"พรรคเปลี่ยน" ลงใต้ ลุยหาเสียง "ตรัง-สงขลา-ปัตตานี" พบปะ พ่อ แม่ พี่ น้อง ที่ตลาดกิมหยง ชื่นใจเสียงตอบรับดี เสนอเปิดด่านชายแดนดึง คนมาเลย์-อินโดฯ พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนใต้ จี้รัฐ แจง ประโยค "หากสงบงบไม่มา"
วันที่ 1 พ.ค. 2566 นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธ์ หรือ นอท หัวหน้าพรรคเปลี่ยน พร้อมด้วยนายณัฐชนน อาภาศรีรัตน์ โฆษกพรรคเปลี่ยน พร้อมผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลุยหาเสียงอ้อนขอคะแนนพี่น้องประชาชนชาว จ.ตรัง และ จ.สงขลา โดยในช่วงเช้า ได้ลงพื้นที่นำทีม สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ศาลหลักเมืองตรัง จากนั้นเช็กอินที่ อนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี จ.ตรัง และเดินหน้าหาเสียงที่สวนสาธารณะพระยารัษฎา
...
จากนั้นได้หาเสียงต่อ ที่ตลาดกิมหยง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อ้อนขอคะแนนเสียงจากพ่อค้า-แม่ค้า รวมถึงประชาชนที่มาซื้อของที่ตลาดกันอย่างคึกคัก และในช่วง 18.00 น. จะได้หาเสียงที่ตลาดศรีตรัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับการตอบรับที่ดีจากพ่อค้า-แม่ค้า และประชาชนที่มาเดินซื้อสินค้า หลายคนตั้งใจจะเลือกพรรคเปลี่ยน เบอร์ 20 อย่างแน่นอน เพราะเห็นถึงความจริงใจและความตั้งใจของพรรค
นายพันธ์ธวัช ได้ย้ำจุดยืน การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนให้ ระหว่างเดินหาเสียงในตลาดสดเทศบาลปัตตานีหลังเจอประชาชนสะท้อนปัญหาว่า ตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา ยังไม่มีอะไรพัฒนา จึงอยากเปลี่ยนและฟื้นเศรษฐกิจให้กลับคืนมา ให้ มาเลเซีย-อินโดนีเซีย เข้ามาเที่ยวประเทศไทยให้มากขึ้น นายพันธ์ธวัช ระบุว่า ไม่รู้ว่าเป็นความคิดที่ผิดหรือถูก จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่า สิ่งที่จะแก้ได้ คือ การเปิดให้แดนเป็นเศรษฐกิจเหมือนชายแดนอำเภอแม่สาย พัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยเอาเศรษฐกิจมาพูดคุยกัน เพื่อทำให้ประเทศสงบ โดยคาดว่า จะช่วยให้ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เศรษฐกิจดีขึ้น หากเปิดด่านชายแดนให้เป็นเรื่องเป็นราว ก็จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับคืนมาคนในพื้นที่ก็จะอยู่ได้ ขณะเดียวกันอยากให้ภาครัฐชี้แจงและเคลียร์กับประโยคที่ว่า ”หากสงบงบไม่มา” เพราะคนที่เดือดร้อน คือ คนหาเช้ากินค่ำและจะยิ่งทำให้การค้าขายในพื้นที่ไม่เติบโต