ลูกพรรคกำลังใจดี ฮึกเหิม มีพลังสู้ศึกเลือกตั้ง หลังออกสตาร์ตผ่านโค้งแรกสมรภูมิเลือกตั้ง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) บอกถึงภาพรวมในการรณรงค์ลงพื้นที่หาเสียงปลุกกระแสพรรคประชาธิปัตย์

มั่นใจในสิ่งที่ได้ทำ สิ่งที่ได้ประสบ ทุกอย่างเดินหน้าตามที่กำหนด แม้เข้าสู่วันที่ 17 เม.ย.แล้ว 3 ทัพใหญ่ นำโดยหัวหน้าพรรค-เลขาธิการพรรค-อดีตหัวหน้าพรรค มุ่งมั่นเดินลงพื้นที่เป้าหมายทั่วประเทศ

มีรองหัวหน้าภาค ผู้สมัคร ส.ส.เขต มาช่วยบริหารจัดการเวลา 3 ทัพไปถึงพื้นที่ในความรับผิดชอบของแต่ละคน ส่วนผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เข้าไปเสริมรับผิดชอบในบางพื้นที่ที่พรรคมอบหมาย และเป็นตัวแทนของพรรคออกไปดีเบตหรือเข้าร่วมวงเสวนาของกลุ่มต่างๆ

ขณะเดียวกัน ปชป.ได้ทำการประเมินตลอดผ่านโพล ทั้งทางโซเชียลมีเดีย-ลงพื้นที่ เพื่อดูในภาพรวมมีอะไรควรปรับในช่วงระยะเวลาระหว่างทางหรือไม่

ภาพรวมมีเสียงตอบรับดีขึ้นตามลำดับ

ทั้งหมดเป็นผลมาจากความเป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ ยืนหนึ่งสถาบันการเมืองที่ยั่งยืนที่สุดของประเทศ ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจตั้งขึ้นมาให้ประชาชนหวังได้แค่ระยะสั้นๆ แล้วหลังจากนั้นปิดพรรคโดยไม่ต้องรับผิดชอบ

...

ยิ่งได้ประกาศ “ยุทธศาสตร์สร้างเงิน-สร้างคน-สร้างชาติ” ศักยภาพของผู้สมัคร คลอดนโยบายที่เข้าใจง่าย โดนใจประชาชนทุกภูมิภาค

และผลงานรัฐบาล 4 ปีเป็นรูปธรรมเยอะ ประกันรายได้ 5 สินค้าเกษตร การส่งออกสร้างเม็ดเงินให้ประเทศสูงสุดในรอบ 30 ปี ส่งออกเกือบ 10 ล้านล้านบาท ซึ่งยังไม่เคยมีมาก่อน เป็นที่มาสโลแกน...

...ปชป.อุดมการณ์ทันสมัย-ทำไว-ทำจริง

ถ้าเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มั่นใจสร้างงานสร้างเงินตามนโยบายของ ปชป.ได้มากกว่านี้ เน้นสร้างเงินให้คนไทยและสร้างเงินให้ประเทศ นี่เป็นจุดต่าง ปชป.กับหลายพรรคการเมือง

ตอกย้ำโดยทีมเศรษฐกิจ ปชป. นำโดยนายพิสิฐ ลี้อาธรรม อดีต รมช.คลัง ที่เคยนำพาประเทศไทยฟื้นจากวิกฤติต้มยำกุ้ง คิกออฟนโยบายด้านเศรษฐกิจ

โดยนโยบายเศรษฐกิจมหภาคและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อัดฉีดเงิน 1 ล้านล้านบาท มีเป้าหมายสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงกว่า 5% ต่อปี

ลดช่องว่างระหว่างประชากรโดยไม่สร้างหนี้สาธารณะ หรือบั่นทอนการทำงานของระบบการเงินไทย ลดหนี้ครัวเรือน เพื่อให้เศรษฐกิจโดยรวมเข้มแข็ง มีเสถียรภาพ ยั่งยืน ผ่าน 16 นโยบาย

นายจุรินทร์ บอกถึงนโยบายที่ถูกใจชาวบ้าน อาทิ ประกันรายได้สินเกษตร 5 ตัว ถ้า ปชป.เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลเดินหน้าต่อแน่ ธนาคารหมู่บ้านและชุมชน แห่งละ 2 ล้านบาท ซึ่งใน กทม.มี 2,800 ชุมชนก็ได้เช่นเดียวกับทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ ใช้งบประมาณ 2 แสนล้านบาท ทำได้ทันที

นโยบายที่ดินทำกิน แบ่งเป็นคนที่ทำกินในที่ดินของรัฐ มันผิดกฎหมาย แก้โดยออกกรรมสิทธิ์ทำกิน ส่วนที่ดินที่ไม่ใช่ของรัฐ แต่ประชาชนถือครองมานาน ยังไม่มีเอกสารสิทธิ จะเร่งออกโฉนดใน 4 ปี 1 ล้านแปลง สมัยนายนิพนธ์ บุญญามณี เป็น รมช.มหาดไทย ออกไปแล้วถึงกว่า 3 แสนแปลง

การปลดล็อกประมงพาณิชย์ภายใต้ไอยูยู ฟิชชิง (กฎระเบียบของสหภาพยุโรป) ตอนนี้ ประมงพาณิชย์พังพินาศเกือบหมด เสียหายเกือบ 5 แสนล้านบาท เพราะออกเรือไม่ได้ ผิดนิดผิดหน่อยติดคุก ปชป.เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลปลดล็อกทำได้ไม่ยาก โดยกำหนดกติกาให้เท่าไอยูยูหรือไม่เกินไอยูยู

อินเตอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุด กระจายทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ เฉพาะใน กทม.แบ่งมา 1 แสนจุด เพื่อเปิดประตูให้ประชาชนใช้ประโยชน์สร้างเงิน เข้าถึงองค์ความรู้ ยังไม่นับรวมนโยบายสร้างคนที่เปิดให้เรียนฟรีถึงปริญญาตรีสาขาที่ตลาดต้องการ และยังมีนมโรงเรียนฟรี 365 วัน ปัจจุบันดื่มฟรีแค่ 200 วัน

กองทุนสตาร์ตอัพและเอสเอ็มอี มีแต้มต่อ 3 แสนล้านบาท เพื่อกู้ไปต่อลมหายใจ กู้ไปสร้างสตาร์ตอัพ ภายใต้เงื่อนไขผ่อนปรนที่สามารถจะกู้ได้ ภายใน 2 สัปดาห์ได้-ไม่ได้จบ ไม่ใช่แช่แข็งเอาไว้ สมัยเป็น รมว.พาณิชย์เคยจับคู่กู้ลักษณะแบบนี้มูลค่าเกือบ 1 หมื่นล้านบาท

เปิดนโยบายต่างๆ ภายใต้ยุทธศาสตร์สร้างเงิน-สร้างคน-สร้างชาติ ผลตอบเป็นอย่าง นายจุรินทร์บอกว่า นโยบายเหล่านี้ผ่านการศึกษามาเรียบร้อย มั่นใจทำได้ทั้งหมด

ผู้สมัคร ส.ส.ปชป.ทุกคนถึงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นชุดนโยบายที่โดนใจประชาชนมากที่สุดยุคหนึ่ง ตอบโจทย์ประชาชนทั่วทุกภูมิภาคและ กทม.

“มั่นใจจากความจริงที่ได้สัมผัส พอประเมินได้ว่าประชาชนมีความคิดอ่าน รู้สึกอย่างไรเวลาเราไปพบ ตลอด 4 ปีที่สัมผัส เสียงตอบรับดีขึ้นเป็นลำดับ หาเสียงง่ายขึ้น

รวมถึงการเลือกตั้งซ่อมหลายครั้งต่อเนื่องกัน เราชนะ เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แม้ไม่ได้ที่ 1 แต่เราได้ที่ 2 ส.ก.ได้ถึง 9 ที่นั่ง

ผมเชื่อว่าจิตวิญญาณประชาธิปัตย์กลับคืนมา ในวันเกิดพรรคครบรอบ 77 ปี 6 เม.ย. ผมขอวิงวอน เรียกร้องชาวประชาธิปัตย์ที่เคยเลือกเรา ขอให้เลือกต่อไป

ชาวประชาธิปัตย์คราวที่แล้วไม่เลือกด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ ขอให้กลับมาช่วยเลือกเรา มาจับมือพากันเดินไปข้างหน้า เพื่อช่วยกันทำให้ประเทศไทยเดินหน้าไปสู่อนาคตที่ดีกว่าอย่างยั่งยืน ไม่ใช่เพื่อประชาธิปัตย์”

หวังผลการเลือกตั้งเปลี่ยนผ่านทางการเมือง ไปสู่การเปลี่ยนผ่านประเทศอย่างไร นายจุรินทร์ บอกว่า การเลือกตั้งปี 62 แบบบัตรใบเดียว แข่งขันรุนแรง แบ่งขั้วรุนแรง ขั้วซ้ายและขั้วขวา

ประชาชนมีความรู้สึกว่าต้องเลือกขั้วใดขั้วหนึ่ง เมื่อเราประกาศไม่เอาทั้ง 2 ขั้ว ประชาชนก็ขอตัดสินเลือกขั้วใดขั้วหนึ่งก่อน เพราะสถานการณ์เวลานั้น อาจมีความจำเป็นต้องเลือกเช่นนั้น

แต่การเลือกตั้งครั้งนี้แบบบัตร 2 ใบ สถานการณ์เปลี่ยนไป ความเป็นขั้วทางการเมืองคลี่คลายลง กำลังเดินเข้าสู่การเลือกตั้งในระบบประชาธิปไตยปกติ

เข้าสู่โหมดการแข่งขันระหว่างพรรคการเมือง ใครดีกว่า มีนโยบายดีกว่า มีผลงานดีกว่า มีจุดยืนทางการเมืองดีกว่า มีวิสัยทัศน์นำพาประเทศไปข้างหน้าภายใต้สถานการณ์แรงเสียดทานของโลกและปัญหาภายในประเทศได้ดีกว่า

ประชาชนมีแนวโน้มเลือกคนนั้นมากกว่าการแบ่งขั้ว

ฉะนั้น ตรงนี้ประชาธิปัตย์ มีความหวังเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางสำหรับประชาชน ขณะเดียวกันเรามีอุดมการณ์ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยเฉพาะระบบรัฐสภา

ถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญ ทั้งฉบับพร้อมสนับสนุน แต่ต้องไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 และกฎหมายอาญา มาตรา 112 เพราะเป็นตัวบทกฎหมายที่ว่าด้วยการคุ้มครองประมุขของประเทศ เกือบทุกประเทศก็มีกฎหมายลักษณะนี้ ต้องรักษาไว้

แต่ถ้าจะแก้ไข ให้ไปแก้ในทางปฏิบัติเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมาย ที่ใช้เป็นเครื่องมือในการทำร้ายกัน ขอย้ำอันนี้เป็นจุดยืนที่มั่นคงชัดเจน

วันนี้ประชาธิปัตย์พร้อม ผมพร้อมเป็นผู้นำเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าด้วยวิสัยทัศน์ที่สะสมประสบการณ์-ผลงาน-อุดมการณ์-ความชื่อสัตย์สุจริต

ไปสู่ประชาธิปไตยเต็มใบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประชาธิปไตยสุจริตและประชาธิปไตยท้องอิ่ม

ขอให้ขยายความเป็นขั้วทางการเมืองคลี่คลายอย่างไร นายจุรินทร์บอกย้ำว่า การเลือกตั้งเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น ความเป็นขั้วคลี่คลายลง

แม้มีความพยายามปลุกผี ขั้วซ้ายพยายามปลุกผีขั้วขวา ขั้วขวาพยายามปลุกผีขั้วซ้าย เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของแต่ละพรรคการเมือง ฉะนั้น ขอฝากประชาชนพิจารณาไตร่ตรองว่าจะเลือกพรรคไหน

ตรงนี้ประชาชนต้องรู้เท่าทันอ่านให้ออก

เขาแค่ปลุกผีมาหลอกให้ไปลงคะแนนให้.

ทีมการเมือง