เลือกตั้ง 2566 : “จุรินทร์” ปราศรัย กระบี่-นครศรีฯ-พังงา-สงขลา มั่นใจประชาธิปัตย์พาประเทศรอดได้ “ชวน” ย้ำ ถ้าเลือกคนโกง ก็ได้รัฐบาลโกง

วันที่ 4 พฤษภาคม 2566 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกำหนดการลงพื้นที่ของพรรคในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 ว่า เมื่อวานได้ปราศรัยใหญ่ที่ จ.พิจิตร มีคนเข้าฟังจำนวนมาก เชื่อว่าที่ จ.พิจิตร พรรคประชาธิปัตย์จะปักธงได้แน่นอน ส่วนจะกี่ที่ต้องรอดูวันเลือกตั้ง แต่คะแนนพรรคถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก เพราะเรามีผู้แทนราษฎรมาหลายยุค อีกทั้งมี นายไพฑูรย์ แก้วทอง, นายนราพัฒน์ แก้วทอง ซึ่งเป็นรองหัวหน้าพรรค ที่เป็นหัวเรือหลักมาช่วย

ส่วนวันที่ 5 พฤษภาคม 2566 จะมีการจัดปราศรัยใหญ่ที่ จ.กระบี่ ช่วงเย็น จากนั้นวันที่ 6 พฤษภาคม จะเป็นที่ จ.นครศรีธรรมราช ก่อนที่จะปราศรัยใหญ่ใน อ.เมือง ตนจะไปที่ อ.ทุ่งสง เพื่อช่วยหาเสียงให้ นายประกอบ รัตนพันธ์ ต่อด้วยวันที่ 7 พฤษภาคม ตนเองจะไปลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าที่ จ.พังงา และถือโอกาสขึ้นปราศรัยในเขตเลือกตั้งที่ 2 ช่วยหาเสียงให้กับ นายราเมศ รัตนะเชวง ขณะวันที่ 8 พฤษภาคม จะปราศรัยที่ จ.สงขลา และยังจะมีกิจกรรมต่อเนื่องไปจนถึงวันเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวถามถึงพื้นที่ จ.ภูเก็ต และ จ.พังงา จะมีหลายพรรคการเมืองเตรียมลงพื้นที่ในสัปดาห์นี้ มีความมั่นใจในการรักษาฐานที่มั่นไว้ได้หรือไม่ นายจุรินทร์ เชื่อว่าประชาธิปัตย์ยังดีอยู่มาก ล่าสุดเพิ่งได้คุยกับผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต มั่นใจว่าเสียงตอบรับยังดี และหลังการปราศรัยก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก ส่วนประเด็นสำคัญของภาพรวมที่น่าห่วงมีอยู่เรื่องเดียว คือเรื่องการใช้เงิน แต่ยังมั่นใจว่าคนใต้ซื้อไม่ได้

...

“อยากให้พี่น้องประชาชนคนใต้ และพี่น้องทุกภาค อย่าพิจารณาการลงคะแนนเสียงจากเงินที่มาหยิบยื่นซื้อเสียง เพราะสิ่งนี้สุดท้ายจะหันกลับมาทำลายประเทศ และทำลายประชาธิปไตยระยะยาวด้วย ถ้าใครใช้เงินซื้อเสียงมาก เข้าไปถอนทุนคืน สุดท้ายก็เกิดการทุจริต คอร์รัปชัน สุดท้ายที่การยึดอำนาจมาทุกครั้งก็เพราะมีการทุจริตของรัฐบาลก่อนหน้า ผมอยากให้ทุกคนได้ช่วยกันตระหนักในเรื่องนี้ และเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศก็จะต่อต้านและไม่ยอมรับเรื่องนี้”

มั่นใจพาประเทศรอดทั้งเศรษฐกิจและการเมือง

ขณะที่บนเวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ได้เน้นย้ำถึงการเสนอตัวมาเป็นทางเลือกเพื่อให้เข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และหยุดวงจรรัฐประหาร ซึ่งนายจุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการเลือกตั้งนี้หมายถึงการเลือกอนาคตให้ประเทศ ว่าจะให้ใครเข้ามาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ และมาเป็นตัวกำหนดอนาคตประเทศ ต้องเลือกพรรคการเมืองที่มั่นใจว่าจะพาประเทศรอด รอดทั้งทางเศรษฐกิจและรอดทั้งทางการเมือง คือพาประชาธิปไตยรอดด้วย

“ผมมั่นใจว่า ถ้าเราได้จัดตั้งรัฐบาล เราพาประเทศรอดในทางเศรษฐกิจ เพราะอดีตพิสูจน์มาแล้วทั้งตอนวิกฤติต้มยำกุ้ง พรรคประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาล เราก็พาประเทศผ่านวิกฤติได้ ยุคแฮมเบอร์เกอร์ พอประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาลเราก็พาประเทศพ้นวิกฤติได้ เที่ยวนี้ปัญหาปากท้อง ปัญหาเศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญอยู่ ผมก็เชื่อว่าถ้าเราเป็นแกนตั้งรัฐบาล เราพาประเทศรอดได้แน่นอน ที่สำคัญคือเราพาประชาธิปไตยรอดด้วย เพราะประชาธิปัตย์ไม่โกง กี่ยุคมาแล้วที่ประชาธิปไตยไม่รอด รัฐบาลก่อนรัฐประหารโกง ก็เลยเป็นปัญหา เพราะฉะนั้นคนไทยมั่นใจได้ว่าประชาธิปัตย์พาประเทศรอดได้ ทั้งทางเศรษฐกิจ และทางการเมือง ทำให้ประเทศเดินหน้าได้อย่างมั่นคง มีเสถียรภาพ และยั่งยืน”

ส่วนเรื่องที่มหาวิทยาลัยหอการค้าชี้ว่ารัฐบาลหน้าควรเป็นรัฐบาลที่ทำนโยบายลดค่าครองชีพนั้น นายจุรินทร์ ระบุว่า นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ก็มีความสอดคล้อง และสนองความต้องการเหล่านี้ได้แน่นอน เพราะเป็นสิ่งที่เรามีประสบการณ์ และทำอยู่บางส่วน แม้ไม่ได้มีอำนาจเต็มก็ตาม แต่ถ้ามีอำนาจเต็ม เราจะสามารถจับมือกับเอกชนและทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนประเทศไปได้แน่นอน พร้อมกับสามารถบรรลุเป้าหมายตามที่เอกชนต้องการได้


“ชวน” นำทัพบุกนราธิวาส ดันผู้สมัครโค่นแชมป์เก่า


ในวันเดียวกันนี้ นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. ขึ้นรถแห่รอบเทศบาลเมืองนราธิวาส ช่วยหาเสียงให้กับ นายวสันต์ ดือเร๊ะ ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เขตเลือกตั้งที่ 1 จากนั้นไปสักการะศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะ อ.สุไหงโก-ลก พร้อมกับ นายเมธี อรุณ ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เขตเลือกตั้งที่ 2 เดินตลาดเก็นติ้ง ขึ้นรถแห่ขอคะแนนในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ต่อด้วยปราศรัยที่หน้าสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก และ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า แม่ของตนมาเป็นครูครั้งแรกที่สามจังหวัดชายแดนใต้ และตอนนี้ตนก็มาดูนโยบายการศึกษาของพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้น เมื่อเมืองนี้มีเด็กเกิดใหม่จำนวนมาก พรรคประชาธิปัตย์จึงมีนโยบายดูแลเด็กตั้งแต่แรกเกิด ไปจนถึงจัดให้เรียนฟรีจนจบปริญญาตรี พัฒนามหาวิทยาลัย มีนโยบายอินเทอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุด สนับสนุนให้เกิดการค้นคว้าเพิ่มเติม และการเรียนรู้ตลอดชีวิตอีกด้วย

ทางด้าน น.ส.วทันยา กล่าวเสริมว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการเลือกตั้งที่ใช้เงินมากที่สุด แต่เชื่อว่าคนใต้ซื้อไม่ได้ด้วยเงิน แต่ต้องใช้ใจซื้อ เพื่อทวงคืนศักดิ์ศรีของคนใต้คืนมา สำหรับพรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนชัดเจนเรื่องการไม่สนับสนุนกัญชาเสรี เพราะทำนโยบายที่คำนึงถึงอนาคตลูกหลาน ไม่ใช่ทำนโยบายฉาบฉวยที่หวังแค่คะแนนเสียงวันนี้ ขณะที่บางพรรคการเมืองทำนโยบายประชานิยมเพื่อหาเสียง บอกจะแจกเงินให้ประชาชน แต่สุดท้ายจะกลายมาเป็นหนี้สาธารณะของประชาชน ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์มองว่าจะใช้งบประมาณที่จำกัดอย่างไรให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ด้วยการมีนโยบายธนาคารชุมชน-หมู่บ้าน เพื่อเป็นการสร้างรายได้ สร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ และกระจายรายได้

จากนั้น นายชวน ปราศรัยว่า ในช่วงรัฐบาล นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คนใต้ไม่ได้รับโครงการพัฒนาพื้นที่เท่าที่ควร และในยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตนก็ทำหนังสือขอทวงคืนการสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้ภาคใต้ไปหลายฉบับ เพื่อขอให้เร่งปรับปรุงถนนสายใต้ใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกเวลาที่เกิดน้ำท่วมเส้นทางหลัก แต่จนยุบสภาก็ยังไม่ได้ทำ พร้อมย้ำว่า “ถ้าเลือกคนดี คนสุจริต บ้านเมืองก็จะไปดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง พรรคประชาธิปัตย์อยู่กับคนไทยมาตลอด 77 ปี ไม่โกงไม่กิน ไม่สิ้นชาติ ขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนร่วมกันปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ถ้าเราเลือกคนโกงก็ได้รัฐบาลโกง ระบอบนี้ต้องอาศัยความสำคัญของประชาชนที่ตระหนักถึงการเลือกตั้ง”