การเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 พ.ค.2566 นี้ เชื่อว่าคนไทยทุกคนต่างมี “รัฐบาลในฝัน” หรือรัฐบาลที่อยากได้ของตัวเองในใจกันแล้ว “ทีมเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ได้สำรวจผู้คนจากหลากหลายอาชีพ เพื่อสะท้อนภาพมุมมอง “รัฐบาลในฝัน” และสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการ หรือมีนโยบายในด้านต่างๆที่เกี่ยวกับปากท้องและการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทยในหลากหลายอาชีพ

ไม่ว่าพรรคการเมืองหรือขั้วอำนาจไหน จะได้เสียงข้างมากเข้ามาจัดตั้งรัฐบาล เราอยากให้ฟังเสียงสะท้อนจากผู้คนหลากที่มา หลายอาชีพเหล่านี้

ธเนศ ศุภรสหัสรังสี
เจ้าของโรงแรมราวินทรา รีสอร์ท แอนด์ สปา และเครือโรงแรมซันไชน์ พัทยา

“ผมอยากได้รัฐบาลที่เข้าใจการทำธุรกิจของภาคเอกชน ถ้าสิ่งใดที่รัฐเอื้อให้ธุรกิจมีกำไร เราก็เสียภาษีให้กับรัฐได้มากขึ้น”

อย่างตอนนี้ที่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว หลังเจอวิกฤติโควิด-19 มา 3 ปีเต็ม ผมคุยกับคนวงใน 3-4 กลุ่มได้ข้อมูลตรงกันว่านักท่องเที่ยวต่างชาติอยากมาเที่ยวประเทศไทยมาก แต่หาเครื่องบินเดินทางมาไม่ได้ ทั้งรัสเซีย และญี่ปุ่น อยากเพิ่มเที่ยวบิน แต่ติดปัญหาพนักงานภาคพื้นที่สนามบินยอดฮิตอย่างสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินภูเก็ตมีไม่เพียงพอ เพราะมีการเลย์ออฟพนักงานออกไป มาถึงตอนนี้มีความต้องการเพิ่มเข้ามา แต่ไม่มีการแก้ไข เป็นแบบนี้เหมือนเราสะดุดขาตัวเอง

...

ประเด็นต่อมาที่อยากให้รัฐบาลที่เข้ามาใหม่เข้าใจและแก้ไขปัญหาให้ได้คือ เรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆที่เป็นต้นทุนในการทำธุรกิจเพิ่มขึ้น เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ แต่ ค่าบริการ ค่าอาหาร ค่าจัดเลี้ยงต่างๆทางโรงแรมไปขึ้นราคากับลูกค้าไม่ได้ ปัญหาที่เกิดขึ้นแบบนี้ รัฐบาลจะหาทางชดเชยให้ได้หรือไม่

และที่สำคัญไม่แพ้กันคือ เรื่องการขาดแคลนแรงงาน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะในภาคธุรกิจบริการ แต่ลามไปถึงโรงงานต่างๆที่คนออกจากระบบไปในช่วงโควิด–19 ซึ่งในช่วงเวลา 3 ปี เขากลับไปทำการเกษตรที่บ้านเกิด หรือไปมีงานใหม่แล้ว พอมาตอนนี้ที่ธุรกิจหลักๆเริ่มฟื้น แต่พนักงานไม่ได้กลับมา ซึ่งกรณีการทำงานในโรงงาน เขาอาจหาเครื่องจักรมาทำงานทดแทนคนได้ แต่ในธุรกิจบริการยังจำเป็นต้องใช้คนมาพูดคุย มาให้บริการอยู่ จึงมองว่ารัฐบาลใหม่ควรมาวางระบบการนำเข้าแรงงานต่างชาติอย่างจริงจัง ให้ขั้นตอนการขออนุญาตต่างๆง่ายและโปร่งใส เพราะไม่มีใครที่อยากทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะในส่วนของนายจ้างหรือลูกจ้างก็ตาม

จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา
ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด
อินฟลูเอนเซอร์ด้านคริปโตเคอร์เรนซี

“รัฐบาลในฝันของผม คือรัฐบาลที่สามารถดำเนินนโยบายให้เท่าทันโลกแห่งอนาคต ทั้งการเกาะไปกับกระแสดิจิทัล โซลูชันส์ การให้ความสำคัญกับปัญหาสิ่งแวดล้อม เปลี่ยนผ่านสู่กระแสสีเขียว (Green) การผลักดันเป้าหมายสนับสนุนให้ประเทศไทย มุ่งสู่พลังงานสะอาดและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (คาร์บอนไดออกไซด์) สุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องอาศัยการขับเคลื่อนจากผู้นำประเทศ”

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ปี 2567 ไปอีก 10 ปีข้างหน้าจนถึงปี 2577 จะเป็นปีที่โลกทั้งใบหันเข้าหาภูมิภาคอาเซียน อาเซียนจะเข้าสู่ยุคทองคำ ที่เงินทุนจะหลั่งไหลเข้ามา อาเซียนจะกลายเป็น Supply Chain ของโลก ซึ่งอินโดนีเซีย ชิงประกาศตัวแล้วว่าจะขอเป็นศูนย์กลางแห่งความยั่งยืน (Sustainable Hub) และนี่คือโอกาสอันใหญ่หลวงที่ผมอยากให้รัฐบาลใหม่ฉกฉวยไว้ให้ได้

ส่วนจะเป็นรัฐบาลเดี่ยว รัฐบาลผสม ไม่มีผลอะไร แค่ต้องเป็นรัฐบาลที่วิ่งได้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ และนำพาประเทศไทยให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากตรงนี้

นายไพโรจน์ กุลละวณิชย์
ข้าราชการบำนาญและเกษตรกร จ.ฉะเชิงเทรา

“รัฐบาลในฝัน อย่าฝันเลย เพราะไม่เคยเห็น ฝันไปก็ไม่ได้ อย่าคาดหวังอะไรเลย เพราะคาดหวังแล้วจะผิดหวัง ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลง ต้องยอมรับให้ได้ คนแก่ต้องยอมรับว่าหมดยุคแล้ว ก็ควรหยุด จะกระเสือกกระสนไปทำไม”

ไม่อยากฝันถึงนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลที่อยากได้ เพราะฝันแล้วก็ไม่ได้ ดังนั้นในระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนเป็นคนลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ไม่ว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี หรือรัฐบาล ก็ต้องยอมรับ คนสูงอายุที่เป็นกลุ่มอนุรักษนิยม แม้คนที่เราเลือกไม่ชนะหรือคนที่ชนะเป็นคนที่เราไม่ได้เลือก ก็ต้องยอมรับ ต้องเปิดใจ เปิดรับ อย่ายึดติด อย่าหวงอำนาจ คนรุ่นใหม่ก็เป็นเจ้าของประเทศเหมือนกัน

สำหรับนโยบายที่อยากให้รัฐบาลดำเนินการ คือ ดูแล ส่งเสริมและพัฒนาภาคเกษตรอย่างจริงจังในทุกด้าน ทั้งการผลิต การตลาด พัฒนาความสามารถด้านการแข่งขัน ไม่ใช่แค่ทำนโยบายที่เป็นการช่วยเหลือระยะสั้น เพราะที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ เกษตรกรผลิตแล้วขายไม่ได้ ราคาผลผลิตตกต่ำ หรือผลิตแล้วล้นตลาด ราคาก็ตกอีก อยากให้เอาทุเรียนเป็นกรณีศึกษา ที่ปัจจุบันผลผลิตไม่พอขาย ส่งออกจำนวนมาก และได้ราคาดี ทำอย่างไรสินค้าเกษตรอื่นๆ จะติดตลาดเหมือนทุเรียนไทย

นอกจากนี้ ยังต้องการให้เดินหน้าเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ให้สุด เพื่อดึงต่างชาติเข้ามาลงทุน เพราะตนอยู่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ในพื้นที่อีอีซี เห็นว่า มีความเจริญเกิดขึ้น เช่น ถนนหนทาง ชีวิตชาวบ้านดีขึ้น รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยว ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะทุกวันนี้ประเทศไทยรวยกระจุก จนกระจาย คนรวยกระจุกตัวอยู่ในคนบางกลุ่ม ขณะที่คนส่วนใหญ่ยังยากจน ที่สำคัญต้องปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ และปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบต่างๆ เพราะเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริต

ทพ.ศักรินทร์ ตั้งโพธิธรรม
ทันตแพทย์เฉพาะทางด้านทันตกรรมบดเคี้ยว คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

“นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวคงไม่สามารถทำทุกอย่างในเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดได้ จึงต้องมีทีมที่ดีหรือรู้จักเลือกใช้คนที่มีความสามารถตรงจุด แต่ก็ต้องเป็นคนที่คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนก่อนด้วยเหมือนกัน จะได้ร่วมกันพัฒนาประเทศและบริหารงานกันอย่างครอบคลุมทุกด้าน”

ผมอยากได้นายกรัฐมนตรีที่มีความเป็นผู้นำที่ดี ตัดสินใจโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง โปร่งใสและตรวจสอบได้ ซึ่งหมายถึงยินดีให้เราตรวจสอบได้ด้วย ต้องให้ประชาชนเข้าถึงได้ ให้ความสำคัญกับความหลากหลายและความเท่าเทียม โดยกำหนดนโยบายที่สนับสนุนด้านนี้ นอกจากนี้ อยากให้เป็นคนที่ยอมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน มีความคิดเชิงพัฒนาและลงมือทำอย่างจริงจัง มีมุมมองรอบด้าน มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนสำหรับอนาคต มองขาดว่าต้องก้าวไปทางไหนถึงจะทันกระแสอนาคต

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีต้องมีความสามารถในการบริหารคนด้วย พอจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว ก็อยากให้มีความตั้งใจทำงาน ต้องเป็นรัฐบาลที่ไม่โกง ไม่มัวแต่แสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ให้พวกพ้อง อยากให้รัฐบาลกลับมาทบทวนยุทธศาสตร์ชาติอีกครั้งว่ายังเป็นไปตามแนวโน้มของสถานการณ์โลกในอนาคตอยู่หรือไม่ เพราะหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วมาก รัฐบาลต้องตามให้ทัน และอาจต้องไปดักหน้าก่อนด้วยซ้ำ

ส่วนนโยบายของรัฐบาลที่สำคัญที่สุด คือ ปากท้องของประชาชน จึงต้องทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นและเข้มแข็ง กำหนดนโยบายระยะสั้นและระยะยาวอย่างชัดเจน ทำให้คนจนลดลง มีการกระจายรายได้ นอกจากนี้ อยากให้ความสำคัญกับการพัฒนาการศึกษาให้มีมาตรฐานใกล้เคียงกันในแต่ละพื้นที่ ลดความเหลื่อมล้ำ เด็กในชนบทไม่ต้องดิ้นรนมาเรียนในเมืองหรือกรุงเทพฯ ซึ่งต้องไปพัฒนาครู สอนให้เด็กคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ

ขณะเดียวกัน กำหนดนโยบายสาธารณสุขที่ทำให้ทุกคนเข้าถึงได้ เช่น วิชาชีพทันตแพทย์ อยากให้กำหนดนโยบายด้านการรักษาพยาบาลทางทันตกรรมให้ใกล้เคียงกันในแต่ละสิทธิ์การรักษา ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาพช่องปากและป้องกันโรคของประชาชน ซึ่งเป็นการจัดการต้นทาง ที่สูญเสียงบประมาณน้อยกว่าการมารักษาฟื้นฟูหลังจากที่เป็นโรคแล้ว รวมถึงอยากให้กระจายทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะสาขาไปในพื้นที่ต่างๆ บางพื้นที่มีทันตแพทย์ แต่ไม่มีอุปกรณ์ เครื่องมือที่เพียงพอ ทันตแพทย์เฉพาะทางบางสาขาก็ไม่ได้เข้าถึงได้ง่าย ทำให้ผู้ป่วยขาดโอกาสในการรักษา และส่งผลต่อคุณภาพชีวิต หลายครั้งก็ส่งผลไปถึงผู้ดูแลผู้ป่วยด้วย

ชฎา ยิ้มละมัย
นักศึกษามหาวิทยาลัย

“รัฐบาลในฝัน อยากได้รัฐบาลที่ประกอบไปด้วยผู้ที่มีความรู้ ความสามารถอย่างแท้จริง มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ฉลาด ก้าวทันโลก ทำงานบริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมีความเป็นผู้นำ ดำเนินนโยบายที่คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติส่วนรวม มากกว่าประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง นอกจากนี้ คุณสมบัติของผู้มาเป็นรัฐมนตรี ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ในเรื่องนั้นๆ มีความเป็นผู้นำ ทันโลก มีอายุเหมาะสมและไม่แก่เกินไป”

ในฐานะคนรุ่นใหม่ สิ่งที่น่ากังวลขณะนี้คือการที่ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งทำให้คนวัยทำงานและจำนวนผู้เสียภาษีน้อยลง ขณะที่ภาระงบประมาณด้านการรักษาพยาบาลและการดูแลผู้สูงอายุจะสูงขึ้น อยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ซึ่งเป็นปัญหาระดับโครงสร้างสังคม

“คนรุ่นใหม่หลายคนไม่มีเป้าหมายที่จะแต่งงาน สร้างครอบครัว หรือบางคู่แต่งงานแต่ไม่อยากมีลูก มองว่าเป็นภาระ แพง หันไปนิยมเลี้ยงสัตว์เป็นลูกแทน เทรนด์นี้น่าจะยิ่งทำให้อัตราเกิดลดน้อยลงอีก กระทบต่อจำนวนคนวัยทำงานและการจัดเก็บภาษีในอนาคตแน่นอน”

รัฐบาลจึงอาจต้องมองหามาตรการกระตุ้นเพื่อเพิ่มอัตราการเกิด ไม่ว่าจะเป็นสิทธิลดหย่อนภาษี ลด แลก แจก แถม หรือสิทธิประโยชน์ด้านอื่นๆให้กับคุณแม่ตั้งครรภ์ หรือผู้ที่มีลูก รวมทั้งการลดหย่อนภาษีให้กับคนที่ส่งลูกเรียนหนังสือ ยิ่งส่งลูกเรียนสูงเท่าไหร่ จะยิ่งลดหย่อนภาษีได้มากขึ้น เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายและสนับสนุนการศึกษา ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว เพื่อให้มีแรงงานคนรุ่นใหม่เข้ามาอยู่ในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น อยากฝากให้รัฐบาลไปคิดในเรื่องนี้ต่อ!!

พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ “น้องเทนนิส”
นักเทควันโดหญิงทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2020

“อยากให้รัฐบาล สนับสนุนกีฬาเยอะๆ เพื่อทำให้เด็กๆเยาวชนและครอบครัว ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน จะได้ไม่หันไปหายาเสพติด และอบายมุขทั้งหลาย เพราะการเล่นกีฬา เราสามารถทำให้เป็นเรื่องสนุกได้ และที่สำคัญต้องทำให้ทุกคนเข้าถึงบริการกีฬาทุกประเภทได้”

“น้องเทนนิส” ยังบอกอีกว่า นอกจากนี้ ยังต้องการรัฐบาลที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การกีฬา ด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้เพื่อยืดอายุการเล่นกีฬา เช่น บ่อน้ำร้อน-น้ำเย็น สำหรับบำบัดฟื้นฟูร่างกาย หลังการแข่งขันเสร็จสิ้น หรือได้รับบาดเจ็บระหว่างแข่งขัน ซึ่งบ่อน้ำร้อน-น้ำเย็น ช่วยบำบัดได้ ขณะที่ประเทศไทยยังไม่เป็นที่แพร่หลาย ที่เป็นอยู่ในเวลานี้ ใช้ถุงประคบน้ำแข็ง-น้ำร้อน หรือสั่งน้ำแข็งมาไว้ เพื่อแช่ร่างกายกันเอง เมื่อเทียบกับต่างประเทศ มีบ่อน้ำร้อน-น้ำเย็น ไว้บำบัด-ฟื้นฟูร่างกายนักกีฬาให้สดชื่น ยืดอายุร่างกาย ให้มีแรงไปแข่งขันครั้งต่อไปได้เร็วขึ้น

ประเทศไทยมีการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เกี่ยวกับการกีฬาเพียง 5-10% เท่านั้น ซึ่งต่างกับนานาประเทศ ที่นำเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการกีฬามาประยุกต์ใช้ทั้งในสนามการแข่งขัน และการดูแลนักกีฬา หากไทยนำเทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้อย่างเต็มรูปแบบ และทำให้ทุกคนเข้าถึง เชื่อว่าจะช่วยยกระดับนักกีฬาของไทย ให้มีโอกาสเข้าสู่เกมการแข่งขันระดับโลกได้หลายประเภทมากยิ่งขึ้น”

“เชื่อว่าหลายคนเข้ามาเป็นนักกีฬา เพราะมีความฝัน ที่จะได้เป็นแชมป์ ได้เหรียญทอง เพราะนอกจากจะสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติ และตัวเองแล้ว ยังทำให้มีเงินเลี้ยงดูครอบครัวได้ จึงอยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญในการดูแลสวัสดิการของนักกีฬามากยิ่งขึ้น เชื่อว่านักกีฬาจะทุ่มเทเวลาและร่างกายเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติต่อไปได้”

“วัชระ อินตานนท์”
ผู้จัดการทีมเซลขายรถยนต์

“อยากได้รัฐบาลในฝัน ที่ฟังเสียงของประชาชน ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย สร้างความแตกแยกให้กับคนในชาติ ต้องสร้างความสามัคคีให้คนไทย เป็นรัฐบาลของคนไทยทุกคนจริงๆ และมีการทำงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้”

นอกจากนี้ ต้องมีความสามารถในการบริหาร มองปัญหาออก และสามารถขับเคลื่อนประเทศ ให้เท่าทันกับโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว มองภาพรวมการพัฒนาประเทศไปข้างหน้า และการแต่งตั้งรัฐมนตรีที่คุมกระทรวงต่างๆ ควรเป็นผู้มีความรู้ในเรื่องนั้นๆอย่างแท้จริง ไม่ใช่ตั้งใครมาก็ได้

“วัชระ” ยังอยากให้รัฐบาลมีนโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญ คือการผลักดันคนตัวเล็กให้ยืนได้ด้วยตัวเอง ลดการผูกขาดของกลุ่มทุนขนาดใหญ่ ควรมีนโยบายการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน มีแผนระยะยาวในการลดความเจ็บป่วยของคนในชาติ เพื่อนำงบประมาณไปพัฒนาประเทศในด้านอื่น ส่วนการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ที่มาพร้อมกับการเกิดที่น้อยลง ควรมีนโยบายที่ชัดเจนในการรองรับปัญหาเรื่องงบประมาณในการดูแลผู้สูงวัย ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายที่สำคัญคือเรื่องคุณภาพชีวิต สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม การเดินทางที่สะดวกในทุกพื้นที่ ให้คนอยู่ในท้องถิ่น สร้างอาชีพในท้องถิ่น ไม่กระจุกตัวอยู่แค่กรุงเทพฯ

สตรีรัตน์ เที่ยงจิตต์
อาชีพพริตตี้

“ต้องการรัฐบาลในฝัน ที่เป็นรัฐบาลที่มีหลักธรรมาภิบาล ศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย ทำงานเพื่อประชาชน และเห็นประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก”

ขณะที่รัฐมนตรีที่รับผิดชอบกระทรวงต่างๆ ต้องเป็นรัฐมนตรี ที่มีความรู้เกี่ยวกับงานที่รับผิดชอบอย่างแท้จริง ไม่เห็นผลประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง รวมถึงทำให้ประชาชนมีความสุข ส่งผลให้การพัฒนาประเทศเป็นไปอย่างยั่งยืนในอนาคต

นโยบายเศรษฐกิจที่ต้องการ อยากให้ส่งเสริมด้านการเกษตร ที่ทำให้เกษตรกรไทยมีรายได้และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะประเทศไทยถือเป็นประเทศที่เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ รวมทั้งสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว ให้ชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวไทยมากขึ้น หมุนเวียนเศรษฐกิจให้คนไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกันในด้านอุตสาหกรรม อยากให้ดูแลแรงงานให้มีชีวิตที่ดีและมีคุณภาพ รวมทั้งสนับสนุนให้ความรู้ ในการทำธุรกิจ SME มีแหล่งเงินทุนที่เหมาะสม พัฒนาสินค้าไทยให้มีคุณภาพและมาตรฐาน นำไปสู่การส่งออก สร้างรายได้เข้าประเทศได้มากขึ้น

วิษณุ นกนาค
คนขับแท็กซี่ (TAXI)

“อยากให้รัฐบาลชุดใหม่รับฟังเสียงของผู้ประกอบการขับรถรับจ้าง โดยเฉพาะคนขับรถ ไม่ว่าจะเป็นรถแท็กซี่ รถจักรยานยนต์รับจ้างหรือรถรับจ้างอื่นๆ ขอให้พิจารณาจากสภาพความเป็นจริง ลงพื้นที่จริง รวมถึงสอบถามจากผู้ประกอบการอาชีพตัวจริง ว่าต้องการให้ช่วยเหลือและต้องการให้แก้ปัญหาใด เพื่อให้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ”

นอกจากนี้ ยังต้องการให้จัดการแก้ปัญหาการจราจรอย่างจริงจัง บริหารจัดการให้ดีมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเรื่องค่าธรรมเนียมจดทะเบียนเป็นรถสาธารณะที่เก็บในอัตราสูง ขณะที่รายได้จากค่าบริการยังเป็นอัตราที่ต่ำ ไม่สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน ทั้งราคาน้ำมันแพง ค่าซ่อมบำรุงรถยนต์ และอื่นๆ

“หากคนขับรถแท็กซี่มีรถเป็นของตนเอง ถือว่าพออยู่ได้ แต่หากต้องเช่ารถมาขับวันละ 500-700 บาท ต้องหารายได้ให้มากกว่า 1,000 บาท จึงจะอยู่ได้ แต่สภาพขณะนี้บางวันได้เฉพาะค่าเช่ารถ ค่าน้ำมัน หรือค่าแก๊ส เพราะเจอปัญหารถติด ทำเวลาไม่ได้ รับผู้โดยสารได้น้อยราย หากมีการบริหารจัดการแก้ปัญหาจราจร เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้คนขับแท็กซี่ได้ไม่มากไม่น้อย แบบพออยู่ได้”

“วิษณุ” กล่าวต่อว่า อีกหนึ่งปัญหาที่ต้องการให้รัฐบาลใหม่มาแก้ไขจริงจัง คือ รถแท็กซี่ที่ให้บริการในปัจจุบัน มีจำนวนหนึ่งเป็นรถที่ไม่อยู่ในระบบ เป็นรถผิดกฎหมาย หากตรวจสอบจริงจัง เชื่อว่าจะแก้ปัญหารถรับจ้างเถื่อนได้ รวมถึงการเอาจริงเอาจัง กรณีรถแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร ทำให้ชื่อเสียงคนขับแท็กซี่เสียหาย หากปฏิเสธนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็จะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของประเทศอีกด้วย หากรัฐบาลชุดใหม่มีมาตรการเข้มงวด ปัญหาการปฏิเสธลูกค้าจะลดลงอย่างแน่นอน

ศศิธร แจ้งไพร
อาชีพรับจ้างและแม่ค้าขายข้าวแกง

“รัฐบาลในฝัน อยากได้รัฐบาลที่ช่วยเหลือประชาชนจริงจัง โดยเฉพาะเกษตรกร ผู้มีรายได้น้อย อยากให้ดูแลราคาพืชผล แม้ทุกวันนี้มีข่าวว่ารัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกรมากมาย แต่มันไม่ถึงมือเกษตรกรที่แท้จริง ทำให้เกษตรกรยังมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ไม่ดีพอ ทำให้ยังต้องดิ้นรนเข้ามาหางานทำในเมืองหรือในกรุงเทพฯ เพื่อหวังมีรายได้และมีชีวิตที่ดีขึ้น”

“ศศิธร” กล่าวว่า ครอบครัวของตนเองจริงๆอยู่จังหวัดขอนแก่น มีอาชีพเกษตรกร ปลูกอ้อยและข้าว แต่ขายไม่ค่อยได้ราคา เพราะเราต้องขายให้เถ้าแก่ โรงสี โดนกดราคา โดนค่าความชื้น ไม่ได้ราคาตามที่ประกาศไว้ ขณะที่ปุ๋ยก็แพง มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรของรัฐบาลมันไม่มาถึงมือเราจริงๆ ทำให้คนในครอบครัวหลายคนต้องดิ้นรน มาหางานทำในกรุงเทพฯ เพราะอาชีพเกษตรกรมันไม่สามารถเลี้ยงชีพหรือทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้ ถ้ารัฐบาลช่วยตั้งแต่ต้นทาง ทั้งเรื่องน้ำที่ใช้ในการเพาะปลูก การพัฒนาการเพาะปลูก ให้ความรู้เรา ให้ได้ผลผลิตที่ดีขึ้น ขายได้ราคาดีขึ้น มีชีวิตที่ดีขึ้น เราก็อยากกลับไปทำอาชีพเกษตรกร ได้กลับไปอยู่กับครอบครัว

แต่เมื่อมาอยู่ในกรุงเทพฯ ค่าใช้จ่ายก็สูงอีก เพราะบ้านต้องเช่า ค่าน้ำค่าไฟยังมาแพงอีก หาได้ก็นำมาเป็นค่าใช้จ่ายหมด ต้องประหยัดมากๆ เพื่อให้มีเหลือเก็บ จึงอยากให้รัฐบาลดูแลและช่วยเหลือคนที่มีรายได้น้อยให้มีรายได้เพิ่มขึ้นให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น!!

ทีมเศรษฐกิจ