“พี่ตู่” ขึ้นปราศรัย 5 เวทีรวด จนเสียงแหบ หวังกวาด ส.ส.นครศรีธรรมราช ยกจังหวัด อ้อน “รักแล้ว รักอยู่ รักต่อ” ขอทุกคนอย่าทะเลาะขัดแย้งกัน ถ้าได้ ส.ส.เขตน้อย อย่าร้องไห้คิดถึงเวลาไม่อยู่

ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันนี้ (11 พฤษภาคม 2566) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ทยอยขึ้นเวทีปราศรัยในหลายจุด โดยที่โรงเรียนวัดพิศาลนฤมิตร อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ช่วย นายสนั่น พิบูลย์ ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 5 หาเสียง โดยกล่าวตอนหนึ่ง ว่า ดีใจที่ได้มาพบ เอากำลังใจมาฝาก เราทุกคนมีหัวใจเดียวกัน หัวใจแห่งความรักความสามัคคีใช่ไหม รักสถาบันหลักของประเทศ เพราะความรักความสามัคคีเป็นบ่อเกิดแห่งความสำเร็จ หลายปีที่ผ่านมาอาจมีหลายคนที่พอใจ ไม่พอใจ แต่ก็รักทุกคน ตนทำเพื่อต้องการให้คนไทยมีฐานะดีขึ้น และต้องการให้ประเทศไทยมีรายได้สูง ต้องหาเงินเข้าประเทศให้มากขึ้น ก่อนจะกล่าวไปถึงนโยบายต่างๆ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ

“แผนงานที่เตรียมบรรจุไว้ในปี 2567 ได้เขียนไว้เรียบร้อยแล้วในหลายๆ สิ่งที่ประชาชนเดือดร้อน ขอเพียงให้เราได้เป็นรัฐบาลเถอะ ให้ได้หรือไม่ ผมจะได้ทำต่อ ก็ต้องเลือกทั้ง ส.ส.เขตและเลือกพรรค ที่มาวันนี้ต้องการมายืนยันและความตั้งใจของเราว่า ถ้าเราได้เป็นรัฐบาลก็จะสานงานต่อทันที การที่จะได้เป็นนายกฯ ต่อไม่ง่ายเหมือนที่ประชาชนส่งเสียงเชียร์ เพราะถ้าง่ายเช่นนั้นก็ดี ตั้งแต่เช้าทุกอำเภอก็อยากให้เป็นนายกฯ ต่อ เพราะฉะนั้นในวันที่ 14 พฤษภาคม ขอให้กาบัตร 2 ใบให้กับพรรครวมไทยสร้างชาติและพี่ตู่”

...

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า ขอให้ใช้หัวใจในการตัดสินว่าใช่หรือไม่ ทุกคนต้องมีภูมิต้านทาน สมมติว่ามีคนด่าตนเยอะๆ ตนก็มีอารมณ์ มีสัญชาตญาณความเป็นมนุษย์ แต่ทำอะไรมากไม่ได้ ใครจะด่า ก็ด่าตอบเขาไม่ได้เพราะเป็นนายกฯ แต่ถ้าไม่ใช่เป็นนายกฯ ก็เป็นเรื่อง เพราะทุกคนมีเกียรติยศ มีชื่อเสียง ตนเองก็มีเกียรติยศ มีชื่อเสียง มีความภาคภูมิใจในการทำงาน ในการป้องกันแนวชายแดน วันนี้ทหารถูกโจมตีไปหมด มันดีหรือถ้าไม่มีทหาร จะอยู่กันได้หรือไม่ วันนี้ดีใจมี 30-40% ที่สมัครเข้ามาเป็นทหาร ความจริงทุกคนต้องเป็น ส่วนข้อยกเว้นก็เป็นหลักการของทุกประเทศ ประเทศใดไม่มีทหารก็ขาดความเข้มแข็ง หลายคนบอกไม่ต้องไปซื้อเรือรบ ให้เอาเรือประมงมาสู้กับเรือดำน้ำ เมื่อถึงเวลาเมื่อมีการสู้รบทางทะเลก็คงต้องขอเรือประมงจากชาวบ้าน เอาปืนใหญ่ใส่เรือแล้วเอาคนพูดมาขับเรือไปสู้กับเขา ข้าราชการทุกคนก็มีเกียรติ ทุกคนเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย เกษียณอายุแล้วก็ควรมีบำเหน็จบำนาญ ไปบอกว่าพวกเขาเป็นช้างป่วยไปดูถูกอย่างนี้ไม่ได้ ตนไม่ทะเลาะกับเขา แต่การพูดแบบนี้ทำให้เกิดความบาดหมางซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้นช้างอย่างพวกเราจะต้องไม่ป่วย ช้างเราต้องแข็งแรง ช้างเราต้องเป็นช้างศึก

ถ้าได้ ส.ส.เขตน้อย ลุงตู่ก็กลับบ้านนอน

ส่วนสถานการณ์การเงินประเทศไทยอยู่ในเกณฑ์ดี ใครจะว่าจน ตนไม่เข้าใจว่าทำไม IMF หรือหน่วยงานต่างประเทศ ถึงชมประเทศไทยว่าบริหารงานการเงินได้ยอดเยี่ยม มันแปลกหรือไม่ สิ่งเหล่านี้แสดงว่าสถานะการเงินของเรายังแข็งแกร่ง เงินบาทยังมีราคา ไม่ใช่เศษกระดาษ การบริหารหนี้ของรัฐยืนยันว่าไม่มีปัญหา ยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ สามารถดำเนินการได้ ใช้หนี้เพิ่มได้ทุกปี ที่ผ่านมาเราผ่านอะไรกันมามาก ทั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แตเก็ทำสำเร็จ เพียงแต่ต้องไม่ประมาท ต้องระวังได้ก็ต้องระวัง

ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมมาไม่ใช่มาแค่ในนามนายกฯ แต่มาในนามคนไทยคนหนึ่งที่จะต้องแบกคนอีก 70 ล้านไปด้วย และนึกถึงว่าจะทำอย่างไร สัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด ถ้าเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ เลือกทั้งพี่ตู่ และ ส.ส.เขต เพราะ ส.ส.เขต มีความสำคัญกับลุงตู่ ถ้าได้ ส.ส.เขตน้อย ลุงตู่ก็กลับบ้านนอน แล้วอย่าคิดถึงเวลาไม่อยู่ อย่าร้องไห้นะ ทั้งหมดอยู่ที่พวกเรา วันนี้ต้องขอบคุณทุกคนในการต้อนรับนะจ๊ะ ขอให้ทุกคนมีความสุข รักทุกคนรักจังฮู้ รักแรง ขอให้ทุกคนมีความสุขช่วยกันไปเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม กาให้ถูกใบ กาเลขให้ถูก กากบาทไม่ใช่ขีดถูก รักแรง รักจังฮู้” 

ต่อมาที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเวทีหาเสียงช่วย นายฉัตรชัย ธนาวุฒิ ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 6 โดยขอบคุณทุกคนที่มากันในวันนี้ ใครจะเรียก พี่ตู่ บังตู่ หรือแบยุทธ์ก็ได้ เพราะตนคือคนของประชาชน เป็นนายกฯ ก็เป็นลูกน้องประชาชน ที่ผ่านมารัฐบาลทำอะไรมาเยอะแยะมากมาย วันนี้นั่งรถมาเห็นบ้านเมืองสงบเรียบร้อย ทำให้ตนคิดว่าจะทำอะไรให้กับภาคใต้เพิ่มขึ้นอีก เราต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดินนี้ เป็นแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ แผ่นดินที่เกิด เติบโต หากินแล้วตายที่นี้ ไม่ใช่ไปตายนอกประเทศ ตนไม่ได้ว่าใคร ทำอะไรต้องระมัดระวัง บ้านเมืองเราไม่สงบอีกไม่ได้แล้ว เพราะโอกาสกำลังเข้ามาที่ประเทศไทย เดือนหน้านักท่องเที่ยวจีนจะเข้ามา 400 กว่าเที่ยวบิน มีการลงทุนอีก 6 แสนล้านบาท เราจะเป็นประเทศที่พัฒนาเต็มรูปแบบ เราจำเป็นต้องหาเงินจากต่างประเทศมาใส่กระเป๋าซ้าย เพื่อเอามาใส่กระเป๋าขวาให้ประชาชน ทุกอย่างกำลังเจริญก้าวหน้า

อ้อน รักแล้ว รักอยู่ รักต่อ

จากนั้นเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปสักการะศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ท่ามกลางประชาชนชาวนครศรีธรรมราชที่มาต้อนรับเนืองแน่น ต่างห้อมล้อมและตะโกนให้กำลังใจและเรียกพี่ตู่ เมื่อเสร็จสิ้นพิธี มีการจุดประทัดเอาฤกษ์เอาชัย ซึ่งก่อนจะเดินทางกลับ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แสดงสัญลักษณ์นิ้วหมายเลขพรรคอีกครั้ง ต่อมา 19.00 น. ที่สนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช พรรครวมไทยสร้างชาติ จัดเวทีปราศรัยใหญ่ปักธงเมืองคอน โดยมีบรรดาแกนนำพรรค และผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช สลับกันขึ้นปราศรัยบนเวที ซึ่งพื้นที่เทศบาลเมืองมี นายพูน แก้วภราดัย เป็นผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 1

เมื่อถึงเวลา พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเวทีปราศรัย ได้มีการเบ่งกล้ามโชว์ และหันหลังโชว์เบอร์พรรคบนเสื้อ ก่อนกล่าวเป็นภาษาใต้ว่า สวัสดีพ่อแม่พี่น้องทุกคนวันนี้มาด้วยความรักและความคิดถึงส่งใจถึงกันมาโดยตลอดใช่ไหม รักจังฮู้ หร่อยแรง วันนี้มาจังหวัดนครศรีธรรมราชเสียงแหบ เจอแต่ความรักความห่วงใย อวยชัยให้พร ตื้นตันจริงๆ วันนี้ดีใจที่พี่น้องมาพบปะ ถือเป็นเวทีสุดท้ายของนครศรีธรรมราช แต่ไม่ใช่ท้ายสุด เพราะเราต้องเจอกันอีกในวันเลือกตั้ง วันนี้กลับไปจะนอนหลับหรือเปล่าก็ไม่รู้ ขอให้พวกเราทุกคนให้กำลังใจกับผู้สมัคร ส.ส.ของพวกเราด้วย

“วันนี้กลับไปไม่มีเสียงแน่นอน ดีใจ ตั้งแต่เช้าเห็นแววตาความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจที่จะร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ในการที่จะพัฒนาประเทศของเราไปสู่อนาคตที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เราทราบดีว่าประเทศไทยอยู่ตรงจุดไหน ในขณะนี้รู้ถึงความเดือดร้อนของท่าน รู้ถึงปัญหา เราแก้มาได้ส่วนหนึ่ง แต่ยังแก้ไม่ได้อีกหลายส่วน ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้พูดไปหมดแล้ว ทุกอย่างอยู่ในหัวใจของคนคนนี้ ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ และทำใหม่ คนนครฯ รักพี่ตู่ไหม พี่ตู่ก็รักคนนครฯ เป็นร้อยเท่า คนเราต้องรักกันเท่านั้น รักกันจริงใจต่อกัน ห่วงใยกัน ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของตัวเอง นี่คือพรรครวมไทยสร้างชาติ เราจะทำงานเพื่อประเทศชาติของเราเพื่อสถาบันหลักของเราและเพื่อประชาชนให้ดีที่สุด เราจะไม่พูดถึงเรื่องเก่าอีกแล้ว เราจะพูดถึงเรื่องใหม่ว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยก้าวไปสู่ประเทศชั้นนำในเวทีโลก”

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงการเข้าสักการะศาลหลักเมือง และองค์ท้าวจตุคามรามเทพ ว่า ได้อธิษฐานให้บ้านเมืองปลอดภัย ให้คนไทยปลอดภัย ให้คนนครศรีธรรมราชปลอดภัย ให้พรรครวมไทยสร้างชาติประสบความสำเร็จ และขอให้ได้ ส.ส.ทั้งจังหวัด ท้ายสุดขอไว้หน่อยขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ปลอดภัย เพราะเสี่ยงทุกวัน ไม่ทะเลาะกับใครก็เสี่ยง 

“ผมไม่เคยโกหกท่าน เป็นทหารมาก่อนโกหกได้ไหม บางคนก็มีเหมือนกัน แต่ผมไม่มี แผ่นดินผืนนี้เป็นของใคร ของคนไทยทุกคน เหยียบแผ่นดินตรงนี้ก็เหยียบไปถึงเชียงใหม่ สะเทือนไปทั่วถนนหนทาง นี่คือพลังแผ่นดิน พลังของพวกเราทุกคนที่ทำให้ประเทศชาติปลอดภัย ขอให้รักกันมากๆ อย่าหลอกลวงกัน หัวใจผมมี 4 ห้อง มอบให้คนนครฯ ทั้งหมด และมอบให้คนไทยทั้งชาติด้วย ขอหัวใจคนนครฯ ให้กับ ส.ส.เขตของผม สัญญาคือสัญญา รักแล้ว รักอยู่ รักต่อ รักมากขึ้นไปเรื่อยๆ รักแรง ขอสัญญาว่าพรรคของเราจะดูแลคนทั้ง 70 ล้านคนให้ดีขึ้น มีรายได้สูงขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งเราเตรียมไว้อยู่แล้ว ขอให้จับมือกัน ถ้าไม่จับมือประเทศไทยเดินไปไม่ได้ อย่าไปแก่งแย่ง อย่าไปว่าใคร พระสอนไว้ จะว่าใคร สิ่งที่ว่าเขาจะกลับเข้าตัวทั้งหมด”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ มีเสียงที่แหบแห้ง เนื่องจากหาเสียงต่อเนื่องมากกว่า 5 เวทีรวดขณะที่เวทีปราศรัยสุดท้ายก่อนเดินทางกลับได้เปลี่ยนมาสวมใส่กางเกงสแล็กสีดำ จากเดิมที่ตลอดทั้งวันใส่กางเกงสีน้ำตาล.