“กานต์กนิษฐ์” จี้ เร่งฟื้นฟูท่องเที่ยว ให้มากกว่าเดิมและดีกว่าเดิม ชี้ พัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ด้านต่างๆ ในพื้นที่ กทม. เขต 1 เป็นแนวทางหลัก แนะ รายได้ท่องเที่ยวจะกระจายสู่ประชาชนจำนวนมาก
วันที่ 18 เม.ย. นางสาวกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เขต 1 เบอร์ 8 กล่าวว่า แม้ว่าแนวโน้มการท่องเที่ยวของประเทศไทยจะฟื้นตัวในปีนี้ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศไทยดีขึ้น แต่การท่องเที่ยวก็ยังไม่ฟื้นกลับไปอยู่ที่เดิมก่อนเกิดวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด ดังนั้น รัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะต้องมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับมาเท่าเดิมโดยเร็ว อีกทั้งจะต้องมีมาตรการที่ต้องเพิ่มนักท่องเที่ยวให้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย และควรจะต้องเป็นนักท่องเที่ยวที่มีรายได้สูง ที่จะเข้ามาใช้จ่ายจำนวนมาก เพื่อเพิ่มรายจ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น ถือโอกาสนี้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการท่องเที่ยวของประเทศไทย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวรายได้สูงให้เข้ามามากขึ้น
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครในเขต 1 ที่ตนลงสมัคร ส.ส.ประกอบด้วย เขตสัมพันธวงศ์ เขตบางรัก และเขตดุสิต มีธุรกิจการท่องเที่ยวจำนวนมาก และอยู่ในทุกระดับชั้นของรายได้ ดังนั้น จึงอยากให้มีการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ฟื้นฟูกิจการที่ต้องประสบปัญหาในช่วงวิกฤติไวรัสโควิดมาเป็นเวลานาน ให้สามารถลืมตาอ้าปาก และแก้ปัญหาหนี้สินที่ค้างอยู่ให้กลับมาสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้อย่างราบรื่น และต้องพลิกวิกฤติเป็นโอกาสให้สามารถพัฒนาการท่องเที่ยวของไทยให้ก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่งด้วย
...
โดยในพื้นที่นี้มีสถานที่ท่องเที่ยวจำนวนมาก และมีร้านอาหารที่มีชื่อเสียง การพัฒนาให้เกิดซอฟต์พาวเวอร์ในด้านต่างๆ เพื่อโปรโมตให้เป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมไปทั่วโลก ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ทำได้ และควรเร่งดำเนินการ ซึ่งจะทำให้เกิดรายได้และเกิดการกระจายรายได้เข้าสู่ประชาชนจำนวนมาก เป็นการเพิ่มรายได้ และลดความเหลื่อมล้ำไปพร้อมกัน
ทั้งนี้ ตนเองจะเชิญผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวให้มาเสนอความคิดเห็น และหาแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวไปพร้อมกัน เพื่อให้ภาคเอกชนและภาครัฐสามารถทำงานสอดประสานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การพัฒนาการท่องเที่ยวของไทยเป็นไปอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ เพื่อทำรายได้เข้าประเทศให้มากยิ่งๆ ขึ้นไปในอนาคต
สำหรับการหาเสียงในพื้นที่ ปรากฏว่ามีข่าวคราวการปราศรัยย่อย และมีการแจกเงินคล้ายการซื้อเสียงเป็นจำนวนมาก จึงอยากให้ กกต.ได้เข้าตรวจสอบเพื่อหยุดยั้ง และปราบปรามการซื้อเสียงที่เป็นปัญหาของประเทศไทยในปัจจุบันให้หมดสิ้นไป.