“ชวน” รับ ประชาธิปัตย์ ทรุดหนัก 50 จังหวัด ปชป.ได้แค่ 3 ปาร์ตี้ลิสต์ ชี้ เหตุคนเบื่อ-ไม่เอารัฐบาลทั้งที่มีผลงาน แนะกก.บห.ใหม่ ควรมีคนทุกรุ่น ขอ “พิธา” อย่าก้าวก่ายพรรคอื่น รู้ทันปั่นกระแส

 เมื่อเวลา 13.00 น.  วันที่ 16 พ.ค. 2566  ที่พรรคประชาธิปัตย์( ปชป.) นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  ให้สัมภาษณ์ถึงผลการเลือกตั้ง หลังพรรคพ่ายแพ้ยับเยิน ว่า หากมีเวลาต้องคุยกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค ปชป.เพื่อประเมินผลเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง  ที่ผ่านมาพรรคมีประสบการณ์มา 77 ปี ไม่ใช่บทเรียน แต่เป็นประสบการณ์ที่ผู้บริหารพรรคชุดใหม่ต้องพิจารณาว่า ที่ผ่านมามีจุดเด่น ด้อยอย่างไร เพื่อแก้ปัญหาต่อไป และต้องเรียนรู้ทุกครั้ง การเลือกตั้งรอบนี้เราก็ต้องยอมรับภาพรวมว่า เสียงของพรรคลดลงมากว่าที่คาดหมายมาก  ตนไม่ได้เป็น กก.บห.พรรค แต่ก็พยายามตระเวนช่วยหาเสียงทั้ง 77จังหวัด  เพื่อหวังว่าจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเข้ามามาก

“เพราะดูจากนิด้าโพลแล้ว คาดว่าเราจะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อราว 5 คน แต่พอไปได้สักระยะหนึ่งประมาณ 40-50 จังหวัด นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค ได้ขอร้องให้ผมกลับไปช่วยในภาคใต้ เช่นเดียวกับนายจุรินทร์ ก็โทรมาให้ผมลงไปใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  และทุกจังหวัดก็ขอให้ไปช่วย โดยนายบัญญัติบอกว่า สถานการณ์มันเปลี่ยนมีการใช้เงินรุนแรงมาก จึงขอให้ผมรีบกลับมาเพราะผมเป็นคนต่อต้านการซื้อเสียง  ผมจึงได้ใช้คำที่ว่า ‘ชาวตรังใครอย่ามุ่งหวังซื้อด้วยเงินตรา’ ต้องเอามาใช้ใหม่ ในการรณรงค์การซื้อเสียง โดยนายจุรินทร์ก็คุยกับผมว่ามีระบบการยิงแล้ว แต่ก็เสียดายบัญชีรายชื่อ ที่เราได้ต่ำกว่าโพลที่คาดไว้ คือได้เพียง 3 คน” นายชวน กล่าว

...

เมื่อถามว่า ผลคะแนนของพรรคตก เป็นเพราะประชาชนอยากเปลี่ยนเอาคนรุ่นใหม่เป็นส.ส.หรือไม่  นายชวน กล่าวว่า ตนคิดว่าส่วนหนึ่งเขาเบื่อของเก่าแน่นอน และอีกส่วนหนึ่งคือความรู้สึกกับรัฐบาล เวลาเราไปหาเสียงก็จะได้ยิน แต่เราไม่วิจารณ์ใครเขา เพราะ ปชป.ก็เป็นส่วนหนึ่งในรัฐบาล แต่ถ้าพูดความจริงผลงานของนายจุรินทร์ ที่ทำเรื่องการเกษตร การประกันรายได้ก็ต้องคอยดูต่อไปว่ารัฐบาลหน้าเขาจะทำอย่างไร เพราะในช่วงที่ผ่านมาการประกันรายได้สามารถทำให้เกษตรกร ชาวนาชาวไร่ ปาล์ม ข้าวโพดมีรายได้ที่แน่นอน ชาวบ้านได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ไม่ใช่ฝ่ายการเมืองโกงไปแบบโครงการรับจำนำ ตนคิดว่าโครงการของเรานี้ชาวบ้านได้ แต่ชาวบ้านจะเห็นหรือไม่ อีกเรื่องหนึ่งเราก็ต้องยอมรับ

เมื่อถามว่า ในการเลือกหัวหน้าและ กก.บห. พรรค ปชป. ชุดใหม่ ควรจะเป็นคนรุ่นเก่า หรือรุ่นใหม่  นายชวน กล่าวว่า การเมืองเป็นของคนทุกรุ่น เราไม่มาเลือกว่ารุ่นเก่า รุ่นใหม่ รุ่นกลาง แต่ละรุ่นเขาก็มีศักยภาพของเขา คนรุ่นเก่าเขาก็มีอดีตที่จะช่วยพรรค คนรุ่นใหม่ก็จะมีความคิด เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา ปัจจุบันก็เอามาเชื่อมต่อกันพรรค ปชป.จึงมีอดีต ปัจจุบัน และมีอนาคต

ถามต่อว่าในฐานะที่นายชวนมีสิทธิโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์  หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เรียกร้องให้พรรคการเมืองต่างๆ ร่วมโหวตให้ นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี นายชวน กล่าวว่า ตนคิดว่าอย่าไปก้าวก่ายคนอื่นเขาเลย แต่ละพรรคคิดอย่างไรก็คิดเอา และมีมติของเขาเอง ดังนั้นอย่าไปก้าวก่ายหรือรุกล้ำ ให้คนอื่นเขาคิดเหมือนตัวเอง แต่ละพรรคเขาคิดเองได้ และเขามีสติปัญญาที่จะคิดเองได้  เมื่อถามย้ำว่า มองบทบาทของนายพิธาอย่างไร  นายชวน  กล่าวว่า ยังไม่ได้ตั้งรัฐบาลเลย แต่ก็ต้องยอมรับว่าในเสียงที่เขาชนะมาเขาก็ต้องให้ความเห็นเอง แต่เท่าที่ประเมินดูในเวลาที่เราออกไปหาเสียง จะพูดได้ว่า ในท่ามกลางของการยิงด้วยเงิน พรรคก้าวไกลไม่มีครหาเรื่องนี้ แต่เขาใช้เรื่องการสร้างกระแสในโซเชียลมีเดียในการหาเสียง