"มิ่งขวัญ" ประกาศแนวทางลด "แก๊สประชาชน" พร้อมลดเหลือ 250 บาทต่อถัง
ยัน ถ้า "พล.อ.ประวิตร" นั่งนายกฯ คนที่ 30 ทำได้จริงแน่ ชี้ รัฐบาล ตรึงราคาแก๊สช่วงนี้เพราะใกล้เลือกตั้ง

วันที่ 27 มี.ค. 66 นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่ปรึกษาคณะทำงานนโยบายพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวถึงนโยบายแก๊สประชาชนว่า วันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า อัตราเงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 24 ปี ค่าครองชีพขึ้น ค่าของทุกอย่างเพิ่มขึ้น ตนเห็นใจ พ่อค้า แม่ค้า เพราะต้นทุนเพิ่มขึ้น อย่างเช่น แก๊สหรือก๊าซหุงต้ม ที่จะไปช่วยเหลือภาคครัวเรือนโดยตรง เพราะเราอยากให้คนไทยมีความสุขและแก้ปัญหาปากท้องได้อย่างแท้จริงจึงเป็นที่มาของนโยบายยุทธศาสตร์นี้เพื่อดูแลปากท้องของประชาชน

ปัญหาราคาแก๊สเกิดขึ้นตั้งแต่ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2557 ที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้กำหนดกรอบและแนวทางในการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง โดยต่อมา กบง. ยอมให้ โรงแยกแก๊สปรับราคาแอลพีจีจาก 10 บาทเป็น 15 บาท เริ่มมีผลตั้งแต่ 2 ก.พ. 2558 รัฐบาลจึงเริ่มใช้กองทุนน้ำมันอุดหนุน โดยคุมราคาปลายทาง จากนั้นเมื่อปี 2560 กบง.ได้เปิดเสรีธุรกิจแก๊สแอลพีจีเต็มรูปแบบ จึงทำให้ราคาต้นทางขึ้นไม่หยุด รัฐบาลต้องเอาเงินภาษีกองทุนน้ำมันจำนวนมากไปอุดหนุน

...

จากนั้นเมื่อ เม.ย.-ก.ย. 2565 กองทุนน้ำมันมีหนี้มหาศาลติดลบถึง 124,602 ล้านบาท โดยรัฐบาลมีการปรับราคาแก๊สหุงต้มขึ้นกิโลกรัมละ 1 บาท ทุกๆ เดือน หรือ 15 บาทต่อถัง ซึ่งสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ก็เสนอแผนการกู้เงิน 150,000 ล้านบาท เพื่อนำไปโปะหนี้กองทุนน้ำมัน แต่จะกลายเป็นหนี้สาธารณะของประชาชนในประเทศ

และเมื่อต้นปี 2566 ที่ผ่านมา ราคาแก๊สหุงต้ม ปรับขึ้นเป็น 423 บาทต่อถัง และรัฐบาลประกาศให้ตรึงราคาแก๊สไว้ที่ราคานี้ จนถึงวันที่ 30 มิ.ย. เนื่องจากเวลานี้ใกล้การเลือกตั้ง ถ้าปล่อยให้ราคาแก๊สสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จะกระทบต่อคะแนนเสียง จึงประกาศเช่นนี้ แต่ปัญหาจะเกิดขึ้นหลังวันที่ 30 มิ.ย. อย่างแน่นอน เพราะถ้าดูจากสถิติราคาแก๊สจะพุ่งสูงขึ้นถึง 513 บาทต่อถัง ซึ่งไม่ทราบว่า เวลานั้นรัฐบาลจะเป็นใคร

นายมิ่งขวัญ กล่าวต่อว่า เราเห็นว่าต้องมีการรื้อ และปรับโครงสร้างราคาพลังงาน เพื่อทำให้ประชาชนคนไทยได้รับความสุข ความเป็นธรรม และเกิดความโปร่งใสเป็นการใช้งบประมาณรายได้ของรัฐให้ถูกที่ถูกทาง คนไทยทุกคนเป็นเจ้าของทรัพยากรธรรมชาติร่วมกัน ทรัพยากรธรรมชาติต้องตอบแทนให้คนไทยกินดีอยู่ดีทั้งประเทศ โดยเราจะลดราคาแก๊สเพื่อประชาชน จากราคาปัจจุบัน 423 บาทต่อถัง จะลดราคาลง 173 บาท ประชาชนคนไทยจะใช้แก๊สในราคา 250 บาทต่อถัง

"คนไทยใช้แก๊สหุงต้มปีละ ประมาณ 2,087 ล้าน กก. ซึ่งเป็นตัวเลขที่อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงพลังงานปี 65 งบประมาณที่ใช้อุดหนุน ระยะเวลาหนึ่งปีคือ 11.53 บาทต่อ แก๊ส 1 กิโลกรัม สรุปว่า เราจะใช้งบประมาณอุดหนุนทั้งสิ้น โดยประมาณของ 24,000 ล้านบาท ที่เรากล้าพูด เพราะต้องทำได้ เนื่องจากข้อมูลของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เมื่อวันที่ 8 มี.ค. มีการประกาศระบบสัมปทานใหม่ในแหล่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย จากระบบสัมปทานสู่ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต ทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติที่ได้ปรับลดราคาลงจาก 279-324 ต่อล้านบีทียู เหลือ 172 บาทต่อล้านบีทียู ซึ่งจะทำให้รายได้กลับคืนสู่ภาครัฐมากขึ้นกว่าเดิมประมาณ 24,000 ล้านบาทต่อปี นี่คือตัวเลขที่เราจะนำมาใช้อุดหนุนเพื่อลดราคาแก๊ส ทั้งนี้หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลด้านพลังงานทั้งหมด ทั้งก๊าซและน้ำมัน รวมถึงไฟฟ้า คู่ขนานไปด้วย"

นายมิ่งขวัญ กล่าวต่อว่า ตนได้รับอนุญาตจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้มาแถลงข่าวนี้ เนื่องจากราคาพลังงานไม่ว่า จะเป็น ราคาน้ำมัน ราคาแก๊ส ถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะต้องเร่งแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เพราะเราเล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของคนไทยทั้งประเทศ โดยเมื่อ พล.อ.ประวิตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จะต้องไฟเขียวนโยบายดังกล่าวแน่นอน เพราะต้องการช่วยเหลือแก้ปัญหาปากท้องความเป็นอยู่ของประชาชนเพื่อให้คนไทยดำเนินชีวิตและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น"

ทั้งนี้ นายมิ่งขวัญ กล่าวถึงลำดับปาร์ตี้ลิสต์ว่า ยังไม่ได้มี ถ้าใครมาแจ้งอะไรก็ถือว่าเป็นฝ้าเอื้องของทางพรรคพลังประชารัฐ เค้าที่เห็นสมควร อย่าดึงให้ตนไปพูดการเมือง เพราะตนจะพูดแต่เรื่องเศรษฐกิจจนกว่าพวกเราจะมีความสุข