นายกฯ เป็นประธาน งานวันผู้สูงอายุแห่งชาติและวันแห่งครอบครัว ปี 66 พร้อมเปิดตัวระบบ ESS Help Me “ปักหมุด หยุดเหตุ” ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ทุกครอบครัวผ่านช่องทางออนไลน์ ย้ำทุกภาคส่วนเตรียมพร้อมรองรับสังคมผู้สูงอายุ

วันที่ 5 เม.ย. 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (5 เมษายน 2566) เวลา 10.00 น. ณ ลานอเนกประสงค์ชั้น 2 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 กรุงเทพมหานคร พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติและวันแห่งครอบครัว ประจำปี 2566 จัดขึ้นโดย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ ภายใต้แนวคิด “สร้างสุข ทุกพื้นที่ปลอดภัย เพื่อผู้สูงวัยและครอบครัว” เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของสถาบันครอบครัว มีกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน มีกิจกรรมและใช้เวลาร่วมกัน ผลักดันให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน สังคม และประเทศชาติ รวมถึงรณรงค์ให้ภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคเอกชน มีส่วนร่วมในการพัฒนาครอบครัวให้มากขึ้น โดยมี นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หน่วยงานภาคีเครือข่ายบูรณาการการขับเคลื่อนงานด้านผู้สูงอายุ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ที่ได้รับรางวัล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีมอบโล่รางวัลผู้สูงอายุที่เป็นแบบอย่างที่ดี (ระดับจังหวัด) มอบโล่ประกาศเกียรติแก่คุณผู้สูงอายุแห่งชาติ พุทธศักราช 2566 และกล่าวเปิดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติและวันแห่งครอบครัว โดยนายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลในวันนี้ ทั้งหน่วยงานและองค์กรที่สนับสนุนงานด้านการส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่ผู้สูงอายุและครอบครัว พร้อมทั้งบุคคลที่ได้รับรางวัลสาขาต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้สูงอายุยังคงเป็นบุคลากรที่มีพลังในการสร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่สังคม เป็นแบบอย่างที่ทรงภูมิปัญญาและคุณค่า รวมไปถึงครอบครัวที่ได้รับรางวัล “ครอบครัวร่มเย็น” ขอให้ทุกคนเก็บรักษาความภาคภูมิใจนี้ไว้ และส่งผ่านสิ่งดีๆ เหล่านี้ไปยังคนรอบข้าง ชุมชน และสังคมต่อไป

...

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า วันนี้สังคมทั่วโลกได้ก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ โดยในประเทศไทยขณะนี้มีจำนวนผู้สูงอายุกว่า 12.7 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 19 ของประชากรไทยทั้งหมด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยกำลังเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุแบบสมบูรณ์ วันนี้บทบาทของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และครอบครัว จึงต้องเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีเพื่อให้ก้าวทันสังคมโลก สังคมดิจิทัล และสามารถใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมทั้งสร้างความตระหนักรู้เท่าทันภัยที่เกิดจากเทคโนโลยีด้วย ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกครอบครัวจะร่วมกันแบ่งปันความรัก และสร้างพื้นที่ที่อบอุ่นร่วมกัน เพื่อให้ทุกบ้านได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขตลอดไป

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีเปิดตัวระบบ ESS Help Me “ปักหมุด หยุดเหตุ” อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นช่องทาง LINE Official Account ในการรับแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม ที่สามารถแชร์พิกัดจุดเกิดเหตุในระบบ เพื่อให้ทีมสหวิชาชีพไปยังจุดเกิดเหตุให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ทุกครอบครัว เป็นการตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันที่สามารถป้องกันและแก้ปัญหาความเดือดร้อนได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิทรรศการวันผู้สูงอายุแห่งชาติฯ ซึ่งประกอบไปด้วยความร่วมมือของภาคีเครือข่ายต่างๆ กว่า 70 บูธ เช่น บูธนิทรรศการทางวิชาการและนวัตกรรม บูธการบริการ Family Line บริการให้คำปรึกษาครอบครัวโดยผู้เชี่ยวชาญ บริการให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย รวมทั้งบูธสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญา 4 ภาค เป็นต้น

สำหรับการมอบรางวัลงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติและวันแห่งครอบครัว ประจำปี 2566 รวม 155 รางวัล ประกอบด้วย 1.โล่ประกาศเกียรติคุณแก่ผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2566 1 รางวัล 2.รางวัลผู้สูงอายุที่เป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม (ระดับจังหวัด) 77 รางวัล 3.รางวัลครอบครัวร่มเย็น 74 รางวัล และ 4.รางวัลการประกวดคลิปวิดีโอ “ต่างยุค ต่างวัย หัวใจผูกพัน” 3 รางวัล ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์มีวัตถุประสงค์ในการมอบรางวัลเพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติ เสริมพลังใจและความภาคภูมิใจ ในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์และเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม.