"เอก-อ๋อม-ไอซ์" พรรคเพื่อไทย กทม. ลุยหาเสียงตลาด กระพือ นโยบายให้ เงินดิจิทัล 10,000 บาท เผย ชาวบ้านถูกใจมีเงินใช้-กระตุ้นเศรษฐกิจ ยันเลือก เพื่อไทย ทั้งคน ทั้งพรรค

วันที่ 8 เม.ย. นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้สมัคร ส.ส.เขตบึงกุ่ม (เฉพาะแขวงคลองกุ่ม)-คันนายาว พรรคเพื่อไทย เบอร์ 7 ลงพื้นที่หาเสียงตามตลาดต่างๆ ในพื้นที่บึงกุ่ม-คันนายาว ขอโอกาสพี่น้องประชาชน พ่อค้า แม่ค้า เลือกพลภูมิ เบอร์ 7 กลับมาทำหน้าที่ ส.ส.ผู้แทนประชาชนอีกรอบ และขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศ เพราะถึงเวลาในการเปลี่ยนแปลง หลังติดหล่ม ซบเซา มานานกว่า 8 ปี โดยเฉพาะปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจ ที่ประชาชนลำบาก รายได้ไม่พอต่อรายจ่าย

นายพลภูมิ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่วันนี้ ประชาชนให้ความสนใจนโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนโยบาย ดิจิทัล วอลเลต 10,000 บาท สำหรับประชาชนอายุ 16 ปี ขึ้นไป ใช้จ่ายในรัศมี 4 กม.ภายใน 6 เดือน เข้ามาสอบถามรายละเอียดกันเป็นจำนวนมาก เพราะจะได้มีเงินไปจับจ่ายใช้สอย ซื้อของใช้จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ในขณะที่ พ่อค้า แม่ค้า ก็ตอบรับ เพราะคนจะได้มีเงินมาซื้อของ เรียกได้ว่าเม็ดเงินจะหมุนเวียนในระบบเพิ่มมากขึ้น

...

นอกจากนี้ ชาวบ้านยังยืนยันว่า จะเลือกพรรคเพื่อไทย ทั้งคนทั้งพรรค เพราะมั่นใจว่า สามารถทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้อย่างแน่นอน

ด้าน น.ส.สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขตลาดพร้าว-บึงกุ่ม เบอร์ 4 พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงตลาดนวลจันทร์ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก พ่อค้า แม่ค้า ชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อของ ต่างเข้ามาทักทายและขอถ่ายรูปด้วยเป็นจำนวนมาก

โดยตลอดการเดินหาเสียง น.ส.สกาวใจ ได้ขอโอกาสให้ตัวเองและพรรคเพื่อไทย เข้าไปทำหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชน หลังต้องทนทุกข์กับการบริหารประเทศที่ล้มเหลวมานานกว่า 8 ปี วันนี้ ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนให้พรรคเพื่อไทยเข้าไปเป็นรัฐบาล เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

น.ส.สกาวใจ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย มีนโยบายที่แก้ปัญหาปากท้อง แก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ตรงจุด อย่างนโยบายดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท ที่เปิดออกมาปุ๊บ มีเสียงขานรับจากประชาชนล้นหลาม

ส่วนที่หลายคนสงสัยว่าเอาเงินมาจากไหนนั้น ตนเองได้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงว่า เงินจะมาจากงบประมาณที่จัดเก็บจากหน่วยงานภาครัฐ ที่จัดเก็บรายได้ ซึ่งคาดว่า กระทรวงคลังเก็บได้เกินเป้าหมายในปี 2567 อยู่ที่ 2.6 แสนล้านบาท และจะปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปี ของกระทรวง ทบวงกรมต่างๆ ที่ไม่จำเป็นอีก 3 แสนล้าน เท่ากับมีเงิน 5.6 แสนล้านบาท ก็เพียงพอที่จะเอาไปใส่ไว้ในระบบกระเป๋าเงินดิจิทัล

นายพงศกร รัตนเรืองวัฒนา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางกะปิ-วังทองหลาง ลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงจากพ่อค้า แม่ค้า ในตลาดย่านบางกะปิ-วังทองหลาง เลือกพรรคเพื่อไทย ทั้งคนทั้งพรรค พร้อมชูนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง โดยระบุว่า ขอให้เลือก ไอซ์ พงศกร และพรรคเพื่อไทยให้ชนะขาด เราจะได้มีโอกาสเข้าไปสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับพี่น้องประชาชนให้อยู่ดี กินดี มีเงินใช้ เลือกคนทำงานมาเปลี่ยนแปลงบางกะปิ-วังทองหลาง เลือกเพื่อไทย มาแก้เศรษฐกิจปากท้อง เพราะเรามีนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน ทั้งนโยบายดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท, เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 600 บาทต่อวัน ภายในปี 2570, คนจบปริญญาตรี รวมถึงคนทำงานข้าราชการ ต้องได้เงินเดือน เริ่มต้น 25,000 บาท นอกจากนี้จะมีการสร้างเขตธุรกิจใหม่ (New Business Zone) นำร่อง 4 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น และหาดใหญ่