“ไพบูลย์” ประกาศกร้าว พลังประชารัฐไม่จับมือกับ “เพื่อไทย-ก้าวไกล” ลั่น รับไม่ได้กับหลายนโยบาย ยัน ไม่เคยมีดีลลับ อ้างคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคแล้ว พร้อมรับผิดชอบคำพูดตัวเอง

เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 10 เมษายน 2566 นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวถึงจุดยืนทางการเมืองของพรรคพลังประชารัฐ ว่า พรรคมีนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง มุ่งที่จะเดินหน้ากำจัดปัญหาความขัดแย้งที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เพื่อให้อยู่ดีกินดี ขจัดความยากจนให้สิ้นไป โดยจะมีนโยบายนำเสนอมาอีกในเร็วๆ นี้ ส่วนจุดยืนของพรรคพลังประชารัฐ เรามีความเชื่อมั่นในหลักการที่จะดำเนินการกิจการต่างๆ ของพรรคให้เป็นไปอย่างถูกต้อง

ดังนั้น กรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่า พรรคพลังประชารัฐจะไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย หรือพรรคก้าวไกล ขอถือโอกาสนี้แถลงอย่างเป็นทางการว่า เราไม่ร่วมด้วยกับพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล เราต้องการสร้างพรรคพลังประชารัฐให้เป็นพรรคที่ทำประโยชน์ให้กับประชาชน เป็นตัวแทนในการทำหน้าที่ในจุดยืนที่ประชาชนยึดมั่น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ทำให้พรรคเป็นที่พึ่งของประชาชนในการขจัดความยากจน

“การที่บางพรรคไปกล่าวอ้างต่างๆ นานา หรือมีกระแสข่าวแพร่ออกมาจนกระทั่งเป็นความเข้าใจผิดว่า พรรคเราไปมีดีลร่วมกับพรรคเพื่อไทยหรือพรรคก้าวไกล ขอแถลงในวันนี้ว่าไม่จริง และเราไม่ประสงค์ด้วย ไม่ประสงค์ที่จะร่วมมือใดๆ เราต้องการเป็นพรรคการเมืองที่มีอิสระ มีเอกภาพในการที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนให้ได้อย่างสมบูรณ์”

ไพบูลย์ นิติตะวัน (ซ้าย), ประยุทธ์ จันทร์โอชา (กลาง), ประวิตร วงษ์สุวรรณ (ขวา)
ไพบูลย์ นิติตะวัน (ซ้าย), ประยุทธ์ จันทร์โอชา (กลาง), ประวิตร วงษ์สุวรรณ (ขวา)

...

จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ประกาศว่าจะไม่จับมือ มีการคุยกับหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคแล้วใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ได้คุยกับทางผู้ใหญ่ของพรรคแล้ว เราไม่ร่วม ขอให้เกิดความชัดเจน ขณะที่เมื่อถามย้ำว่า การประกาศไม่ร่วม เฉพาะช่วงนี้หรือหลังการเลือกตั้ง 2566 ค่อยว่ากันอีกที นายไพบูลย์ ตอบว่า หลักการไม่ร่วม ก็เป็นหลักการไม่ร่วม และเหตุผลที่เราไม่ร่วม เพราะมีนโยบายที่เรารับไม่ได้หลายเรื่อง ไม่เห็นด้วยกับนโยบายเหล่านั้น

ส่วนคำถามว่า จะสวนทางกับแนวทางพรรคพลังประชารัฐที่ก้าวข้ามความขัดแย้งหรือไม่ นายไพบูลย์ ระบุว่า ที่เราไม่ร่วมเกิดจากการไม่เห็นด้วยกับนโยบายของพรรคเหล่านั้น เป็นการใช้สิทธิ์ตามระบอบประชาธิปไตย แต่ไม่ได้ไปสร้างความรุนแรงหรือไปทำอะไรต่างๆ เพียงแค่แถลงจุดยืนว่า เราไม่สบายใจกับนโยบายต่างๆ ของพรรคที่เอ่ยไป สำหรับคำถามว่า นโยบายเรื่องอะไรบ้างที่ไม่เห็นด้วยนั้น นายไพบูลย์ กล่าวว่า ขอเว้นส่วนนั้นไว้ แต่คงจะทราบกัน ขอให้ดูเอาก็แล้วกัน

ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า ที่แถลงในวันนี้เป็นเพราะพรรคเพื่อไทยประกาศไม่ร่วมทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ นายไพบูลย์ ให้คำตอบว่า “ไม่จริง ในช่วงที่ผ่านมาเราไม่แสดงความเห็น เพราะการเสนอนโยบายยังไม่มีความชัดเจน แต่เมื่อพรรคต่างๆ เสนอนโยบายมาแล้ว เราก็มีสิทธิ์ที่จะรู้ว่า พรรคไหนที่ร่วมได้และร่วมไม่ได้ และรับนโยบายเหล่านั้นได้หรือไม่ เมื่อเราดูทั้ง 2 พรรคนั้น เรารับไม่ได้ ซึ่งพรรคก้าวไกลมีปัญหามากที่สุด พรรคเพื่อไทยเป็นลำดับที่ 2 ทั้ง 2 พรรคอยู่ในเกณฑ์ที่เราไม่สบายใจกับนโยบาย จึงคิดว่าไม่น่าร่วม”

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงเรื่องที่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลอยู่ในโพลมาตลอด การแถลงเช่นนี้ จะถือเป็นการตัดโอกาสในการร่วมรัฐบาลกันหรือไม่ นายไพบูลย์ ย้ำว่า เห็นนโยบายทั้ง 2 พรรคแล้วไม่สบายใจ ดังนั้น ไม่สบายใจจึงไม่ร่วม ขอให้ประเด็นเหล่านี้อยู่ในชั้นนี้ก่อน เมื่อถามอีกว่า การแถลงเรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร รับทราบหรือไม่ นายไพบูลย์ เลี่ยงตอบว่า “ผมรับผิดชอบคำพูดผม”.