“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ร่วมงาน Pride เผยเตรียมยื่นสมรสเท่าเทียม-รับรองอัตลักษณ์ทางเพศ เข้าสภาทันที หารือ 8 พรรคร่วมพรุ่งนี้ เตรียมพร้อมจัดตั้งรัฐบาลทำงานได้ทันที ชี้ การทำงานยังไม่ถึงจุดตั้งโผครม. ตามกระแสข่าว 

วันที่ 29 พฤษภาคม 2566 ที่สกายวอล์กหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ร่วมแคมเปญ The Road to Bangkok Pride 2023 โดยในกิจกรรมดังกล่าวมีผู้แทนจากหน่วยงานราชการ ภาคประชาสังคม รวมทั้ง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ

โดย นายพิธา กล่าวว่า ในฐานะผู้จัดตั้งรัฐบาล และในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไป ตนมองเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ Pride Month แต่คือ Pride Always แน่นอน โดยใน MOU จัดตั้งรัฐบาลก็มีเนื้อหาดังกล่าว และใน 45 ร่างกฎหมายที่เราเตรียมเสนอเข้าสภาทันที มีอย่างน้อย 2 ร่างกฎหมายเกี่ยวข้องกับประเด็นความเสมอภาคทางเพศ ได้แก่ กฎหมายสมรสเท่าเทียม กฎหมายรับรองอัตลักษณ์ทางเพศ

นอกจากนี้ นายพิธา ยังให้สัมภาษณ์ถึงการหารือร่วมกับ 8 พรรคร่วม ว่า ในวันพรุ่งนี้จะหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลอีก 7 พรรค ถึงการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล โดยเฉพาะปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อกำหนดเป็นทิศทางการทำงานร่วมกันหลังการจัดตั้งรัฐบาล เช่น ค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ภัยแล้ง เป็นต้น 

...

ส่วนคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ยังไม่ได้มีการวางตัวใคร และเบื้องต้นเป็นการนำแนวทางของพรรคที่ได้มีตุ๊กตาไว้ ไปหารือเพื่อรับฟังความเห็น เอาปัญหาของประชาชนเป็นตัวตั้ง ทั้งเรื่องปัญหาค่าไฟฟ้าแพง ค่าน้ำมัน ภัยแล้ง โดยจะต้องไปดูว่าจะต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหานี้อย่างไร เพราะเมื่อจัดตั้งรัฐบาลได้จะได้ดำเนินการได้ทันที เพื่อไม่ให้มีรอยต่อในการบริหารราชการแผ่นดิน แต่พรรคก้าวไกลเตรียมคนที่มีความเหมาะสมไว้ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณาแล้ว 

เมื่อถามถึงกระแสโผคณะรัฐมนตรีที่ออกมา ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายพิธา ชี้แจงว่า ในการทำงานยังไม่ถึงจุดนั้น ตอนนี้ใช้ปัญหาของประชาชนเป็นตัวตั้ง เช่น ภัยแล้งต้องใช้ถึง 5-6 กระทรวงที่จะทำงานร่วมกัน

เมื่อถามถึงวันนี้ที่ได้พบกับ นายชัชชาติ ได้มีการพูดคุยเรื่องอะไรกันบ้าง นายพิธา บอกว่า ได้พูดคุยเรื่องวาระการทำงานเบื้องต้นมีการประสานงานกันระหว่างรัฐบาล ส.ส. ส.ก.ของพรรคก้าวไกล เพื่อประสานงานกัน กรุงเทพมหานครในหลายเรื่อง เช่น เรื่องการลอกท่อ เรื่องภาษีที่ดินที่ตรงกันนโยบายของพรรค และเมื่อจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้วก็จะเดินหน้าช่วยแก้ไขปัญหาให้กับคนกรุงเทพฯ ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น.