เปิดฉากสมรภูมิเดือดเลือกตั้ง ปี 66 กกต. เปิดศูนย์กีฬาเวสน์ 2 ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง รับสมัคร ส.ส. กทม.33 เขต บช.น.ระดมตำรวจ-กองร้อยควบคุมฝูงชนรวม 150 นายอารักขา “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” นำทัพ พาลูกทีมยื่นใบสมัครด้วยตัวเอง “พิธา” นัดพลพรรคสีส้มขึ้นรถเมล์ไปยื่นใบสมัครคึกคัก “เสรีพิศุทธ์” ท้าสองลุงประชันดีเบตวัดกึ๋นผู้นำประเทศ เหน็บ “ประยุทธ์” รู้ตัวแพ้ปูทางถอยไม่ยอมลงปาร์ตี้ลิสต์ “ประวิตร”อารมณ์ดีลงมือปรุงกุ้งกระเทียมเลี้ยงทีมงาน ปัดไม่เอาด้วยขึ้นเวทีดีเบต ขอแนวถนัดพร้อมเปิดประตูจับเข่าคุยกับทุกฝ่าย “ชัยวุฒิ” เตือนกลุ่มป่วนเวทีหาเสียงผิดกฎหมาย “ไพบูลย์” กวักมือเรียก “ตะวัน-แบม” ต่อสายตรงยื่นร้องเรียน “ท็อป” ขอรักใคร ชอบใครไปตัดสินในคูหา 14 พ.ค. “มาร์ค” ติงกองเชียร์ เลี่ยงสุมไฟขัดแย้ง บัญชีรายชื่อก้าวไกลป่วน ลูกพรรคโวยลั่นไม่เป็นธรรม

เปิดฉากรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขตและบัญชี รายชื่อระหว่างวันที่ 3-4 เม.ย. หัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคการเมืองต่างๆเตรียมนำลูกทีมไปยื่นสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กันอย่างคึกคัก ขณะที่ บช.น.เตรียมวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณโดยรอบ 35 นาย กำลังกองร้อยควบคุมฝูงชน 1 กองร้อย ประมาณ 170 นาย ดูแลความปลอดภัยพื้นที่

บช.น.ส่ง ตร.150 นาย สมัคร ส.ส.วันแรก

เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ประตู 2 อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 เม.ย. พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการดูแลความปลอดภัยการรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 3 เม.ย.ว่า เตรียมกำลังตำรวจบริเวณโดยรอบ 35 นาย กำลังกองร้อยควบคุมฝูงชน 1 กองร้อย ประมาณ 170 นาย ดูแลความปลอดภัยพื้นที่โดยรอบ ส่วนพื้นที่ด้านในจะเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร จะจัดกำลังของเทศกิจเข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยร่วมกัน ขณะนี้ความพร้อม 100% จากการข่าวไม่พบว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรับสมัครเลือกตั้งหรือกลุ่มที่ก่อความวุ่นวายจะเข้ามาในพื้นที่

...

เตือนเลี่ยงถนนมิตรไมตรี–วิภาวดีฯ

พล.ต.ต.โชคชัยกล่าวอีกว่า ส่วนการจราจรจัดกำลังตำรวจจราจร สน.ดินแดง และ บก.จร.เข้ามาช่วยดูแลบริเวณประตู 2 ด้านหน้าศูนย์เยาวชนฯ เป็นจุดรับส่งผู้สมัครและกองเชียร์ และไม่อนุญาตให้จอดรถบริเวณ 2 ข้างทาง ระยะทางประมาณ 10 เมตร และจัดการเดินรถช่องทางเดียวตลอดเส้นทางถนนมิตรไมตรี จากถนนวิภาวดีรังสิตมุ่งหน้าออกไปถนนดินแดง ขอให้หลีกเลี่ยงถนนมิตรไมตรี ถนนวิภาวดีรังสิตช่องทางคู่ขนานมุ่งหน้าใต้ด่วนดินแดง ตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนถึงช่วงเที่ยง

กกต.เผยขั้นตอนรับสมัคร ส.ส.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขั้นตอนการเตรียมรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่จะเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 3-7 เม.ย.มีขั้นตอนดังนี้ 1.ผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง กรอกใบสมัครและจัดเตรียมเอกสารประกอบการสมัครด้วยตนเอง 2.ลงทะเบียนการรับสมัครโดยลงเวลาในสมุดลงทะเบียนรับสมัคร 3.กรณีมีผู้ลงทะเบียนการรับสมัครก่อนเวลาเปิดให้ทำการรับสมัคร (ก่อนเวลา 08.30 น.) ถือเป็นผู้มายื่นใบสมัครพร้อมกัน ผอ.เลือกตั้งประจำเขต (ผอ.กต.เขต) ต้องดำเนินการ ดังนี้-ผอ.กต.เขต จัดประชุมเพื่อดำเนินการตกลงลำดับ การยื่นใบสมัคร ของผู้ที่มายื่นใบสมัครที่มาพร้อมกัน-หากตกลงกันได้ ให้ยื่นตามลำดับที่ตกลงกันของผู้ที่มายื่นใบสมัคร-หากตกลงกันไม่ได้ ผอ.กต.เขตดำเนินการจับสลาก 4.ยื่นใบสมัครและเอกสารประกอบการรับสมัครตามลำดับการลงทะเบียนต่อ ผอ.กต.เขต โดยยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารต่อเจ้าหน้าที่ผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร และหลักฐานในเบื้องต้น 5.ชำระค่าธรรมเนียมการสมัครโดยเงินสดต่อเจ้าหน้าที่การเงิน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องและออกใบเสร็จรับเงินให้ผู้สมัครใช้ประกอบเป็นหลักฐานการยื่นใบสมัคร และ 6.ผอ.กต.เขต ออกใบรับสมัครให้แก่ผู้สมัคร เรียงลำดับการยื่นใบสมัคร

แบ่งสายดาวกระจายสังเกตการณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ของ กกต.แต่ละคนในวันที่ 3 เม.ย. ประชาสัมพันธ์สำนักงาน กกต.เเจ้งว่าเวลา 08.00 น. นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.จะไปตรวจเยี่ยมพร้อมสังเกตการณ์การสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.อยุธยา ที่หอประชุม จริยกุล 1 อาคารโรงยิม 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิและที่ศูนย์พระนครศรีอยุธยา หันตรา จ.พระนครศรีอยุธยา เวลา 08.30 น. นายฐิติเชฏฐ์ นุฏนาฎ กกต.จะไปตรวจเยี่ยมพร้อมสังเกตการณ์การสมัคร ส.ส.กทม.เขตเลือกตั้งที่ 1-33 ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น เขตดินแดง ขณะที่เวลา 10.30 น. นายแสวง บุญมี เลขาธิการสำนักงาน กกต.จะไปเปิดศูนย์บริหารการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-War Room) ในการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป พ.ศ.2566 ที่ศูนย์บริหารการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ ชั้น 6 สำนักงาน กกต.ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่

“เสรีพิศุทธ์” ท้า 2 ลุงประชันดีเบต

เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นำคณะลงพื้นที่สยามสแควร์ ช่วยหาเสียงให้นายพงษ์วัฒน์ ตันนุกูล ผู้สมัครเลือกตั้งเขต 2 (ปทุมวัน สาธร ราชเทวี) พรรคเสรีรวมไทย ได้รับความสนใจจากวัยรุ่นมาทักทายพูดคุย ถ่ายรูปจำนวนมาก โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า หากเลือกลุงเสรีพิศุทธ์จะไปผลักดันการปฏิรูปกองทัพ ไม่บังคับใจวัยรุ่นชายไปเป็นทหารเกณฑ์ให้ใช้การสมัครใจแทน จะจัดการภัยสังคมทุกรูปแบบ จัดการตำรวจสีเทา ธุรกิจสีเทา ขอท้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แคนดิเดตนายกฯพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขึ้นเวทีดีเบตร่วมกันในฐานะคนรุ่นราวคราวเดียวกันที่เสนอตัวเป็นนายกฯ แสดงวิสัยทัศน์หากเป็นนายกฯจะทำอะไรให้ประเทศ

หยัน “ลุงตู่” รู้ตัวแพ้ปูทางถอยไม่ลง ส.ส.

“แต่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ลงปาร์ตี้ลิสต์ ต้องการปูทางถอยล่วงหน้า เพราะรู้อยู่แล้วพรรคร่วมรัฐบาลเดิม จะรวมเสียงได้ไม่เกินกึ่งหนึ่งของสภาฯ แม้มีเสียง 250 ส.ว.หนุนแต่เสียงพรรค รทสช.คงน้อยกว่าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) หรือพรรค พปชร. แล้ว พล.อ.ประยุทธ์จะเสนอหน้าเป็นนายกฯแข่งกับ พล.อ.ประวิตร หรือนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภท.อย่างไร ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ลงปาร์ตี้ลิสต์จะเป็นเพียง ส.ส.ธรรมดา คงทำใจไม่ได้ เมื่อกล้าประกาศตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ ขอให้แสดงความกล้าหาญครั้งสุดท้ายขึ้นเวทีดีเบตกับผม พิสูจน์กึ๋นแก้ปัญหาให้ประเทศ ให้กล้าๆหน่อย”พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว

“ลุงป้อม” ทำกุ้งกระเทียมเลี้ยงทีมงาน

ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เมื่อเวลา 11.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ใช้เวลาช่วงวันหยุดโชว์ทำกุ้งกระเทียมอย่างอารมณ์ดี เพื่อทานเป็นอาหารกลางวันร่วมกับทีมงานใกล้ชิด โดยปกติ พล.อ.ประวิตรชอบที่จะลงมือทำอาหารทานเองและเลี้ยงทีมงานใกล้ชิด ทุกคนที่ทานจะติดใจฝีมือปรุงอาหารของ พล.อ.ประวิตร และต้องขอมาลองเมนูอื่นๆอีก สำหรับเมนูกุ้งกระเทียม ถือเป็นเมนูที่บิดาของ พล.อ.ประวิตร มักจะขอให้ทำให้คนในครอบครัวทาน เพราะทำได้อร่อย จนกลายเป็นเมนูของความรัก ความผูกพันในครอบครัวจนถึงวันนี้ ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นยี่ห้อมหานคร พิมพ์ลวดลายสะท้อนความเป็นไทยแบบยุคใหม่เป็นลายกุ้งระบุคำว่า “foodie” แปลว่านักชิม และคำว่า “good taste good quality” หมายความว่า รสชาติดี คุณภาพดี เข้ากับการทำอาหารในวันอาทิตย์สบายๆสไตล์ลุงป้อม

ขอแนวถนัดพูดคุยไม่เอาดีเบต

วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความ “ดีเบต” หรือ “ไม่ดีเบต” ผ่านเพจเฟซบุ๊กใช้ชื่อ “พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” ว่า ขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติ และปรารถนาดีกับตนด้วยการเชิญไปร่วมตอบคำถาม หรือดีเบตเวทีต่างๆ ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรค ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 และแคนดิเดตนายกฯ เข้าใจที่ให้โอกาสที่ดี เพียงแต่ขอให้เข้าใจตนสักหน่อย ความรู้ ความสามารถ ความมีประสิทธิภาพของผู้นำ ประชาชนสัมผัสได้ จริงอยู่การพูดเป็นวิธีหนึ่งที่ใช้โชว์ความรอบรู้ให้ประชาชนได้รับทราบถึงประสิทธิภาพผู้นำ แต่ไม่ใช่วิธีเดียว ยกตัวอย่าง ฯพณฯ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ หรือผู้นำที่ทำให้ประเทศจีนเจริญรุ่งเรื่องก้าวขึ้นสู่มหาอำนาจ อย่างท่านประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ไม่ต้องแสดงความสามารถที่เหนือกว่าด้วยการดีเบต อาจจะเพราะการพูดไม่ใช่การแสดงที่ดีที่สุดว่าใครมีความรู้ ความสามารถ มีประสิทธิภาพกว่าใคร การสื่อสาร ความคิด คำพูด การกระทำเพื่อแสดงความรู้ ความสามารถและประสิทธิภาพ ทำได้ตามช่องทางที่เหมาะสมกับความถนัดของ “ผู้อาสามาเป็นผู้นำ” ของแต่ละคนโดยไม่จำเป็นต้องแข่งขันเอาชนะกันว่าเป็น “ผู้มีความสามารถในการโต้เถียงเก่งกว่า” แต่อย่างที่บอกแล้ว ตนเลือกที่จะสื่อสารกับทุกท่านด้วยวิธีที่คิดว่าทำได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ยินดีอย่างยิ่งที่จะพบปะกับทุกท่านเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ความคิดความเห็นกัน แต่ขอเป็นแบบพูดคุยส่วนตัว พร้อมเสมอ

“ชัยวุฒิ” ชี้อย่าทำผิด ก.ม.ป่วนเวทีหาเสียง

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงกรณี “ตะวัน” น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ “แบม” น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ นักกิจกรรมอิสระ ทำกิจกรรมหน้าเวทีปราศรัย พปชร.ที่สวนสาธารณะใต้สะพานพระราม 8 เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ว่า มีน้องบางกลุ่มเข้ามาแจกใบปลิว และจะเข้ามาร่วมเวทีพรรค พปชร. ซึ่งทำไม่ได้เพราะนี่เป็นเวทีหาเสียงของพรรค เราขออนุญาตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามกฎหมาย ไม่ควรมาป่วนเวที เท่าที่ทราบสุ่มเสี่ยงจะผิดกฎหมาย อย่าไปทำเลย ประชาธิปไตยต่างคนต่างหาเสียง เวทีใครเวทีมัน น่าเป็นห่วงจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับเวทีอื่น ถ้าสมมติว่าฝ่ายนี้มาโจมตีเวทีพรรคนี้ เดี๋ยวฝั่งนี้ไปโจมตีเวทีพรรคอื่นบ้างไม่จบ ประชาธิปไตยเดินหน้าไม่ได้ ถึงบอกว่าอยากให้ทุกคนก้าวข้ามความขัดแย้ง หาเสียงกันตรงไปตรงมา ไม่มีใครเอาเปรียบกัน ทำตามกฎหมายทุกคนอย่ามาป่วนกัน ถือว่าเขาเอาเปรียบเรา เพราะมาป่วนเวทีเรา ถ้าฝั่งเราแค้นเคืองไปเอาคืนวุ่นวายไปอีก ขอว่าอย่าไปทำเลยเวทีใครเวทีมัน ถ้าอยากแสดงออกเรื่องที่ข้องใจ ไปจัดเวทีของเขา เลือกตั้งเสร็จค่อยมาคุยกัน ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาคุยเรื่องความขัดแย้ง ไม่เหมาะ

ย้ำเวทีใครเวทีมันจะได้ไม่จุดไฟขัดแย้ง

เมื่อถามว่าหากมีการไปป่วนกันทุกเวทีแบบนี้ จะก้าวข้ามความขัดแย้งได้หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่อยากให้เกิดแบบนี้ นโยบายเราไม่อยากให้มีความขัดแย้งการเมืองในสังคม มีอะไรคุยกันดีๆ อย่างที่มีการป่วนเวที ถือเป็นความรุนแรงที่เขาทำกับเราไม่ถูกต้อง แต่ถ้าเรานัดคุยกันประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สัมมนาที่พรรคทำได้ แต่ถ้าเราปราศรัยแล้วคุณมาป่วนเราถูกกระทำไม่ถูกต้อง ส่วนจะแจ้งความหรือไม่ เท่าที่ทราบทางฝ่ายกฎหมายรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ ถ้าเข้าองค์ประกอบจะไปแจ้งความ หลักการของกฎหมายเลือกตั้งการมาขัดขวางการหาเสียงทำไม่ได้มีโทษ แต่ถึงขั้นไหนอย่างไรอยู่ที่ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายหลักการ การที่เราหาเสียงจัดเวทีปราศรัยหรือทำกิจกรรมการเมืองช่วงเลือกตั้งมีกฎหมายคุ้มครองอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้กลั่นแกล้งหรือป่วน ให้ทุกคนได้หาเสียงเต็มที่ ประชาธิปไตยต้องรับฟังความคิดเห็นทุกคน อย่ามาป่วนกัน ถ้าคุณอยากจะพูดอยากจะแสดงความคิดเห็นไปเวทีของคุณ เวทีใครเวทีมันจะได้ไม่ขัดแย้งกัน จากนี้ไปอาจต้องเพิ่มการ์ดผู้หญิงเพราะคนที่มาประท้วงเป็นผู้หญิง หากให้ผู้ชายไปกั้นผู้หญิงจะดูไม่ดี

“ไพบูลย์” รอรับหนังสือ “ตะวัน–แบม”

นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้า พปชร.ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุปะทะกันเมื่อวันที่ 1 เม.ย. กรณีไม่เหมาะสม เนื่องจากเวทีปราศรัยหาเสียงของพรรค ไม่ใช่สถานที่รับเรื่องความคิดเห็นอะไร การไปยื่นเรื่องในลักษณะดังกล่าวทำให้เกิดปัญหา เป็นลักษณะผิดที่ผิดทาง อยู่ที่วิธีการไปยื่นถ้าทำให้ถูกที่ถูกทางหมดเรื่อง สำหรับประชาชนไม่ว่ากลุ่มไหน หากมีเรื่องจะร้องทุกข์หรือต้องการเสนอนโยบาย ติดต่อมาที่ทําการพรรคได้ โดยประสานงานมาที่ตนจะมารับเรื่องและหารือกัน หากกลุ่มตะวัน-แบม ยังสนใจที่จะยื่นเรื่องขอให้ติดต่อมา แล้วจะได้พูดคุยกัน เพราะแนวทางของพรรค พปชร.เน้นเรื่องก้าวข้ามความขัดแย้ง

เวทีปราศรัยไม่ใช่ที่รับเรื่องร้องเรียน

เมื่อถามถึงกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ออกมาตอบโต้ว่าการก้าวข้ามความขัดแย้งไม่ได้ทำด้วยการกระทืบคนเห็นต่าง นายไพบูลย์กล่าวว่า พรรคไม่ได้ไปทำร้ายใครทั้งสิ้น เหตุการณ์วิวาทกันระหว่างประชาชนไม่อยากให้เกิด แต่ไม่ควรมีต้นเหตุให้เกิด การยื่นข้อเรียกร้องทั้งหลายควรยื่นที่ที่ทําการพรรค ไม่ควรยื่นที่เวทีปราศรัย จะทำให้เข้าใจผิดได้ว่าผู้ยื่นมีเจตนาอย่างอื่นหรือไม่ ถือเป็นบทเรียนทุกเวทีปราศรัย ไม่ใช่แค่ของพรรค พปชร. ถ้าจะเสนอนโยบายหรือความคิดเห็นต่างๆให้ไปที่พรรคนั้น พรรค พปชร.ยินดีต้อนรับพูดคุยทุกเรื่องอย่างยิ่ง เมื่อถามว่าหากมีผู้มายื่นเรื่องมาตรา 112 ยินดีใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ตอบว่า ไม่พูดว่ายื่นเรื่องอะไร แต่ในฐานะพรรค การเมืองจะเปิดรับฟังความคิดเห็นอยู่แล้ว ไม่ว่าเรื่องนโยบาย ปัญหาความเดือดร้อนหรือความคิดเห็นต่างๆ ไม่ได้หมายความว่าเราปิดกั้นอะไรทั้งสิ้น ส่วนจะเห็นด้วยหรือไม่ เป็นเรื่องของอีกกระบวนการหนึ่ง

“หน.ป้อม” พาลูกทีมยื่นสมัคร ส.ส.

นายไพบูลย์ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการยื่นใบสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตและ ส.ส.บัญชีรายชื่อในวันที่ 3-4 เม.ย.ว่า วันที่ 3 เม.ย. เวลา 08.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.จะเดินทางไปให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรค และวันที่ 4 เม.ย. เวลา 08.00 น. พล.อ.ประวิตรจะนำคณะเพื่อไปยื่นเอกสารสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกฯ พรรคเป็นผู้เสนอชื่อ ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี กกต.จัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง มีเฉพาะหมายเลข (เบอร์) ผู้สมัคร หรือที่เรียกว่าบัตรโหล นายไพบูลย์กล่าวว่า กกต.คงพิจารณารอบคอบแล้ว การออกบัตรเลือกตั้งไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์หรือโทษแก่พรรคใดพรรคหนึ่ง เป็นการบังคับใช้กับทุกพรรค เมื่อ กกต.มีอำนาจหน้าที่ไม่ว่าเขาจะดำเนินการอย่างไร เราปฏิบัติตามนั้น

“ท็อป” วอน กกต.อย่าทำคนสับสน

นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้สมัคร ส.ส.ทุกเขตเตรียมพร้อมทั้งหมด เป็นไปตามแนวทางที่วางไว้ ตนพร้อมนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค จะไป จ.สุพรรณบุรี ให้กำลังใจผู้สมัครทั้ง 5 เขต นำคณะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เวลา 05.00 น. นัดพร้อมกันที่พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ บวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เวลา 05.45 น. เดินทางไปวัดป่าเลไลยก์ เวลา 06.19 น. กราบนมัสการ หลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์ เวลา 06.39 น. กราบขอพรเจ้าพ่อหลักเมือง และเวลา 07.09 น. กราบขอพรอนุสาวรีย์นายบรรหาร ศิลปอาชา นายกฯคนที่ 21 อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย และเวลา 07.19 น. ไปสถานที่รับสมัคร ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตสุพรรณบุรี ส่วน กทม.เวลา 07.30 น. นายนิกร จำนง ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค ชทพ.พร้อมนายสันติ กีรนันท์ รองหัวหน้าพรรค นำผู้สมัคร ส.ส. กทม.ไปยื่นใบสมัคร วันที่ 4 เม.ย. ตนกับนายประภัตรจะนำรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ไปที่ห้องบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดงนัดรวมตัวกันที่พรรคเวลา 05.00 น. สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรค ก่อนออกเดินทางพร้อมกันจากพรรคไปยังสถานที่รับสมัคร

ขอรักใครชอบใครไปตัดสิน 14 พ.ค.

เมื่อถามว่าหลายฝ่ายกังวลว่าบัตรเลือกตั้งอาจจะทำให้ประชาชนสับสน นายวราวุธกล่าวว่า กกต.ต้องพยายามทำให้ประชาชนไม่สับสน ไม่ว่าจะมีชื่อ มีเลข มีสัญลักษณ์พรรคการเมือง บัตรสองใบน่าจะสับสนพอแล้ว การที่เบอร์ไม่ตรงกันอาจทำให้สับสนได้ อะไรที่พอจะช่วยให้ลดความสับสนลงได้สำคัญที่สุด พรรคจะต้องกำชับผู้สมัครไปทำความเข้าใจกับชาวบ้าน หากผู้สมัครคนไหนได้เบอร์ตรงกับเบอร์พรรคถือว่าโชคดี แต่เกิดไปตรงกับเบอร์พรรคอื่นลำบากขึ้นไปอีก เมื่อถามถึงกรณีมีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองออกมาป่วนเวทีหาเสียง นายวราวุธกล่าวว่า คงต้องขอความเห็นใจ ทำความเข้าใจกับประชาชนว่าเรามีทั้งคนที่เรารัก มีพรรคที่เราชอบ แต่ช่วงเวลาของการเลือกตั้ง เป็นช่วงเวลาที่ทุกพรรคมีสิทธิหาเสียง ชอบหรือไม่ชอบอย่างไรวันที่ 14 พ.ค.66 จะเป็นวันตัดสิน ขอให้ทุกคนไปใช้สิทธิกันในวันนั้น

“ธนกร” อ้อนคนคอนก่อนยื่นสมัคร

ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯในฐานะประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้พรรค รทสช.นำนายสายัณห์ ยุติธรรม เขต 2 นายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ เขต 4 และนายอำนวย ยุติธรรม เขต 9 ไปพบปะประชาชนที่ตลาด อ.ท่าศาลา และ อ.จุฬาภรณ์ เน้นย้ำนโยบายเพิ่มสิทธิบัตรสวัสดิการพลัสเป็น 1,000 บาทต่อเดือน ได้รับการตอบรับเป็นอย่างมาก ที่สำคัญยังฝากกำลังใจมาให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมืองพรรค รทสช.และฐานะแคนดิเดตนายกฯของพรรค บอกให้ลุงตู่สู้ๆ ตามเชียร์ลุงตู่เต็มที่ พร้อมสนับสนุนเป็นนายกฯอีกครั้ง เย็นวันเดียวกันตนนัดหมายว่าที่ผู้สมัครทั้ง 10 เขต วางแผนสู้ศึกเลือกตั้งก่อนนำทั้งหมดสมัครวันที่ 3 เม.ย.

ยัน “บิ๊กตู่” นำทัพให้กำลังใจทีม รทสช.

นายธนกรกล่าวอีกว่า ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ วันที่ 3 เม.ย. วันรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งพร้อมจับสลากเบอร์ผู้สมัคร นายกฯและแกนนำจะไปร่วมด้วยรวมถึงวันที่ 4 เม.ย.66 ซึ่งเป็นวันรับสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และจับเบอร์ เช่นกัน เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้สมัครของพรรค ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 3 เม.ย.ภายหลังเสร็จสิ้นการสมัครแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ แกนนำพรรคและผู้สมัครทั้งหมดจะเดินทางไปไหว้ศาลหลักเมือง กทม.และวัดพระศรีรัตนศาสดารามฯ สักการะพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย

16 ขุนพล รทสช.โคราชกราบย่าโม

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ จ.นครราชสีมา นายเสกสกล อัตถาวงศ์ แกนนำพรรค รทสช. ดูแลผู้สมัคร 20 จังหวัดภาคอีสาน และนายจำลอง ครุฑขุนทด นำผู้สมัครนครราชสีมาทั้ง 16 เขต นำพวงมาลัยดอกดาวเรือง ธูป เทียน แผนทองคำเปลวไปกราบไหว้สักการะขอพรท้าวสุรนารี (ย่าโม) ที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เขตเทศบาลนครนครราชสีมา เพื่อเป็นสิริมงคลก่อนไปยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ จ.นครราชสีมา แต่เช้า ตามด้วยนำผู้สมัครทั้งหมดลอดประตูชุมพล และเดินพบปะหาเสียงไปตามร้านค้าต่างๆสองฝั่งถนนจอมพล

นายเสกสกลกล่าวว่า เสียงตอบรับจากประชาชนดียิ่ง เห็นได้จากโพลความนิยมในตัว พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา ดีวันดีคืนอยู่อันดับต้นๆทุกโพล แสดงว่าคนภาคอีสานต้องการให้ลุงตู่กลับมาทำงานต่อ มั่นใจว่าจะได้รับความไว้วางใจจากชาวอีสานเลือกผู้สมัครของพรรคเข้าสภาฯ จะได้กี่ที่นั่งขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน แต่มั่นใจที่ผ่านมาลุงตู่สร้างผลงานเป็นอย่างเป็นรูปธรรม ชาวอีสานได้ประโยชน์จริง

“มาร์ค” ช่วย “อรอนงค์” หาเสียงสาทร

เมื่อเวลา 07.30 น. ที่ตลาดกิตติ ย่านสาทร กทม. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. นำทีมบุคลากร ปชป. อาทิ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. และนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม.ปชป. ลงพื้นที่พบปะประชาชน พ่อค้าแม่ค้า เพื่อขอเสียงสนับสนุนให้ น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตสาทร-ปทุมวัน-ราชเทวี โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกระแสการตอบรับพรรค ปชป.ใน กทม.ว่า เห็นได้ชัดคน กทม.จำนวนมากผูกพันกับ ปชป. น.ส. อรอนงค์เป็นคนหนึ่งที่อยู่ติดพื้นที่มาตลอดไม่เคยทิ้งประชาชนไปไหน เมื่อถามถึงกรณีมีหลายคนต้องการให้นายอภิสิทธิ์กลับมาเป็นผู้แทนฯอีก นายอภิสิทธิ์ตอบด้วยอารมณ์ขันว่า ยังไม่ถึงเวลา แต่ยินดีมาสนับสนุนในฐานะสมาชิกพรรคและในฐานะที่ได้คุยกับพี่น้องประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะเขตนี้เป็นเขตเลือกตั้งเก่าตนด้วย

ติงกองเชียร์บุกป่วนเวทีเลี่ยงสุมไฟ

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีเหตุการณ์ชุลมุนที่เวทีปราศรัยของพรรค พปชร. เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ว่า ทุกคนย่อมมีสิทธิเสรีภาพจะแสดงออก แต่หากต้องการให้บรรยากาศบ้านเมืองไปด้วยดี ในระบอบประชาธิปไตยควรหลีกเลี่ยงการที่จะไปสร้างความขัดแย้ง การไปแสดงออกควรอยู่ในรูปแบบที่ไม่ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งเกิดปฏิกิริยาขึ้นมาจะดีที่สุด เห็นใจเพราะเมื่อมีการแข่งขันกันทุกคนจะต้องการอยากแสดงออก กองเชียร์ฝ่ายนั้นฝ่ายนี้มีอารมณ์ แต่เราอยากให้กระบวนการประชาธิปไตยเป็นกระบวนการที่เราจะอยู่กับความแตกต่างและหาข้อยุติร่วมกันได้ จึงอยากจะขอประคับประคองให้บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนตัวเจอมาเยอะแล้ว ได้กำชับมาตลอดว่าให้ระมัดระวัง แต่ดีที่สุดคำนึงถึงภาพรวมว่าเราอยากให้ประเทศเดินหน้าด้วยกระบวนการประชาธิปไตย และการเลือกตั้ง

“อนุทิน” ปักหลักโคราชเชียร์ลูกทีม

วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า วันที่ 3 เม.ย. เดินทางไปที่อาคารยิมเนเซียม สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ จ.นครราชสีมาร่วมให้กำลังใจ พบปะประชาชนที่มาให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส. 16 เขตเลือกตั้ง หลังจากสมัครรับเลือกตั้ง คณะผู้สมัคร ส.ส.จะเดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีและศาลหลักเมือง จ.นครราชสีมาขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เชื่อมั่นประชาชนได้ประโยชน์จากสิ่งที่พรรค ภท. ได้ทำงาน 4 ปีที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยพูดแล้วทำ มีผลงานเป็นรูปธรรมจำนวนมากและเข้าสู่สนามเลือกตั้งครั้งนี้ ด้วยการนำเสนอนโยบายที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชน

“พิธา” โวปาร์ตี้ลิสต์ 94 คนตอบโจทย์

เมื่อเวลา 11.00 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงเปิดรายชื่อว่าที่ผู้สมัครบัญชีรายชื่อแบบเรียงลำดับจำนวน 94 คนของพรรค ก.ก.ว่า ผู้สมัครมีส่วนประกอบทั้งนักต่อสู้ทางการเมือง นักสิทธิมนุษยชน นักกฎหมาย คนที่ต่อสู้เพื่อสิทธิชุมชนท้องถิ่น การกระจายอำนาจ นักต่อสู้เพื่อสันติภาพ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ คนขับแท็กซี่ ฟรีแลนซ์ แม่เลี้ยงเดี่ยว เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เศรษฐกิจดิจิทัล นักศึกษาหัวก้าวหน้า ศิลปิน ผู้กำกับ ช่างภาพ นักออกแบบ ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานและระบบคมนาคมสมัยใหม่ เป็นต้น รายชื่อคนทั้งหมดมาจากการคัดสรรใหม่ มีทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เครือข่ายพรรคคนทำงานในพรรค สะท้อนถึงทั้งปัญหา โอกาสและ ความท้าทายของประเทศในปัจจุบัน

นั่งรถเมล์ยกพลไปศูนย์กีฬาไทยญี่ปุ่น

ผู้สื่อข่าวรายงาน พรรค ก.ก. นัดหมายบรรดาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ทั้ง 33 เขตของพรรคให้ไปพร้อมกันที่อาคารไทยซัมมิท กทม. ก่อนที่หัวหน้าพรรค ก.ก.จะนำทีมผู้สมัครขึ้นรถเมล์ เวลา 06.00 น. ไปยังสนามกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์กีฬาไทยญี่ปุ่น ส่วนแกนนำพรรคคนอื่นและผู้ช่วยหาเสียงของพรรคจะกระจายตัวไปช่วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตแต่ละภูมิภาค เช่น นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ไป จ.ชลบุรี นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรค ไป จ.นครศรีธรรมราช น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกลไป จ.ขอนแก่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรค ก้าวไกลไป จ.เชียงใหม่ เป็นต้น

เปิดเว็บไซต์ “เลือกตั้ง 66” เกาะติด

ขณะที่เวลา 11.30 น. ที่พรรคก้าวไกล นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย ก.ก. แถลงข่าวเปิดตัวเว็บไซต์เลือกตั้ง 66 ของ ก.ก.ว่า ข้อมูลที่อยู่ในเว็บไซต์จะแบ่งเป็น 3 ส่วน 1.ข้อมูล ส.ส.เขตทุกคนทั่วประเทศ 2.ข้อมูล ส.ส.บัญชีรายชื่อทุกคน 3.นโยบายพรรคกว่า 300 นโยบาย หัวใจการออกแบบเว็บไซต์พยายามทำให้สื่อสารสองทาง ได้มากที่สุด ผู้สนใจด้านใดเป็นพิเศษคลิกเข้าดูรายละเอียดได้ที่ : https://election66.moveforwardparty.org/พรรคก้าวไกล และข้อมูลนโยบาย election66.moveforward party.org

ส่องอันดับ 1-20 เซฟโซนค่ายสีส้ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 20 อันดับแรกของพรรค ก.ก.คือ 1.นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค 2.นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค 3.น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ 4.นายเซีย จำปาทอง 5.นายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล 6.นายอภิชาติ ศิริสุนทร 7.นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ 8.นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรค 9.นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล 10.นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ 11.นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการรณรงค์สื่อสารนโยบาย 12.นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ อดีต ส.ส.กทม. 13.นายณัฐวุฒิ บัวประทุม อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ 14.น.ส.เบญจา แสงจันทร์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ 15.นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร 16.นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ 17.นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ 18.นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ 19.นายมานพ คีรีภูวดล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ 20.นายรอมฎอน ปันจอร์ เป็นต้น

“วิโรจน์-เพชร” เคยแพ้แต่อันดับพุ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงาน ขณะที่ภาพรวมการจัดลำดับบัญชีรายชื่อ มีหลายประเด็นน่าสนใจ อาทิ บุคคลหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามา แต่ถูกจัดให้อยู่ในลำดับปลอดภัย 1 ใน 10 คือ นายเซีย อดีตสหภาพแรงงานสิ่งทอที่อยู่ลำดับ 4 นายอภิสิทธิ์ อดีต ผอ.ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) อยู่ลำดับ 5 และนายสิทธิพล ลำดับ 9 ยังมีหน้าใหม่ที่ถูกจัดชื่อไว้ในลำดับต้น อาทิ นายพริษฐ์ เดิมเมื่อปี 62 ลงสมัคร ส.ส.บางกะปิ กทม.ในนาม ปชป.แต่สอบตก มารอบนี้อยู่ลำดับ 11 นายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษก เคยลงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขตหลักสี่ เมื่อต้นปี 2565 แต่พ่ายแพ้ให้กับนายสุรชาติ เทียนทอง จาก พท. รอบนี้อยู่ลำดับที่ 21 ขณะที่นายวิโรจน์ แม้จะมีผลงานโดดเด่นในสภาฯ แต่ได้ลาออกจาก ส.ส.ไปลงสมัครสนามผู้ว่าฯ กทม. และพ่ายแพ้ให้กับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ไปแบบขาดลอย ลำดับพุ่งพรวดจากปี 62 โดยสมัย อนค.นายวิโรจน์อยู่ลำดับที่ 34 แต่รอบนี้อยู่ลำดับ 7 ซึ่งเป็นพื้นที่ปลอดภัย

“วรรณวิภา” ร่วงจาก 3 ไปอยู่ที่ 32

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันอดีต ส.ส.หน้าเก่าที่มีผลงานโดดเด่น เป็นตัวหลักอภิปรายใน สภาฯ แต่ถูกเบียดแซงอันดับร่วง มีอาทิ น.ส.วรรณวิภา ไม้สน อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปีกแรงงาน เมื่อสมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ปี 62 ถูกจัดให้อยู่ลำดับ 3 แต่รอบนี้ร่วงกราวรูดไปอยู่ลำดับที่ 32 นายสุเทพ อู่อ้น อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปีกแรงงาน เมื่อครั้งอยู่ อนค.อยู่ลำดับ 21 รอบนี้ร่วงไปอยู่ลำดับ 40

ปัดบัญชีโปลิตบูโรเทคโนเเครต

ต่อมาเวลา 12.10 น. ที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการจัดลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่มีข้อครหาว่ามีการโปลิตบูโรและเทคโนแครตว่า เรื่องเทคโนแครต ยืนยันไม่เป็นความจริง ส่วนที่ว่าเป็นโปลิตบูโรก็ไม่มี ลำดับบัญชีรายชื่อเป็นไปตามกระบวนการสรรหารับฟังมาก่อนหน้านี้จากคณะกรรมการสรรหา ผู้สัมภาษณ์ ทีมงานจังหวัดและพนักงานพรรค รวมถึง กก.บห.เป็นจุดแข็งของพรรค ก.ก. ทั้งนี้ ตั้งเป้าว่าจะได้เก้าอี้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเท่าใดนั้นตนตั้งเป้าต้องให้ทะลุ 30 คน ซึ่งปาร์ตี้ลิสต์ที่จัดลำดับมานั้น เลือกมาแล้วส่วนหนึ่งจะเป็น ครม.ของตนที่พร้อมทำงาน

“สุเทพ” บ่นไม่เป็นธรรมจี้ปรับการบริหาร

น.ส.วรรณวิภา ไม้สน อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก.ก. กล่าวถึงการจัดอันดับบัญชีรายชื่อที่หล่นไปอยู่อันดับที่ 32 ว่า ได้พูดคุยกับกรรมการบริหารพรรค ตัวแทนเครือข่ายแรงงานแล้ว ตามที่พรรคแถลงข่าวไป แค่เปลี่ยนคนเข้าไปเครือข่ายแรงงานยังอยู่ ไม่ได้ยึดติดว่าต้องเป็น ส.ส.ทุกสมัย น้อยใจหรือไม่คงไม่ขนาดนั้น ยังทำงานกับพรรคต่อไป แต่อะไรมันไม่แน่ เมื่อครั้งอนาคตใหม่ไม่มีใครคิดว่าเราจะได้บัญชีรายชื่อมามากขนาดนั้น

นายสุเทพ อู่อ้น อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่อันดับบัญชีรายชื่อร่วงจาก 21 ไปอยู่อันดับ 40 กล่าวว่า รู้สึกว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรม พยายามถามพรรค มันเกิดอะไรขึ้นกับกระบวนการสรรหา แต่ยังไม่ได้ให้คำตอบชัดเจน อ้างเพียงว่าเป็นการประเมินจากเครือข่ายแรงงาน ถามว่าทำไมไม่เอาผลงาน การปฏิบัติงานมาประเมินด้วย จะประเมินจากทฤษฎีอย่างเดียวไม่เกิดความเป็นธรรม ที่สำคัญก่อนจะไปเปลี่ยนแปลงประเทศ เปลี่ยนการบริหารจัดการภายในก่อนดีกว่าไหม แต่ผมยังอยู่พรรคก้าวไกลต่อไป เราต้องต่อสู้เพื่อนโยบายที่ดีของพรรค เมื่อถามถึงกรณีอดีตคนก้าวไกล ที่ลาออกไปเคยตั้งคำถามเรื่องโปลิตบูโรและนักรบห้องแอร์ก้าวไกล มีจริงหรือไม่ เห็นกรณีนายกรุณพล เทียนสุวรรณ เคยแพ้เลือกตั้งซ่อมหลักสี่และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เคยลาออกไปสมัครผู้ว่าฯ กทม.แพ้ขาดลอย ถูกจัดอยู่ในลำดับบัญชีรายชื่อที่ดีกว่าเดิมน้อยใจหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ถามว่ามีน้อยใจหรือไม่มันก็มีน้อยใจ เราเป็นคนทำงาน เรียนกันตามตรงที่หลายคนพูดออกมาก็มีข้อมูล

พท.นั่งรถอีวีไปจับเบอร์–“อิ๊ง” ไปเชียร์

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพ มหานคร เปิดเผยว่า วันที่ 3 เม.ย.สมัคร ส.ส.แบบเขตเลือกตั้งพื้นที่ กทม.ว่าที่ผู้สมัครของพรรคทั้ง 33 คน จะรวมตัวกันที่พรรคเพื่อไทยช่วงเช้าตรู่ เดินทางไปที่ศูนย์เยาวชน ไทย-ญี่ปุ่น (สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง) พร้อมแกนนำพรรค อาทิ นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรค พท. นายภูมิธรรม เวชยชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค เดินทางไปพร้อมกันด้วยขบวนรถเมล์ EV ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยไปสมทบที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นให้กำลังใจว่าที่ผู้สมัครของพรรค เมื่อสมัครได้เบอร์เรียบร้อยจะไปไหว้ศาล หลักเมืองเอาฤกษ์เอาชัย ก่อนเข้าพื้นที่ติดเบอร์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ มั่นใจพรรคพท.จะครองใจคนกรุงเทพฯได้ โพลต่างๆชาวกรุงเทพฯ เดือดร้อนทางเศรษฐกิจอย่างมาก ประชาชนคงอยากเปลี่ยนผู้บริหารชุดใหม่ ขอร้องอย่าปันใจให้พรรคอื่น กาพรรค พท.พรรคเดียวให้ได้เป็นรัฐบาล ขอโอกาสได้เข้ามาพลิกฟื้นประเทศ

“ชลน่าน” บี้ทบทวนรูปแบบบัตรเลือกตั้ง

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท.กล่าวว่า การจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ส.ส.เขต ที่มีเฉพาะหมายเลขผู้สมัคร ไม่มีโลโก้และชื่อพรรคหรือบัตรโหล สร้างความยุ่งยากซับซ้อนส่งผลเสียทำให้เกิดบัตรเสียง่าย และเป็นเงื่อนไขทำให้มีการสลับสับเปลี่ยน เปิดช่องทุจริตได้ ที่สำคัญบัตรเลือกตั้งที่ไม่มีโลโก้และชื่อพรรคไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งนี้ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาที่มี ส.ส.350 เขตพิมพ์บัตรเลือกตั้ง 350 แบบ บัตรเลือกตั้งจะแตกต่างกันไป ช่วยลดเงื่อนไขการทุจริตลงไปได้ ครั้งนี้มี ส.ส. 400 เขต ควรพิมพ์บัตรเลือกตั้งเป็น 400 แบบ เหมือนที่ผ่านมา ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สิทธิกาง่ายขึ้น และจะช่วยลดบัตรเสียลงได้ เมื่อถามว่าบัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต จะกระทบต่อการแลนด์สไลด์หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ถ้าเราไม่ถูกโกงอาจไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่จะมีผลจำนวนบัตรเสียอาจเพิ่มมากขึ้น อยากให้ กกต.พิจารณาทบทวนการจัดทำบัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตใหม่ ยังมีเวลา

“สุดารัตน์” ลั่นพาคนไทยชนะศึก 2 ขั้ว

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยนายสุพันธุ์ มงคลสุธี น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกฯพรรค ทสท. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรค นายสมชาย เวสารัชตระกูล กรรมการบริหารพรรค นายการุณ โหสกุล แกนนำพรรค นายประเวศร์ วัลลภบรรหาร ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 12 ทำพิธีเปิดศูนย์ประสานงาน พรรค ทสท. กรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ 12 เขตบางเขน เฉพาะแขวงท่าแร้ง เขตสายไหม เฉพาะแขวงออเงิน และเขตลาดพร้าวเฉพาะแขวงจรเข้บัว โดยคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า 17 ปีที่ผ่านมา มีการแย่งชิงอำนาจ มีการรัฐประหารถึง 2 ครั้ง เป็นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ของประชาชนไม่ว่าฝ่ายใดชนะประชาชนเป็นผู้พ่ายแพ้มาตลอด เชื่อว่านี่คือสงครามครั้งสุดท้ายที่จะพาประเทศไปสู่วิกฤติและความขัดแย้งครั้งใหม่ ที่ใหญ่และรุนแรงกว่าเดิม พรรคไทยสร้างไทย จึงขอเป็นด่านหน้า เพื่อพาคนไทยทุกคน ไปชนะสงครามการเมือง 2 ขั้ว และพรรค ทสท.จะพาประชาชนไปสู่โอกาสและเศรษฐกิจที่ดี โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาหนี้สินและเติมทุนให้พี่น้องประชาชน

3 แคนดิเดตนำทัพสมัคร ส.ส.เอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการสมัครรับเลือกตั้งวันที่ 3 เม.ย. คุณหญิงสุดารัตน์ พร้อมแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ทสท.ทุกคน จะนำทัพผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในกรุงเทพฯไปสมัครรับเลือกตั้งด้วยตนเอง ส่วนต่างจังหวัดจะมีผู้บริหารและแกนนำของพรรคนำทัพไป ถือว่ามีความพร้อมสำหรับการสู้ศึกเลือกตั้ง

แกนนำไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาฤกษ์

ต่อมาเวลา 14.30 น. ที่มูลนิธิเทียนฟ้า เขตสัมพันธวงศ์ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกฯพรรค ทสท. พร้อม น.ส.สุวดี พันธุ์พานิช ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯเขต 1 กราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่มูลนิธิเทียนฟ้าเอาฤกษ์เอาชัยก่อนจับเบอร์ผู้สมัคร ส.ส.เขตในวันที่ 3 เม.ย. พร้อมเดินพบปะประชาชน ที่ถนนสายมังกร โดย น.ต.ศิธากล่าวถึงการจับหมายเลขผู้สมัคร ส.ส.ว่า เบอร์จะเป็นคนเลือกเจ้าของ และไม่ว่าจะได้หมายเลขใดก็ตาม พรรคจะมีเทคนิคหาเสียงเพื่อให้ประชาชนจดจำ

“ศิธา” ซัดเกินกว่าปะทะคนเห็นต่าง

จากนั้น น.ต.ศิธา ให้สัมภาษณ์กรณี “ตะวัน” ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ “แบม” อรวรรณ ภู่พงษ์ นักกิจกรรมอิสระ ทำกิจกรรมที่เวทีปราศรัยย่อยพรรค พปชร. จนเกิดความวุ่นวายว่าประเด็นที่เรียกร้องใครจะว่าอย่างไรว่ากันไป การจะปิดกั้นทำได้ แต่ไม่ควรใช้กำลัง เหตุการณ์ครั้งนี้ใช้การ์ดลักษณะคล้ายทหาร ตำรวจนอกเครื่องแบบ ทั้งที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้า พปชร.เคยพูดไว้แล้วว่าก้าวข้ามความขัดแย้งแล้ว อยากให้คนไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มีการรัฐประหาร ไม่มีความวุ่นวาย แต่นี่มีคนแค่กลุ่มเดียวต้องการมาเรียกร้อง กลับเกิดปะทะกัน สะท้อนว่าเขาไม่ได้ก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่ต้องการให้ทุกคนก้าวไปอยู่ฝั่งเดียวกับเขา 8 ปีที่ผ่านมาเป็นลักษณะแบบนี้ และที่ผ่านมามีการเขียนกฎหมายเพื่อประโยชน์ตัวเอง พฤติกรรมแบบนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่เป็นหมาป่า หากเป็นแบบนี้ประเทศชาติเดินต่อไปไม่ได้

คนปากน้ำเทใจให้ พท.–พปชร.ตกวูบ

วันเดียวกัน นิด้าโพลเปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่องคนสมุทรปราการเลือกพรรคไหน ระหว่างวันที่ 22-23 มี.ค. จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในจังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 1,100 หน่วยตัวอย่าง เมื่อถามถึงบุคคลที่คนสมุทรปราการจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พบว่า ร้อยละ 35.82 ระบุ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 21.36 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 13.91 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 5.27 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์และร้อยละ 5.18 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สำหรับพรรคที่คนสมุทรปราการจะเลือก ส.ส.แบบแบ่งเขต ร้อยละ 44.64 พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 26.73 พรรคก้าวไกล ร้อยละ 11.18 พรรครวมไทยสร้างชาติ ร้อยละ 3.73 พรรคเสรีรวมไทย และร้อยละ 2.91 พรรคพลังประชารัฐ ส่วนพรรคที่คนสมุทรปราการจะเลือกเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ร้อยละ 45.82 พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 25.73 พรรคก้าวไกล ร้อยละ 11.55 พรรครวมไทยสร้างชาติ ร้อยละ 4.09 พรรคเสรีรวมไทยและร้อยละ 2.55 พรรคประชาธิปัตย์

หนุนนายกฯต้องลง ส.ส.บัญชีรายชื่อ

ด้านสำนักวิจัยซูเปอร์โพลเสนอผลสำรวจ เรื่องนายกฯของประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,378 ตัวอย่าง เมื่อวันที่ 25 มี.ค.-1 เม.ย.พบว่าร้อยละ 43 ระบุผู้จะเป็นนายกฯต้องลงสมัคร รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคด้วย เพราะเป็นผู้แทนประชาชน ใกล้ชิดประชาชน รู้ปัญหาจริง ใช้อำนาจประชาชนต้องมาจากประชาชน ไม่เอานายกฯคนนอก ต้องมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น ร้อยละ 33.6 ไม่ต้องเป็น ส.ส. ขอเป็นคนดี ซื่อสัตย์สุจริต มือสะอาด ไม่จำเป็นต้องเป็น ส.ส. ใครก็ได้ทั้งนั้น ไม่ต้องสังกัดอะไรเป็นอิสระ ไม่ติดกับดัก และร้อยละ 23.4 ไม่แน่ใจ เมื่อถามถึงบัตรสองใบว่าจะเลือกคนที่รัก เลือกพรรคที่ชอบคู่กันไปทั้งสองใบหรือแยกกัน ร้อยละ 41.9 เลือกคนที่รัก เลือกพรรคที่ชอบคู่กันไปทั้งสองใบ ร้อยละ 26.4 เลือกแยกกัน และร้อยละ 31.7 ไม่แน่ใจ ส่วนนโยบายพรรคที่ประชาชนเชื่อว่าทำได้จริง กลุ่มแฟนคลับพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลร้อยละ 41.9 ระบุพรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 37.8 พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 35.5 พรรครวมไทยสร้างชาติ และร้อยละ 32.2 พรรคพลังประชารัฐ ส่วนกลุ่มแฟนคลับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ร้อยละ 47 พรรคเพื่อไทย และร้อยละ 41.8 พรรคก้าวไกล และร้อยละ 35.6 พรรคอื่นๆ