เลือกตั้ง 2566 : “เฉลิมชัย” ขอบคุณประชาชน โหวตประชาธิปัตย์เป็นพรรคขวัญใจเกษตรกร 2 ปีซ้อน จากผลสำรวจซูเปอร์โพล “อลงกรณ์” ลั่น ตอกย้ำความเป็นพรรคไม่โกง
วันที่ 23 เมษายน 2566 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคและรัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลสำรวจของสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เรื่อง “นโยบายพรรคการเมืองที่ชื่นชอบของประชาชน” กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,322 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 15-21 เมษายน 2566 ระบุว่า
3 อันดับแรกพรรคการเมืองที่มีนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรและไม่ด่างพร้อย ไม่ทุจริตที่ชื่นชอบ (ชอบได้มากกว่า 1 พรรค) พบว่า
- ร้อยละ 41.0 ระบุ พรรคประชาธิปัตย์
- ร้อยละ 38.3 ระบุ พรรคภูมิใจไทย
- ร้อยละ 29.1 ระบุ พรรคเพื่อไทย
...
ส่วนพรรคการเมืองที่ถูกคาดหวังให้ช่วยเหลือเกษตรกร พบ 5 อันดับแรกที่มากที่สุดคือ
- พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 43.0
- พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 39.8
- พรรคเพื่อไทยร้อยละ 30.7
- พรรคพลังประชารัฐร้อยละ 26.9
- พรรคก้าวไกล ร้อยละ 9.6
นอกจากนี้ ร้อยละ 43.9 ยังระบุให้ พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคขวัญใจเกษตรกร ไม่มีประวัติด่างพร้อยเรื่องทุจริต
ขณะที่ผู้นำทางการเมืองที่ต้องการให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง (ต้องการได้มากกว่า 1 ท่าน) พบว่า
- ร้อยละ 58.6 ระบุ นายอนุทิน ชาญวีรกูล
- ร้อยละ 37.5 ระบุ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร
- ร้อยละ 35.6 ระบุ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
นายเฉลิมชัย ระบุว่า “จากผลการสำรวจดังกล่าว พรรคประชาธิปัตย์ต้องขอขอบคุณซูเปอร์โพล และพี่น้องประชาชนที่โหวตให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคขวัญใจของเกษตรกรที่ไม่มีประวัติด่างพร้อยเรื่องทุจริตติดต่อกัน 2 ปีซ้อน ซึ่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังเป็นผู้นำพรรคการเมืองที่ประชาชนเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาปากท้อง รายได้ และหนี้สินของประชาชน อันดับที่ 3”
ทางด้าน นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรค กล่าวเสริมว่า พรรคประชาธิปัตย์ในยุคอุดมการณ์ทันสมัย ทำได้ไวทำได้จริง โดยการนำของ นายจุรินทร์ และ นายเฉลิมชัย มุ่งมั่นทุ่มเททำงานแก้ไขปัญหาของเกษตรกรและประชาชนฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไร้ทุจริตในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะนโยบายประกันรายได้เกษตรกร การเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกร 8 ล้านครัวเรือน ครัวเรือนละ 15,000 บาท ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวมถึงการเยียวยาชาวสวนลำใย
“การส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ปีละกว่า 1.39 ล้านล้านบาท ภายใต้ยุทธศาสตร์นำการผลิต การส่งออกทุเรียนทะลุแสนล้านบาทเป็นครั้งแรกของประเทศ อีกทั้งยังได้ยกระดับเกษตรแปลงใหญ่ การพัฒนาเกษตรแม่นยำ 2 ล้านไร่ การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลเกษตรบิ๊กดาต้าแห่งชาติ และการจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม 77 จังหวัดครั้งแรกของประเทศ ตามยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร 4.0 การพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน เกษตรอินทรีย์ การปฏิรูปที่ดิน กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร การพัฒนาระบบสหกรณ์ การขยายเขตชลประทาน การพัฒนาพันธุ์ข้าว พันธุ์พืช พันธุ์ประมง พันธุ์ปศุสัตว์”
นายอลงกรณ์ ระบุต่อไปว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังได้ทุ่มเทพัฒนายางไทย ให้เพิ่มผลผลิตตรงความต้องการของตลาด ยกระดับราคาข้าวเพิ่มรายได้ชาวนาจนประเทศไทยกลับมาครองแชมป์ส่งออกข้าวอันดับ 2 ของโลกได้สำเร็จ ภายใต้ยุทธศาสตร์ข้าวไทย ข้าวโลก การริเริ่มขับเคลื่อนนโยบายอาหารแห่งอนาคต การขยายเอฟทีเอ และมินิเอฟทีเอ เป็นตัวอย่างบางส่วนที่ทำให้เกษตรกรเชื่อมั่นในพรรคประชาธิปัตย์เป็นอันดับ 1 ติดต่อกันถึง 2 ปีซ้อน ซึ่งเป็นการตอกย้ำความเป็นพรรคขวัญใจเกษตรกร และเป็นพรรคไม่โกง พรรคประชาธิปัตย์จะทำงานหนักต่อไปจนกว่าพี่น้องเกษตรกรจะก้าวข้ามความยากจน ก้าวพ้นหนี้สิน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น