ประชุมสภา กทม. บรรดา ส.ก. อภิปรายจี้เร่งรัดก่อสร้างป้ายรถเมล์แบบใหม่ รวมถึงขยายพื้นที่ Feeder ช่วยประชาชนเดินทางสะดวกและปลอดภัยขึ้น “ชัชชาติ” ชี้ เป้าหมาย 2,000 แห่งต้องดีขึ้น ลุยแก้เส้นเลือดฝอย
วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 3 (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2566 โดย นายยิ่งยงค์ จิตเพียรธรรม สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตทวีวัฒนา เสนอญัตติขอให้กรุงเทพมหานครสำรวจเพื่อติดตั้งป้ายหยุดรถโดยสารประจำทาง และศาลาที่พักผู้โดยสารให้ครอบคลุม
เนื่องจากกรุงเทพมหานครโดยเฉพาะพื้นที่เขตรอบนอกประชาชนได้รับความลำบากในการใช้บริการรถขนส่งสาธารณะ เพราะถนนบางสายในบางจุดไม่มีป้ายหยุดรถโดยสารประจำทาง หรือมีแต่ระยะห่างกัน และบางจุดไม่มีศาลาที่พักผู้โดยสาร ทำให้ผู้เดินทางได้รับความเดือดร้อน ต้องยืนตากแดดตากฝนรอรถโดยสารประจำทาง กรุงเทพมหานครจึงควรสำรวจเพื่อติดตั้งป้ายหยุดรถโดยสารประจำทางและศาลาที่พักผู้โดยสารให้ครอบคลุม รวมถึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจเพื่อพิจารณาให้บริการเส้นทางเดินรถขนส่งสาธารณะ ให้ประชาชนได้รับความสะดวกและปลอดภัยจากการใช้รถขนส่งสาธารณะ
...
จากนั้น ส.ก.ร่วมอภิปรายในญัตตินี้หลายคน อาทิ นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ส.ก.เขตลาดกระบัง กล่าวว่า รถ Feeder ที่ฝ่ายบริหารจัดไว้ให้มีประโยชน์มาก แต่พบว่ามีปัญหาการเดินรถไม่ตรงเวลา ต่อด้วย นายสมชาย เต็มไพบูลย์กุล ส.ก.เขตคลองสาน อภิปรายว่า ในพื้นที่ธนบุรีมีศาลาผู้โดยสารที่มีปัญหาไฟฟ้าส่องสว่างหลายจุด การกำหนดจุดป้ายรถโดยสารไม่มีความเหมาะสม บางแห่งมีเสาของรถไฟฟ้าบัง แต่ยังไม่มีการย้ายศาลาที่พักผู้โดยสารไปยังจุดที่เหมาะสม
ต่อด้วย นายนภาพล จีระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย ระบุว่า เข้าใจว่าการกำหนดจุดจอดรถต้องได้รับความเห็นชอบจากหลายหน่วยงาน หลายจุดต้องดูว่าป้ายรถโดยสารที่มีอยู่ก่อให้เกิดความสะดวกสบายกับประชาชนจริงหรือไม่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเข้าไปดูว่าสิ่งที่มีอยู่สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่หรือไม่ ส่วนนายณรงค์ รัสมี ส.ก.เขตหนองจอก อภิปรายว่า ประชาชนฝากขอบคุณสำนักการจราจรและขนส่งที่ได้ไปตั้งป้ายรถเมล์ให้ใหม่กว่า 60 จุด แต่ยังขาดในเรื่องไฟฟ้าส่องสว่าง และการปรับระดับของศาลากับพื้นถนนให้เหมาะสม ซึ่งมั่นใจว่าในอนาคต กทม.จะไม่มีที่พักผู้โดยสารชั่วคราวในลักษณะเต็นท์อีกต่อไป รวมถึงการปรับปรุงสัมปทานรถสองแถวโดยสารให้เป็นรถ EV และการเพิ่มเวลาเดินรถให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน
ขณะเดียวกัน นายวิรัช คงคาเขตร ส.ก.เขตบางกอกใหญ่ นางสาวนฤนันมนต์ ห่วงทรัพย์ ส.ก.เขตคลองสามวา นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง และนางสาวรัตติกาล แก้วเกิดมี ส.ก.เขตสายไหม ได้ร่วมอภิปรายเพื่อให้กรุงเทพมหานครพิจารณาดำเนินการสำรวจเพื่อเพิ่มจำนวนศาลาที่พักผู้โดยสารและปรับปรุงให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ พร้อมติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างเพื่อความปลอดภัยให้กับประชาชนด้วย
ทางด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มีการพูดถึงเส้นเลือดฝอย ทั้งเรื่อง ฟุตปาททางเท้า ทางข้าม สะพานลอยคนข้าม Feeder เป็นปัญหาจริงของประชาชน นโยบายเรื่อง Feeder และศาลาที่พักผู้โดยสารเป็นนโยบายที่ต้องทำ เป้าหมายคือ 2,000 แห่งต้องดีขึ้น และจะเร่งดำเนินการ ขณะนี้ได้ทำรูปแบบ Prototype ออกมาแล้ว และจะเริ่มดำเนินการในปีนี้ รวมถึงวางแผนในระยะยาวด้วย หาก ส.ก.มีข้อมูลจุดที่ต้องเริ่มดำเนินการให้ประชาชนสามารถแจ้งได้ และฝ่ายบริหารจะรับไปดำเนินการในทันที
ขณะที่ รศ.วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า ในเรื่องของรูปแบบป้าย สำนักการจราจรและขนส่งได้ดำเนินการออกแบบมาเป็นศาลารูปแบบเสาเดี่ยว และรูปแบบขนาด S M L ขึ้นกับขนาดพื้นที่ รวมถึงติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างและข้อมูลรถโดยสารที่จะผ่าน โดยแต่ละจุดจะพิจารณาจากลักษณะพื้นที่เป็นหลัก และคำนึงถึงข้อจำกัดในการก่อสร้าง อาทิ ทางเท้าแคบ บดบังอาคาร/ร้านค้า หรือติดระบบสาธารณูปโภค การเลือกจุดจะดำเนินการโดยคณะกรรมการกำหนดจุดป้ายที่พักผู้โดยสาร ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายส่วน เช่น กรมการขนส่งทางบก ตำรวจจราจร สำนักงานเขต รวมถึงข้อมูลประกอบจาก ส.ก.ในพื้นที่ ซึ่งในปี 2566-2567 จะมีศาลาที่พักผู้โดยสารรูปแบบใหม่ จำนวน 302 หลัง และจะเพิ่มจำนวนให้มากถึง 476 หลัง ในปี 2568.