“ศิริกัญญา” มั่นใจ ได้เสียง ส.ว. โหวตหนุน “พิธา” เป็นนายกฯ ครบ เชื่อผ่านตั้งแต่รอบแรก ลั่น ก้าวไกลไม่ซื้อเสียง ลั่น ไม่จำเป็นต้องรักเรา แต่ขอแค่เคารพเสียงประชาชนที่เลือกมา
วันที่ 7 กรกฎาคม 2566 นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ ณ ที่ทำการพรรคก้าวไกล ถึงความคืบหน้าการเจรจากับสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) หลังหลายคนออกมาแสดงท่าทีเปลี่ยนใจไม่โหวตให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ตนเคยให้สัมภาษณ์มาหลายครั้ง เรื่องนี้เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเราจำเป็นจะต้องหาเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. ให้ได้มากเกินกว่าที่จำเป็น
ในกรณีที่ ส.ว. อาจมีการเปลี่ยนใจ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เราได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว ส่วนกระแสข่าวว่า ส.ว. จะสนับสนุนไม่ถึง 10 คนนั้น ยืนยันว่าในฐานข้อมูลของพรรคไม่ได้เป็นไปแบบนั้น และยังคงมั่นใจว่าในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ จะได้เสียง ส.ว. ยกมือสนับสนุน นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีครบถ้วนในครั้งแรก
เมื่อถามต่อไป หากการโหวตนายกรัฐมนตรีในครั้งแรกไม่ผ่านจะทำอย่างไร นางสาวศิริกัญญา ระบุว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะทำอย่างไร ส่วนคำถามว่าเสียง ส.ว. จะต้องได้มากกว่า 64 เสียง ตอนนี้ครบหรือยัง นางสาวศิริกัญญา ย้ำว่า ขณะนี้เสียงได้ครบแล้ว แต่ยังคงต้องทำงานต่อเนื่อง เผื่อมีกรณีที่บางท่านอาจเปลี่ยนใจจะได้มีสำรองเอาไว้ เพราะเราไม่มีทางทราบได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหน้างาน ขณะที่ ส.ว.หลายคน ขอดูหน้างานก่อน กังวลเรื่องการเปลี่ยนใจหรือไม่ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า มีบางส่วนที่พูดผ่านสาธารณะ และพูดคุยในวงเจรจา ซึ่งอาจไม่ตรงกัน ตนยินดีและยอมรับในสิทธิของ ส.ว. ในการให้ข่าวหรือชี้แจงกับสาธารณะ
...
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จากการโหวตประธานสภาผู้แทนราษฎรมีคนมองว่าพรรคร่วมรัฐบาลเดิมไม่แข็งแรงพอ มีแนวโน้มจะทอดสะพานมาร่วมรัฐบาลด้วย พรรคก้าวไกลมีท่าทีอย่างไร นางสาวศิริกัญญา บอกว่า จะต้องประเมินหลังวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 โดยหากโหวตรอบแรกไม่มีปัญหาอะไรก็คงไม่มีโอกาสแบบนั้น เพราะ 312 เสียง ค่อนข้างมั่นคงในรัฐสภา การที่เอามาเติมมากเกินไปก็จะทำให้กลไกการตรวจสอบถ่วงดุลมีปัญหา
นอกจากนี้ กรณีที่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย และรองประธานสภา คนที่ 2 ออกมาระบุ หากโหวตรอบแรกไม่ผ่านจะให้โหวตอีก 2 รอบ คือวันที่ 19 และ 20 กรกฎาคม 2566 นั้น นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เร็วเกินไปที่จะพูด เพราะยังมีกระบวนการปรึกษาหารือของวิปแต่ละฝ่ายกับประธานสภาเพื่อกำหนดวันประชุม
เมื่อถามต่อถึงกระแสข่าวถึงการที่พรรคก้าวไกลใช้เงินซื้อเสียง ส.ว. ให้โหวตสนับสนุน นายพิธา นั้น นางสาวศิริกัญญา ยืนยันว่า “ไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน และเป็นเรื่องที่เราไม่นิยมทำอยู่แล้ว” ส่วนมองอย่างไรกับการถูกกล่าวหาเช่นนี้ “ก็มองว่าอาจเป็นการคาดการณ์ไปต่างๆ นานาว่าพรรคจะหาเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. อย่างไรได้บ้าง เขาก็คิดว่านี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งทางก็ได้ ซึ่งไม่ใช่ทางที่เราเลือกเลย เพราะเราใช้วิธีการพูดคุยอย่างเดียว และก็มี ส.ว.บางท่านที่ไม่สะดวกเปิดเผยต่อสาธารณะ ก็ขอให้เห็นผลกันในวันนั้นว่าจะโหวตแบบไหน จึงเกิดความกังวลจากหลายฝ่ายว่าคะแนนเสียง ส.ว. ไม่น่าได้มาโดยง่าย” มั่นใจหรือไม่ว่าพรรคก้าวไกลไม่ต้องซื้อเสียง ส.ว. ก็เพียงพอ “ใช่ค่ะ”
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ ส.ว. ออกมาตั้งเงื่อนไข ในการโหวตสนับสนุน นายพิธา มองอย่างไร นางสาวศิริกัญญา ย้ำว่า ขอให้ ส.ว.ทุกคน ยึดหลักการประชาธิปไตยเสียงข้างมากตามปกติ “ไม่จำเป็นที่จะต้องรักเรา ไม่จำเป็นต้องเชียร์เรา เชียร์ก้าวไกล หรือ เชียร์นายพิธา ขอแค่เคารพเสียงของประชาชนที่ได้เลือกเรามา ให้เป็นพรรคที่ได้เสียงอันดับ 1 และรวมตัวจัดตั้งรัฐบาล ได้คะแนนเสียงข้างมากในสภาฯ ยึดหลักการง่ายๆ แค่นี้ เพื่อให้ประเทศไทยได้เดินหน้าต่อ ให้โอกาสประเทศไทยได้ไปต่อ”