“พล.อ.ประยุทธ์” ยังไม่เปลี่ยนใจร่วมดีเบต ตอบปม เลือกตั้ง 2566 ไม่มอง “บิ๊กป้อม” เป็นคู่แข่ง ลั่น ไม่เคยเป็นศัตรูกับใคร ส่วนเรื่อง “ทักษิณ” อยากกลับไทย บอก ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อน

เมื่อเวลา 09.55 น. วันที่ 3 เม.ย. 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติ ใหสัมภาษณ์ก่อนออกจากอาคารกีฬาเวสน์ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง โดยช่วงหนึ่งผู้สื่อข่าวถามว่าเปลี่ยนใจที่จะดีเบตหรือไม่ โดยเจ้าตัวยืนยันว่า ไม่เปลี่ยนใจ เพราะมีเรื่องในหัวเยอะ ไม่ใช่อยากจะหลีกเลี่ยง แต่พูดสั้นเกิน 2 นาทีไม่ได้ ไม่พอ เนื่องจากเวลาพูดจะมีแนวทางที่คิดไว้มาก ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะนัดสัมภาษณ์เดี่ยวได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “คิดดูก่อน”

ทั้งใน เมื่อเวลา 10.18 น. พล.อ.ประยุทธ์ นำขบวนแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ รวมถึงผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ออกจากอาคารกีฬาเวสน์ ระหว่างทางยังได้ใช้หลังมือขวาแตะไปที่เจ้าหน้าที่หลายคน ท่ามกลางกองเชียร์ตะโกนส่งกำลังใจให้กับหลายๆ พรรคการเมือง และมีกองทัพสื่อมวลชนเข้ารุมล้อมสัมภาษณ์จนทำให้การเดินเป็นไปอย่างลำบาก ซึ่งเมื่อเดินผ่านกองเชียร์พรรคก้าวไกล มีทั้งเสียงตะโกนเชียร์พรรคก้าวไกล และตะโกนคำว่า ออกไป

...

ในช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ตอบคำถามเกี่ยวกับกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยากกลับประเทศไทย ว่า ถ้ากลับมาก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ศาลตัดสินก่อน ตามหลักการ ส่วนคำถามจะมีเงื่อนไขในการจับมือกับพรรคการเมืองอื่นตั้งรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า “ไม่มี แต่ไม่ใช่จับได้ทุกพรรค ทำไมไม่คิดว่าผมจะเป็นรัฐบาล”

เมื่อถามถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ตอนนี้อยู่คนละพรรค มองเป็นคู่แข่งหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ ไม่รู้สึกว่าเป็นคู่แข่ง และตนเองไม่เคยเป็นศัตรูกับใคร “ทุกคนรู้จักกันหมด เวลาเจอไมโครโฟนจะเสียงดังหน่อย ถ้าเจอกันส่วนตัวก็สวัสดีครับ เป็นเรื่องธรรมดา คนไทยเป็นแบบนี้ อย่าทำให้บ้านเมืองไม่สงบ คำว่าไม่สงบคือตีกันทั้งเมือง ผมรับไม่ได้ แล้วใครจะทำก็ทำไปเถอะ ผมไม่เอาด้วย”