ฉากผ่านทางการเมืองนับแต่วันที่ 22 พ.ค.57 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สมัยเป็น ผบ.ทบ.ได้ยึดอำนาจจากรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” มาถึงวันนี้ก็ 9 ปีเต็มๆ

แต่วันนี้เพิ่งพ้นผ่านการเลือกตั้งไปเมื่อวันที่ 14 พ.ค.66 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันด้วยจิตปรารถนาของคนไทยที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

“ก้าวไกล” ที่มี “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีกำลังจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่บริหารประเทศ

จะสำเร็จหรือไม่...ยังคาดเดาไม่ได้

เหตุเพราะข้อกฎหมายกำหนดให้ต้องใช้เสียง 376 เสียงกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภาจำนวน 750 เสียงจึงจะไต่บันไดไปสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีได้

ปรากฏที่จับมือกันได้แม้จะเกินครึ่งของสภาผู้แทนฯแต่ยังไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภาทำให้เกิดปัญหา

ผลจากการเลือกตั้งทำให้การเมืองไทยพลิกโฉมบรรดา ส.ส.เก่าๆที่เคยสอบได้โดยผ่านหัวคะแนนภายใต้การควบคุมของ “บ้านใหญ่” สอบตกกันเป็นแถว

นั่นทำให้พรรคของ “2 ลุง” หมดราคาไปทันที

“พลังประชารัฐ” ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ “รวมไทยสร้างชาติ” ของ พล.อ.ประยุทธ์ รวมกันแล้วยังไม่ถึง 100 เสียง

ผ่าน 25 เสียงขึ้นมาอย่างเฉียดฉิว

นั่นทำให้ขั้วรัฐบาลเก่ารวมเสียงกันแล้วสู่ขั้วฝ่ายค้านเก่าไม่ได้จึงตกอยู่ในฐานะฝ่ายค้านได้แต่รอว่าอีกฝ่ายจะตั้งรัฐบาลได้หรือไม่?

รอ “ส้มหล่น”...ว่างั้นเถอะ!

ทว่า ภาวะของ “2 ลุง” ในทางการเมืองนั้นแทบจะหมดหนทางหรือทางปิดไปเสียแล้ว เนื่องจากพรรคการเมืองอีกขั้วหนึ่งประกาศตอนหาเสียงแล้วว่า “มีลุงไม่มีเรา” ก็หมายความว่าแม้โอกาสของ 2 พรรคจะได้ร่วมรัฐบาล

...

แต่ต้องไม่มี “2 ป.”

การตัดสินใจเล่นการเมืองต่อของ “บิ๊กตู่” นั้นไม่ว่าเหตุอะไรก็ตามถือว่าคิดผิดด้วยคงเชื่อมั่นในตัวเองสูง

มั่นใจว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังให้การสนับสนุน

8 ปีบนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีแม้จะสร้างผลงานเอาไว้พอสมควรแต่ลืมไปว่าไม่ใช่เวลาประเดี๋ยวประด๋าว

ทำให้เกิดความรู้สึก “เบื่อ” แม้แต่กองเชียร์ก็ยังคิดอย่างนั้นทั้งผลงานที่ทำไว้อยู่ในระดับกลางๆไม่ได้โดดเด่นหรือมีความจำเป็นต้องทำต่อไป

ทิ้งความเป็น “รัฐบุรุษ” เอาไว้ข้างทาง

อย่างที่คนโบราณเคยสอนสั่งเอาไว้อย่าไปฟังคำเยินยอ สรรเสริญจากคนที่หวังประโยชน์จนเป็นเหตุให้เห็นผิดเป็นชอบได้

วันนี้จึงตกที่นั่งเป็น “เสือลำบาก” จะเลิกก็ไม่ได้จะเดินหน้าต่อก็มีแต่ทางตันกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ผิดกับ “พี่ใหญ่” ที่สนุกสนานเฮฮาเพราะไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายได้ก็ดีไม่ได้ก็ไม่เสียหายอะไร

เพื่อสนองความอยากก็...เท่านั้น

อย่างน้อยก็ได้เป็น “ลูกพี่” นายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจบารมีแผ่กระจายไปทั้งแผ่นดินจนถึงที่สุดก็ยังทิ้งชื่อเอาไว้

เป็นตำนาน “แป๊ะยิ้ม” ทางการเมือง!

“สายล่อฟ้า”