อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ อดีต ส.ส.เพื่อไทย ควง ทนายเดชา มาศาลอาญาคดีทุจริตฯ ฟ้อง อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล, ปลัดทส.-"วราวุธ" รมว.ทส.ร่วมกันทำเอกสารเท็จ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เบื้องต้นศาลอาญาคดีทุจริตฯ นัดฟังคำสั่ง 5 ก.ค. 2566 เวลา 09.30 น.

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2566 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตลิ่งชัน นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ อดีต ส.ส.จังหวัดมุกดาหาร พรรคเพื่อไทย พร้อม นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ นำเอกสารไปยื่นต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อเป็นโจทก์ยื่นฟ้องดำเนินคดีกับนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เป็นจำเลยที่ 1, นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นจำเลยที่ 2 และนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นจำเลยที่ 3 ในความผิดฐานร่วมกันทำเอกสารซึ่งมีข้อความอันเป็นเท็จ ทำให้ได้รับความเสียหาย และเป็นเจ้าพนักงานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

นายอนุรักษ์ เปิดเผยว่า คดีนี้ไม่ใช่การฟ้องเพราะไม่ยอมรับผลคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ตัดสินจำคุกตนเอง 6 ปี ในคดีเรียกรับเงิน 5 ล้านบาท จากนายศักดิ์ดา แลกกับการผ่านงบประมาณ ที่ตัดสินไปเมื่อ วันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ที่ตนเองมาฟ้องครั้งนี้ เพราะในการพิพากษาครั้งนั้นปรากฏข้อเท็จจริง 2 ข้อ ซึ่งไม่เป็นความจริง เป็นการใส่ร้ายกล่าวหาให้ตนเองได้รับความเสียหาย ประเด็นแรก คือ การที่นายศักดิ์ดา บอกว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ไม่เคยทำงบประมาณต่ำกว่า 5 แสนบาทนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะกรณีพิพาททั้งหมดมาจากโครงการงบประมาณต่ำกว่า 5 แสนบาท
 
และประเด็นที่ 2 คือ การที่นายศักดิ์ดา ทำรายงานว่า นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ก็ถูกเรียกรับเงินจากตนเองด้วย โดยนายภาดล ได้มาเบิกความต่อศาลแล้วว่า ไม่เป็นความจริง ไม่เคยถูกตนเองเรียกรับเงิน ดังนั้นการที่นายศักดิ์ดาเขียนรายงานเท็จ ทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่า ตนเองเรียกรับเงินจากคนหลายคน ทำให้ตนเองเสียหาย ถูกดำเนินคดีจริยธรรมจนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ลงเลือกตั้งไม่ได้ และคดีอาญาก็ทำให้ถูกตัดสินจำคุก ดังนั้นเมื่อปรากฎข้อเท็จจริงชัดเจนแล้วว่า ประเด็นใดไม่เป็นความจริง ตนเองจึงต้องการฟ้องกลับกับนายศักดิ์ดา ส่วนนายจตุพร และนายวราวุธ สาเหตุที่ถูกฟ้องด้วย เนื่องจากเป็นผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจลงนามในเอกสารที่นายศักดิ์ดา รายงานขึ้นมา โดยไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง หรือเรียกนายภาดลมาสอบถามว่า ถูกเรียกรับเงินด้วยหรือไม่
 
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แม้จะถูกพิพากษาจำคุก แต่คดียังไม่สิ้นสุด โดยขณะนี้ตนเองอยู่ระหว่างเตรียมยื่นอุทธรณ์
 
ส่วนหลังจากนี้ ในวันที่ 12 มิ.ย. ตนเองจะลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการสร้างบ่อน้ำบาดาล 6 จุด ในจังหวัดมุกดาหาร ว่า ถูกต้องตามแบบหรือไม่ หลังจากนายภาดล ได้ส่งมอบแบบแปลนการสร้างมาให้ตนเองแล้ว โดยหากก่อสร้างไม่ตรงแบบ ก็จะถือว่ามีความผิดด้วย

...