“เพนกวิน” แกนนำราษฎร ควงน้องสาวใช้ลังกระดาษคลุมหัว เขียนข้อความติง กกต. เข้าคูหาลงคะแนน เผย ประท้วงความไร้ประสิทธิภาพในการจัดการเลือกตั้ง ชี้ ประชาชนพร้อมจับตา พร้อมเชิญชวนออกมาใช้สิทธิ

เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำกลุ่มราษฎร เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งโรงเรียนบ้านคลองบัว เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร พร้อมน้องสาว น.ส.พลอยวรินทร์ ชิวารักษ์ โดยทั้งคู่สร้างความฮือฮาด้วยการนำกล่องกระดาษที่เขียนข้อความว่า “กกต.อย่าโกงการเลือกตั้ง กกต.ต้องติดคุก อายแทน กกต.” มาสวมครอบศีรษะ เดินต่อคิวเข้าคูหาเลือกตั้ง และหย่อนบัตรเลือกตั้ง ซึ่งทางกรรมการการเลือกตั้งประจำหน่วยก็ไม่ได้ขัดขวาง 

นายพริษฐ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการใช้สิทธิครั้งที่ 2 ไม่รวมการลงคะแนนประชามติรัฐธรรมนูญ 2560 เหตุที่นำกล่องกระดาษมาครอบหัว มีที่มาจากเมื่อการเลือกตั้งปี 2562 ตนเคยใช้กระดาษคลุมหัวเข้าคูหาเลือกตั้ง ประท้วงการปฏิบัติงานของ กกต.มาแล้ว แต่ 4 ปีผ่านไป กกต.ก็ยังเหมือนเดิม จึงต้องใส่อีกครั้ง เพื่อประท้วงความไร้ประสิทธิภาพในการเลือกตั้งล่วงหน้า ที่ไม่รู้ว่าจงใจหรือไม่ แสดงให้เห็นว่า กกต.ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ตามความต้องการของประชาชน 

“ในปีนี้มีผู้มาใช้สิทธิจำนวนมาก จึงต้องแสดงออกให้เห็นว่ามีประชาชนที่ไม่ยอม กกต.กำลังจับตาดูอยู่ ส่วนเสื้อที่สวมมานั้น เพราะถือเป็นโอกาสดีที่จะลงคะแนนเอาสามคนบนเสื้อตนออกไป จึงขอเชิญประชาชนที่ยังไม่ได้มาใช้สิทธิ รีบออกมากันใช้สิทธิกัน”

...

ทั้งนี้ นายพริษฐ์ กล่าวต่อไปอีกว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ กระแสของพรรคฝ่ายประชาธิปไตยมาแรงกว่าเมื่อครั้งการเลือกตั้งปี 2562 มาจากความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารงานของรัฐบาลตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา และส่วนหนึ่งมาจากการตื่นรู้ทางความคิดของผู้คน จากการขับเคลื่อนของภาคประชาชนบนท้องถนนตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา สิ่งสำคัญคือ กกต.ที่เป็นตัวแปรที่เราไม่สามารถคาดเดาได้ แต่ยังเชื่อว่าจากตัวอย่างเมื่อครั้งการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่เสียงประชาชนเทอย่างล้นหลาม ทำให้มีประชาชนจับตาการทำงานของ กกต. จนทำให้ต้องรีบรับรองผลการเลือกตั้งอย่างรวดเร็ว การเลือกตั้งครั้งนี้ก็น่าจะเป็นแบบเดียวกัน 

“ประชาชนต่างรุมยำ กกต. ตั้งแต่ความผิดพลาดในการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมา ไม่ว่าจะมีการตุกติกอย่างไรก็แล้วแต่ ถ้าเสียงประชาชนเทมาล้นหลาม คงฝืนกระแสได้ยาก ดังนั้น ที่ต้องจับตาดูคือผลการจัดตั้งรัฐบาล ถ้าฝ่ายประชาธิปไตยชนะ พรรคเพื่อไทยและก้าวไกลมีคะแนนเสียงรวมกันได้เกินกึ่งหนึ่ง เชื่อว่า ส.ว.เองก็คงต้องฟังเสียงประชาชน เพราะถ้ายังดันทุรังไปสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ก็จะเกิดปัญหา เกิดการชุมนุมบนถนนกันอีก”

เมื่อถามว่า ถ้าผลการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามอย่างที่คาดการณ์ กลุ่มราษฎรจะเคลื่อนไหวบนถนนอีกหรือไม่ นายพริษฐ์ เชื่อว่าถ้าค้านสายตาประชาชน ประชาชนทั่วไปก็คงไม่ยอม และออกมาเคลื่อนไหวเองตามธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องเป็นกลุ่มราษฎร.