์ โดย Surin Movement
- 17.00 น. ลานห้าแยกหอนาฬิกา ลำปาง โดย พิราบขาวเพื่อมวลชน
- 16.30 น. ลานย่าโม นครราชสีมา โดย Korat Movement
- เชียงใหม่ (ยังไม่ทราบเวลาและสถานที่) ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ประชาคมมอชอ - Community of MorChor
อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีเพิ่มเติมขึ้นในอีกหลายจังหวัด ก่อนระบุทิ้งท้ายว่า นี่คือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในระบอบประชาธิปไตยของไทยอีกครั้งหนึ่ง อย่าปล่อยให้ใครทำให้เสียงของประชาชนไร้ความหมาย
...
ต่อมาเวลา 18.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร พบว่า บรรยากาศการชุมนุมไม่คึกคักเท่าที่ควร มีมวลชนมาเข้าร่วมจำนวนหนึ่ง ที่เหลือเป็นสื่อมวลชน โดยทางกลุ่มผู้ชุมนุมนำเครื่องขยายเสียงขนาดเล็กมาตั้งเพื่อปราศรัย มี นายชาติชาย แกดำ แกนนำกลุ่มราษฎร เป็นพิธีกร และมีนักเคลื่อนไหวคนสำคัญๆ เดินทางเข้าร่วม อาทิ นายกรกต แสงเย็นพันธ์ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย เป็นต้น
สำหรับกิจกรรม มีการปราศรัยโดย น.ส.ธนพร วิจันทร์ แกนนำเครือข่ายแรงงาน และนายรัฐพล เลิศไพจิตร แกนนำกลุ่ม wevo มีเนื้อหาเรียกร้องให้ ส.ว. เคารพมติของประชาชน และเชิญชวนให้มวลชนไปร่วมชุมนุมที่หน้ารัฐสภา ในวันที่ 13 กรกฎาคม แต่ขอคำมั่นจากเหล่าแนวร่วมว่าจะเดินทางไปชุมนุมอย่างสงบ ไม่ก่อความวุ่นวาย และจะไม่มีการปิดกั้นทางเข้า-ออกรัฐสภา หากผลออกมาไม่เป็นตามที่คิดค่อยหารือกันยกระดับชุมนุมกันภายหลัง รวมถึงได้มีการทำโพลโดยใช้กระดาษสีขาวขนาดใหญ่ที่มีข้อความเขียนไว้ว่า "คุณเห็นว่า ส.ว. ควรโหวตเลือกตามเสียงของตัวเองหรือเสียงของประชาชน” แล้วเดินไปเชิญชวนให้มวลชนที่มาร่วมใช้สติกเกอร์บนช่องที่ให้แสดงความเห็น ซึ่งมวลชนทั้งหมดติดสติกเกอร์ในช่วงโหวตตามเสียงของประชาชน.
