กกต.เคาะแล้ววันเลือกตั้ง 14 พ.ค. เลือกล่วงหน้า 7 พ.ค. เปิดรับสมัคร ส.ส.แบ่งเขต 3-7 เม.ย. ส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อและบัญชีแคนดิเดตนายกฯ 4-7 เม.ย. กำชับเข้มรัฐบาลรักษาการ ต้องยึด รธน.169 เบิร์ธเดย์ 69 ปี “ลุงตู่” ชื่นมื่น “ลุงป้อม” นำทีม ครม.อวยพร เจ้าตัวขอบคุณความรักที่ให้กันมา “หนู” โชว์หวานโอบกอด “วิษณุ” แจกคู่มือติวเข้ม ครม. อย่าฝ่าฝืนกฎเหล็ก กกต. “อนุทิน” อุบไต๋สูตรลับล้มแลนด์สไลด์ ฟุ้งกระแสพุ่งพรวด “ชัยวุฒิ” ยังอยากจับกับขั้วเดิม “จุรินทร์” ย้ำ “มาร์ค” ไม่ลง ส.ส. “อุ๊งอิ๊ง” ฮึดกลับมาขึ้นเวทีปราศรัยสุดท้ายหลังคลอด เพื่อไทยเล็งรื้อยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี “เศรษฐา” แจงเอกชนดำเนินนโยบายไม่ให้เสียวินัยการเงิน ภาคเอกชนสบายใจได้ฟังนโยบาย ก้าวไกลเปิดตัว 7 ขุนพลเศรษฐกิจ “โรม” ให้ข้อมูลอัยการปม “ส.ว.ทรงเอ” พัน “ทุนมินลัต”
หลังมีพระราชกฤษฎีกายุบสภา เพื่อให้มีการจัดเลือกตั้งใหม่ ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีมติเห็นชอบกำหนดให้วันที่ 14 พ.ค.2566 เป็นวันเลือกตั้ง ส.ส. และให้ลงคะแนนล่วงหน้าวันที่ 7 พ.ค. ขณะที่จะเปิดรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ระหว่างวันที่ 3-7 เม.ย. รับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ-บัญชีรายชื่อนายกฯ 4-7 เม.ย.
...
กกต.เคาะแล้วเลือกตั้ง 14 พ.ค.
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 มี.ค.ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีการประชุม กกต. เพื่อพิจารณากำหนดวันเลือกตั้ง หลังมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ตามกรอบเวลาที่ต้องกำหนดวันเลือกตั้งภายใน 5 วัน ต่อมาเวลา 16.00 น. นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. แถลงว่าที่ประชุม กกต.มีมติเห็นชอบวันที่ 14 พ.ค.2566 เป็นวันเลือกตั้ง ส.ส. และวันที่ 7 พ.ค. เป็นวันออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง และให้วันที่ 3-7 เม.ย. เป็นวันรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งประกาศกำหนด วันที่ 4-7 เม.ย. เป็นวันรับสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และพรรคการเมืองแจ้งรายชื่อบุคคลที่จะแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ณ ห้องบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพ มหานคร ดินแดง กทม. กำหนดระยะเวลายื่นคำขอลงทะเบียนใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.-13 เม.ย. การแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ระหว่าง 7-13 พ.ค. และ 15-23 พ.ค.66
“ชูวิทย์” ป่วน ภท.ดูข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่า หากศาลปกครองตัดสินเรื่องคำร้องการแบ่งเขตเลือกตั้งขึ้นมา นายแสวงตอบว่า ตอนนี้ยังไม่เห็นหมายศาล สำนักงานฯทำงานไปตามกฎหมาย เชื่อว่าน่าจะไม่มีปัญหา เมื่อถามย้ำว่าถ้าเขตที่เราแบ่งเกิดมีปัญหา มีแผนสำรองอย่างไร นายแสวงตอบว่า ให้รอดูศาลจะว่าอย่างไร มีการหารือในที่ประชุมและเตรียมการไว้พอสมควร แต่เรื่องยังไม่เกิดยังพูดไม่ได้ตอนนี้ เมื่อถามถึงกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาต่อต้านกัญชาเสรี พรรคภูมิใจไทย เป็นสิทธิที่ทำได้หรือไม่ นายแสวงตอบว่า คนไทยตามรัฐธรรมนูญมีสิทธิเสรีภาพทุกคน แต่เวลาใช้สิทธิอะไรต้องเคารพกฎหมาย กรณีนี้ต้องไปดูข้อเท็จจริงกฎหมายมีอยู่แล้ว มี พ.ร.ฎ.เลือกตั้งแล้วทำได้แค่ไหน เราดูแลตามกฎเกณฑ์ เมื่อถามว่าการรณรงค์ไม่ให้เลือกใครทำได้หรือไม่ นายแสวงตอบว่า มันมีกฎหมายก็ต้องไปดู
กำชับ รบ.รักษาการยึด รธน.169
เมื่อถามถึงกรอบการหาเสียงของว่าที่ผู้สมัครและพรรคการเมือง นายแสวงตอบว่า คงต้องขอความร่วมมือกับผู้ที่มีส่วน ถ้าอยากเห็นการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขอให้ทุกคนอยู่ในส่วนที่ควรจะอยู่ เคารพกฎหมายในการแข่งขัน ในส่วนของรัฐบาลรักษาการต้องปฏิบัติตามแนวที่เราออกระเบียบไป ว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้ ตามรัฐธรรม นูญมาตรา 169 ข้าราชการที่ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ไม่ชอบในการให้คุณหรือให้โทษ ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองที่จะลงไปหาเสียง รวมถึงผู้สนับสนุน หัวคะแนน เชื่อว่าถ้าทุกคนปฏิบัติตามส่วนที่ควรจะอยู่ การบริหารการเลือกตั้งน่าจะออกมาดี
จับตาสื่อเสนอข่าวแข่งขัน
เมื่อถามว่าดูเหมือนจะมีการแข่งขันรุนแรงในหน้าหนังสือพิมพ์ นายแสวงตอบว่า สำนักงานฯมีหน้าที่ดูเรื่องนี้อยู่ ให้ทุกคนอยู่ในที่ที่ควรจะอยู่ วันนี้เรามีมาตรการใหม่เริ่มนับหนึ่งตั้งแต่มีประกาศยุบสภา เมื่อกฎ 180 วันหายไปก็ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ เมื่อถามว่ามีบางพรรคขอรณรงค์บริจาคไปทำป้ายหาเสียงทำได้หรือไม่ นายแสวงตอบว่า เบื้องต้นตรวจสอบกฎหมาย อาจเป็นรูปแบบหนึ่งในการหาเสียงเลือกตั้ง ตามมาตรา 68 ผู้สมัครเป็นได้ทั้งพรรค หรือบุคคล สามารถรับบริจาคจากบุคคลอื่นได้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการเลือกตั้ง ช่วงมี พ.ร.ฎ.ยุบสภาฯ ถ้ารวมกันไม่เกิน 1 หมื่นบาทใน 1 วัน ต้องแจ้ง กกต.ทราบภายใน 7 วัน
พระราชทานแจกันดอกไม้
เวลา 08.30 น. ที่ห้องสีงาช้าง ทำเนียบรัฐบาล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานแจกันดอกไม้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 69 ปี ทั้งนี้ ก่อนเข้าทำเนียบ พล.อ.ประยุทธ์พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เดินทางไปทำบุญที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เข้าเฝ้าเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สมเด็จพระสังฆราชทรงให้พรให้ทำงานสำเร็จ มีสุขภาพแข็งแรง ทำงานเพื่อประเทศชาติ และทรงเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ของชาติ และสอนอะไรหลายเรื่อง ตลอดเวลาที่ผ่านมาท่านทรงเมตตาพวกเราทุกคน เมื่อถามว่าได้เจอกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ให้พรวันเกิดอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “เดี่ยวก็คงให้มั้ง ทุกคนก็ตั้งใจให้พรกันอยู่แล้วล่ะ”
พี่ 2 ป.เบิร์ธเดย์ 69 ปี “น้องตู่”
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว. มหาดไทย กล่าวว่า ได้อวยพรวันคล้ายวันเกิดให้กับ พล.อ.ประยุทธ์แล้ว เมื่อถามว่าจะเป็นโซ่คล้องใจให้ พล.อ.ประยุทธ์กับ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ตอบว่า “คำถามมันเลยเรื่องของวันเกิดไปหน่อย”
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เดินทางมาประชุม ครม.ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โบกมือทักทายสื่อมวลชน และก่อนเริ่มประชุม ครม. พล.อ.ประวิตรเป็นตัวแทน ครม. มอบแจกันดอกไม้และกล่าวอวยพรวันเกิดให้กับ พล.อ.ประยุทธ์
ทั้งนี้ ก่อนประชุม ครม. คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ นำคณะผู้บริหาร เข้าพบนายกฯ เพื่อประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย ผ่านเว็บไซต์ “ปฐมวัยไทยแลนด์” ขณะที่การประชุม ครม.วาระส่วนใหญ่เป็นวาระเพื่อทราบ และมีรัฐมนตรีลาประชุม ได้แก่ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ และนายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์
ขอบคุณ ครม.อวยพรวันเกิด
ต่อมาเวลา 11.35 น. ภายหลังประชุม ครม.ที่ใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง พล.อ.ประยุทธ์ได้เข้าห้องรับรองสีเหลือง ตึกสันติไมตรี โดยมีรัฐมนตรีเข้ามาร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิด 69 ปี พล.อ.ประยุทธ์ อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องขอบคุณ ครม.ที่อวยพรวันคล้ายวันเกิดให้ตน พล.อ.ประวิตรได้นำอวยพรทุกครั้งทุกปี ครม.อยู่ด้วยกันมายาวนาน ความรักความผูกพันมันมีมามากกว่าอย่างอื่น คำอวยพรก็เป็นคำอวยพรดีๆให้มีสุขภาพแข็งแรง ประสบความสำเร็จ ไม่มีแปลกประหลาดอะไรอย่างอื่น
ติวเข้ม ครม.กฎเหล็ก กกต.
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้เรื่องเข้า ครม.ค่อนข้างน้อย เน้นหนักในเรื่องการทำความเข้าใจกฎระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้ อะไรควรทำหรือไม่ควรทำ ได้ย้ำเตือนกันไปแล้ว หลายอย่างอาจดำเนินการได้ เพียงแต่ต้องขอ กกต.เห็นชอบก่อน ต้องระมัดระวังที่สุดในช่วงเวลาที่ต้องเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง ขณะเดียวกันเราต้องบริหารราชการแผ่นดินไปด้วย รัฐมนตรีทุกคนรับทราบตรงนี้แล้ว
“หนู” โชว์หวานโอบกอด “ลุงตู่”
เมื่อถามว่ามีเรื่องอะไรที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่มี พูดกันไปไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว เมื่อถามว่าวันเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ วันที่ 25 มี.ค. ที่จะมีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ จะไปร่วมด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ได้หันไปถามนายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่ยืนอยู่ด้านหลังก่อนจะหันกลับมาตอบผู้สื่อข่าวว่า ถ้าเขาเชิญก็ต้องไป เมื่อถามว่าเห็นภาพนายกฯอยู่กับนายอนุทิน รู้สึกอุ่นใจและสบายใจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า สบายใจ สบายใจหลายอย่าง ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับ ครม.เลย ทุกพรรคก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาล เราไม่รักกันคงทำอะไรไม่สำเร็จหรอก ร่วมมือกัน รักกัน ไม่ได้ขัดแย้งกัน เมื่อถามย้ำว่ากับนายอนุทิน มิตรภาพเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์หันมายิ้ม ขณะที่นายอนุทินหัวเราะพร้อมกับโผเข้าโอบเอวซบไปที่หน้าอก ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ยิ้มและกล่าวว่า ไม่มีอะไร
เลือกตั้งยังไม่จบไม่มีดีลใคร
เมื่อถามว่านายอนุทินปิดดีลกับพรรคพลังประชารัฐไปแล้ว และวันนี้ปิดดีลกับนายกฯหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “ผมไม่ไปดีลอะไรกับใครทั้งนั้น ยังเลือกตั้งไม่เสร็จเลย” จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ขอให้นายอนุทินกอดนายกฯแบบเมื่อสักครู่อีกครั้ง เพื่อเป็นการยืนยันมิตรภาพ นายกฯตอบว่า “ปกติผมไม่ค่อยให้ใครกอด” ก่อนจะยิ้มอย่างอารมณ์ดีเดินขึ้นบันไดตึกไทยคู่ฟ้า ขณะที่นายอนุทินยืนหัวเราะอยู่ใกล้ๆ ก่อนเข้าตึกไทยคู่ฟ้า ทั้ง 2 คนได้หยุดและเอามือโอบเอวกัน พล.อ.ประยุทธ์พูดขึ้นว่า ก็กอดกันแบบนี้ทุกคน
“วิษณุ” เตือนอย่าเผลอขึ้นเวที
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าในที่ประชุม ครม. รัฐมนตรีพากันสอบถามถึงการปฏิบัติตัวหลังการยุบสภา ได้ชี้แจงในรายละเอียดเท่าที่จะชี้แจงได้ ส่วนใหญ่ไม่ได้กังวลอะไร แต่เป็นห่วงว่าเวลาไปร่วมงาน แม้ไม่ได้พูดไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้หาเสียง แต่เวลาพิธีกรเชิญขึ้นเวทีแล้วระบุตำแหน่งรวมถึงบอกว่าสมัครเลือกตั้งด้วย หากมีเหตุการณ์เช่นนี้อย่าขึ้นเวที หรือเวลาไปราชการแต่มีประชาชนมารอต้อนรับ รุมหอมแก้ม มอบดอกไม้ เรื่องนี้ กกต.ระบุว่าสามารถรับไว้ได้ แต่อย่าไปตอบอะไรทั้งสิ้น ให้เสร็จจากเรื่องราชการก่อนแล้วค่อยพูดกัน และย้ำว่าไปร่วมงานในฐานะแขก ขึ้นอวยพรได้ แต่ระวังพิธีกร เวลาขึ้นอย่าไปบอกว่าเป็นผู้สมัครมีนโยบายอะไร เพราะบางทีพูดไปแล้วเกิดการแขวะพรรคอื่นแบบนี้ไม่ได้
พูดถึงนโยบาย “ทักษิณ” ได้
เมื่อถามว่าบางกระทรวงมีรูปรัฐมนตรีอยู่ นายวิษณุตอบว่า ในคู่มือที่แจกวันนี้ให้ปลดออกทั้งหมด แต่หากมีเพียงชื่อไม่มีตำแหน่งไม่เป็นไร เพราะ กกต.ระบุว่าป้ายหาเสียงติดรูปผู้สมัครกับหัวหน้าพรรคได้ รูปผู้สมัครกับแคนดิเดตนายกฯของพรรคได้ ติดรูปคู่กับสมาชิกได้ แต่ติดรูปคู่กับบุคคลอื่นที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคไม่ได้ และเมื่อติดรูปคู่กับคนอื่นก็อย่าไปใส่ตำแหน่งทางการเมือง เช่น ติดรูปกับนายชวน หลีกภัย ใส่ว่าอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตประธานรัฐสภาได้ เมื่อถามว่าการหาเสียงมีการโยงกับคนไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค เช่น ระบุนโยบายมาจากคนนั้นคนนี้ทำได้หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ไม่กล้าตอบ แต่หากเป็นการพูดถึงนโยบายที่เป็นเรื่องจริง คงไม่เป็นไร แต่ติดรูปติดอะไรไม่ได้ เช่น นโยบายนี้มาจากนายทักษิณ ชินวัตร เคยทำเอาไว้แล้วจะทำต่อไม่เป็นไร ไม่ถือเป็นการนำมาใช้ประโยชน์ เป็นการอ้างที่มาที่ไป กรณีที่ข้าราชการการเมือง และรัฐมนตรีที่ใช้รถยนต์หลวง ไม่ต้องส่งคืน ต่อให้ใช้เฮลิคอปเตอร์ไปตรวจราชการและมีกำหนดการหาเสียงต่อ สามารถทำได้ เพราะยังถือว่าไปตรวจราชการ แต่ขออย่าออกนอกเส้นทาง
อุบไต๋สูตรลับล้มแลนด์สไลด์
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว. สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า อวยพรวันเกิดนายกฯในฐานะรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล เป็นผู้อาวุโสน้อยกว่าก็อวยพรผู้ใหญ่ เมื่อถามว่าภาพกอดกับนายกฯมีนัยทางการเมืองหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ผู้สื่อข่าวบอกให้กอดก็เลยกอด วันนี้เป็นวันเกิดนายกฯ ทำตามผู้สื่อข่าวหมด ส่วนเรื่องดีลจับขั้วรัฐบาล ทุกอย่างจะชัดเจนอยู่ที่ผลการเลือกตั้ง โดยหลักการหากขั้วเดิมจับกันได้เสียงเพียงพอ ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร แต่การเมืองผูกมัดอะไรไม่ได้ เมื่อถามว่าถือเป็นสูตรล้มแลนด์สไลด์เพื่อไทยหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ยังไม่มีสูตรอะไรเลย วันนี้เป็นการประชุม ครม.รักษาการครั้งแรก นายวิษณุได้ชี้แนะในการปฏิบัติงาน ว่าทำอะไรได้หรือไม่ได้บ้าง
ฟุ้งกระแส ภท.พุ่งพรวดทุกพื้นที่
นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยังคงเดินหน้าต่อต้านพรรคภูมิใจไทยต่อเนื่องว่า มีการทำโพล 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสภูมิใจไทยขึ้นเยอะ โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายขึ้นพรวดๆ อาทิ จ.อุทัยธานี ภาคใต้ รวมทั้ง กทม. สรุปภาพรวมถือว่าดี เราทำงานของเราไม่รู้สึกหวั่นไหว เมื่อถามว่ายังคงตั้งเป้าได้ ส.ส.หลักร้อย ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 70 ใช่หรือไม่ นายอนุทินย้อนถามว่า ทำไมตั้งต่ำจัง ตัวเลข ส.ส.ต้องมีแต่อัปขึ้น จะไปตั้งต่ำได้อย่างไรเพราะพวกเราทำงานเต็มที่ ลงพื้นที่ทุกคน อย่าง น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ น้ำหนักลดลงไป 5 กิโลกรัม
“จุรินทร์” ย้ำ “มาร์ค” ไม่ลง ส.ส.
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีนายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุจะลงรับสมัครเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายว่า ยังไม่ทราบเรื่องที่นายชวนจะวางมือ นายชวนเป็นปูชนียบุคคลทางการเมือง และเป็นบุคลากรที่มีคุณค่ายิ่งของพรรค ได้หารือกับอดีตหัวหน้าพรรคทั้ง 3 คน คือ นายชวน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน มีความเห็นร่วมกันว่า ทุกคนจะมาช่วยพรรคหาเสียงตามแนวทางของแต่ละคน นายอภิสิทธิ์ยืนยันชัดเจนว่ายังเป็นสมาชิกพรรค และจะช่วยพรรคตามแนวทางที่ถนัด แต่ไม่ประสงค์จะลง ส.ส.บัญชีรายชื่อ
“อุ๊งอิ๊ง” โวพร้อมเลือกตั้งพรุ่งนี้
ที่ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เข้าสักการะศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานครเพื่อความเป็นสิริมงคล น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ว่า ถือเป็นวันดี หลังมีประกาศยุบสภา จริงๆวางแผนไว้แล้วว่าจะเดินทางมาสักการะศาล หลักเมือง พรรคเพื่อไทยเดินหน้าลงพื้นที่เต็มที่ จะเดินต่อไป ไม่มีอะไรทำให้ช้าลงได้ ส่วนที่คาดว่าวันเลือกตั้งจะเป็นวันที่ 14 พ.ค.นั้น พรรคพร้อมอยู่แล้ว เลือกตั้งพรุ่งนี้เลยก็ได้ เมื่อถามว่ามีโอกาสที่ชื่อ น.ส.แพทองธารจะเข้าไปอยู่ในบัญชีผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณา อยู่ตรงไหนก็ได้ที่มีส่วนช่วยประเทศ ทุกอย่างทำคนเดียวไม่ไหว ต้องช่วยกันเป็นทีม ตรงไหนที่พรรคและประชาชนเห็นว่าเหมาะสมก็ตรงนั้น
กลับมาขึ้นเวทีปราศรัยสุดท้าย
ผู้สื่อข่าวถามว่ายังลงพื้นที่ไหวหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ถ้าเดินทางออกต่างจังหวัด 1-2 ชั่วโมงยังไหวอยู่ แต่คงไม่ไปค้างนอกสถานที่แล้ว เป็นนายเศรษฐาช่วยเดินลงพื้นที่เต็มกำลัง มีกำหนดคลอดก่อนวันที่ 14 พ.ค.แน่นอน คงไม่เกินต้นเดือน พ.ค. แต่ยืนยันจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งแน่นอน และน่าจะมีโอกาสไปปราศรัยหาเสียงวันสุดท้ายหากการเลือกตั้งเป็นวันที่ 14 พ.ค. ส่วนการโฟนอินเข้ามาเวทีปราศรัยครั้งแรกที่ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 19 มี.ค. รู้สึกตื่นเต้น กลัวโทร.เข้าไปแล้วสัญญาณขัดข้อง ประชาชนจะไม่ได้ยิน แต่ได้รับการตอบรับอย่างดี หลังจากนี้ต้องปรับแผนขึ้นเวที จะมีทั้งวิดีโอคอล คลิปภาพกระจายให้ได้มากที่สุด เมื่อถามว่าอยากอวยพรวันเกิดนายกฯอย่างไร น.ส.แพทองธารตอบว่า สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ขออวยพรให้สุขภาพแข็งแรง
จ่อรื้อยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงการสานต่อนโยบายรัฐบาลชุดปัจจุบันว่า สถานการณ์มีตัวแปรเยอะ ขอดูนโยบายที่รัฐบาลนี้ทำไว้ทั้งหมดก่อน บางอันอาจเหมาะสม บางอันอาจไม่เหมาะสม สิ่งสำคัญคือประชาชนต้องอยู่ดีกินดี มีความสุข หากเป็นนโยบายดีต้องเอามาดูอีกครั้ง อาจปรับเปลี่ยนรูปแบบบ้างให้เกิดความรวดเร็วและกระชับ ส่วนเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่มีการเอื้อประโยชน์ระยะยาวให้คนบางกลุ่ม จะเข้าไปรื้อระบบนี้หรือไม่นั้น หลักๆคือถ้าเอื้อประโยชน์ ไม่เอาแน่นอน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาเรายื่นต่อสู้และแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตลอดในเรื่องนี้ เพราะไม่สอดคล้องสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงของโลก
จากนั้น น.ส.แพทองธาร นายเศรษฐา นพ.ชลน่าน และคณะ เดินทางไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดารามฯ เพื่อสักการะพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) และสักการะพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ที่ปราสาทพระเทพบิดร
“เศรษฐา” ยันไม่เสียวินัยการเงิน
ต่อมาที่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย ร่วมหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายเศรษฐากล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจเป็นแนวทางที่ทุกพรรคให้ความสำคัญ เพื่อไทยมีนโยบาย Digital wallet สำหรับคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ไม่สามารถนำไปซื้อเหล้าบุหรี่ได้ นำไปซื้อเครื่องมือทำการเกษตรได้ จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้ทวีคูณ ยืนยันจะใช้นโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ไม่ใช้นโยบายประชานิยมหาเสียงอย่างเดียว ไม่มีการบิดเบือนราคาสินค้าเกษตร ใช้วิธีการตามปรัชญานวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ เพิ่มการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ สร้างรายได้ต่อไร่ให้เกษตรกร 3 เท่า จะดำเนินการตามนโยบายโดยไม่เสียวินัยการเงินการคลัง สร้างเม็ดเงินภาษีสู่ประเทศ พรรคเพื่อไทยยังสนใจงาน World pride parade 2028 ขอให้ภาคเอกชนสบายใจได้ เราพร้อมฟื้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น
ปั๊มหัวใจเศรษฐกิจฟื้นโดยเร็ว
นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลักการพรรคเพื่อไทยในการผลักดันเศรษฐกิจมี 3 ด้านหลักคือ 1.ภาครัฐจัดเก็บภาษีจากกำไรในการประกอบธุรกิจภาคเอกชน 20% ภาครัฐเป็นหุ้นส่วนกับประชาชนในการนำเงินภาษีมากระตุ้นเศรษฐกิจ 2.เพิ่มกำลังซื้อ เพิ่มอำนาจการจับจ่ายของประชาชน ผ่านการยกฐานเศรษฐกิจด้านล่างขึ้น ค้าขายจะดีขึ้น กำลังซื้อเพิ่ม การจ้างงาน การจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น มาดูแลประชาชนดีขึ้น 3.ประเทศไทยต้องหาโอกาสจากวิกฤติที่ส่งผลกระทบประเทศไทย เช่น ความขัดแย้งในรัสเซีย-ยูเครน สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะเร่งสร้างรายได้การท่องเที่ยวจากปัจจุบัน 1.9 ล้านล้านบาท เป็น 3 ล้านล้านบาท ผ่านการเพิ่มสายการบิน ส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการบิน การจัดการเที่ยวบิน สถานที่ท่องเที่ยวต้องปลอดภัย การขอวีซ่าต้องง่ายขึ้น เรามีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร็ว เป้าหมายเรา จีดีพี 5% เคยทำมาแล้ว ตอนนี้เศรษฐกิจไทยอยู่ในห้องไอซียู เราจะปั๊มหัวใจให้กลับมาโดยเร็ว
เอกชนสบายใจได้ฟังนโยบาย
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าไทยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการพูดคุยหารือกับพรรคเพื่อไทย รู้สึกสบายใจที่ได้ฟังว่าการใช้งบประมาณจะมีแนวทางหารายได้มาสู่ระบบการเงินการคลังของประเทศมากขึ้น ทั้งนี้ชื่นชอบนโยบาย Digital government เป็นอย่างมาก เชื่อว่าจะช่วยให้เกิดความโปร่งใส แนวทางที่พรรคเพื่อไทยเสนอมา เป็นเรื่องจับต้องได้ และมาสู่ภาคปฏิบัติได้ หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ได้จัดตั้งรัฐบาล ขอให้เร่งจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด สบายใจที่ได้ยินแนวคิดต่างๆของพรรคเพื่อไทย พร้อมให้ความร่วมมือ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศ ช่วยกันผลักดันหลายๆเรื่อง
ก้าวไกลชู 7 วาระเปลี่ยน ศก.ไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคก้าวไกลว่า วันที่ 22 มี.ค. พรรคก้าวไกลจะแถลงเปิดตัวทีมเศรษฐกิจ ภายใต้หัวข้อ เปิด 7 มือทำงานทีมเศรษฐกิจก้าวไกล พร้อมนำเศรษฐกิจไทยสู่อนาคต #ทีมเศรษฐกิจก้าวไกลเสนอ “7 วาระเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย” ประกอบด้วย 1.Made with Thailand 2.เปิดโอกาส เปิดตลาด SME 3.ทลายทุนผูกขาดค่าครองชีพ 4.Unlock เศรษฐกิจสร้างสรรค์ 5.แปลงข้อมูลเป็นขุมทรัพย์ 6.หยุดแช่แข็งชนบทไทย และ7.ยกเครื่องภาครัฐ นำเศรษฐกิจไทยก้าวหน้า ต้องการสร้างเศรษฐกิจไทยให้เติบโตเป็นธรรม “Inclusive Growth” เป้าหมายนโยบายมี 3 ส่วน คือ วางรากฐานชีวิตคนไทยให้มั่นคง สร้างกติกาแข่งขันที่เป็นธรรม และพาธุรกิจไทยบุกตลาดโลก
เปิด 7 ขุนพลเศรษฐกิจค่ายส้ม
สำหรับรายชื่อ 7 ขุนพลเศรษฐกิจ ได้แก่ 1.นายวีระยุทธ์ กาญจน์ชูฉัตร หรืออาจารย์ต้น จบปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์การพัฒนา มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ 2.นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล หรือ “ดร.ชาย” กรรมการบริษัทเอกชนสินค้าไลฟ์สไตล์แบรนด์ไทย Moshi Moshi ดีกรีปริญญาเอกเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยยอร์ค ประเทศอังกฤษ 3.นายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล 4.นายอภิสิทธิ์ ไล่ศัตรูไกล อดีต ผอ.ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) และสำนักส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) ปัจจุบันเป็นประธานคณะกรรมการสำนักการตลาดกรุงเทพมหานคร 5.นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร หรือ “ดร.โจ” ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเงินและนักยุทธศาสตร์ด้านข้อมูล 6.นายเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการ Think Forward Center สถาบันวิชาการนโยบายพรรคก้าวไกล และ 7.น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล
พปชร.ปล่อยภาพเซต “ลุงอย่างเท่”
ช่วงบ่ายที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรค พปชร. พร้อมแกนนำพรรค อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการพรรค นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส นายวิรัช รัตนเศรษฐ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ นายทะเบียนพรรค น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ สมาชิกพรรค และกลุ่มว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ร่วมกันถ่ายภาพเซต “ทรงอย่างเท่ ตามติดซีรีส์ พปชร. อยากรู้เราทำอะไรกัน โปรดติดตาม” ที่จะใช้โปรโมตหาเสียง รวมถึงใช้ในการยื่นสมัคร ส.ส. มีทั้งรูปเดี่ยว พล.อ.ประวิตร ในชุดสูทสากล และแบบสวมแจ็กเกตพรรค ในอิริยาบถต่างๆ เช่น ชูมือสัญลักษณ์นโยบายบัตรประชารัฐ 700 ชูมือสัญลักษณ์ถูกต้อง-ใช่เลย และเซตที่ถ่ายร่วมกับผู้บริหารพรรคในอิริยาบถสบายๆ
“ป้อม” ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง
หลังการประชุมกรรมการบริหารพรรค และถ่ายภาพเสร็จ พล.อ.ประวิตรเตรียมเดินทางกลับ มีการหยอกล้อถ่ายภาพร่วมกับผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ผู้สื่อข่าวได้หยอกถึงภาพทีเซอร์ว่าถ่ายออกมาแล้วดูหล่อ ทำให้ พล.อ.ประวิตรตอบว่า “หล่อดิ หล่อมั้ยๆ” เมื่อถามว่าพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า “พร้อมสิ โถ่ พร้อมเลย” เมื่อถามว่า กกต.ประกาศจัดการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. พล.อ.ประวิตรตอบว่า “โถ่ รู้แล้ว”
“แด๊ก” หวัง “ลุงป้อม” ไม่ย้ายฝั่ง
นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรค รทสช. กล่าวว่า นายกฯมั่นใจในผลงาน 7-8 ปี ฝ่ายค้านพยายามใช้วาทกรรมดิสเครดิตโจมตีคะแนนยิ่งเพิ่ม สุดท้ายสถานการณ์จะทำให้ประชาชนตัดสินใจเลือกระหว่างฝั่ง พล.อ.ประยุทธ์กับฝั่งเพื่อไทย คิดว่าประชาชนจะเลือกความสุขในแบบที่เป็นอย่างนี้อยู่ มีความสุขในสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำ แม้ใครจะว่าไม่ดีก็ตาม และเชื่อว่าหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลยังกลมเกลียวสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์อยู่ เรามั่นใจจะเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลได้ โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค พปชร. ผูกพันกับ พล.อ.ประยุทธ์ ถึง 40-50 ปี ไม่น่าเป็นไปได้ที่จะไปเลือกอีกฝั่ง
“เรืองไกร” โผล่ขวาง พ.ร.ฎ.ยุบสภา
ที่ศาลปกครอง นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรค พปชร. เข้าร้องต่อศาลปกครองสูงสุดเนื่องจากเห็นว่าการเสนอ พ.ร.ฎ.ยุบสภาไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ แม้การยุบสภาเป็นอำนาจของนายกฯ แต่รัฐธรรมนูญบัญญัติว่าการตรา พ.ร.ฎ.ยุบสภาต้องมีเหตุการณ์ เห็นว่ามีนัยเอื้อประโยชน์ให้พรรคที่นายกฯไปสมัครเป็นสมาชิกตั้งแต่ 9 ม.ค. ควรจะรู้อยู่แล้วว่าถ้ายุบสภาจะได้ประโยชน์จากการโยกย้าย ส.ส. ต้องการให้ผู้สมัครหรือว่าที่ผู้สมัคร หรืออดีต ส.ส.ย้ายพรรคให้สั้นลงจาก 90 วัน เหลือ 30 วัน เหตุผลตรงนี้ถือว่าไม่สุจริต ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ การกระทำอาจขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 5 ต้องให้ศาลปกครองพิจารณาว่าควรระงับยับยั้งหรือไม่ เมื่อถามว่านายกฯเคยระบุว่าจะใช้วิธียุบสภาเพื่อช่วยพรรคอื่นๆในเรื่องเวลาสังกัดพรรค นายเรืองไกรตอบว่า ไม่น่าจะใช่เหตุ นายกฯควรบอกตรงๆว่าเพื่อประโยชน์ รทสช. ท่านอยากอยู่ต่อ ทำแล้ว ทำต่อ ทำอีก
ม็อบบุกสภาล้างคราบเผด็จการ
ที่รัฐสภาเวลา 16.00 น. กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมกว่า 20 คน นัดรวมตัวกันที่หน้ารัฐสภา ฝั่งประตูทางเข้าสภาฯ จัดกิจกรรม “ล้างคราบจังไร ล้างไพ่เผด็จการ” หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประกาศยุบสภา มีการนำอุปกรณ์ทำความสะอาดพื้น ถังน้ำ ผงซักฟอก ไม้ถูพื้น ไม้กวาด ไม้ขัดพื้นไปทำความสะอาดบริเวณป้ายชื่ออาคารรัฐสภา ที่นำรูป พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร มาแปะที่ป้าย ฝั่งทางเข้าอาคารพระสุริยันต์ (ฝั่ง ส.ส.) โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.บางโพ นำโดย พ.ต.อ.วิทวัส เข่งคุ้ม ผกก.สน.บางโพ เจรจาไม่ให้ราดน้ำไปบริเวณป้ายชื่ออาคารรัฐสภา เนื่องจากมีสายไฟฟ้าอาจเกิดไฟช็อตได้ ผู้ชุมนุมไม่ยอมผลักดันปะทะกันทำให้แกนนำหญิงนำน้ำมาราดตัวเอง และหันไปทำความสะอาดบริเวณถนนหน้าประตูทางเข้ารัฐสภาแทน หนึ่งในผู้ชุมนุมประกาศว่า จะไม่ยอมให้ พล.อ.ประยุทธ์กับ พล.อ.ประวิตร กลับเข้ามาในสภาฯอีก จะเลือกคนเข้ามาล้างคราบไคลของเผด็จการ จากนั้นพากันชู 3 นิ้ว ตะโกนว่า “เผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ” ก่อนแยกย้าย
ตั้ง “ธนกร” ต่อคิว “วิษณุ-แฮงค์”
อีกเรื่องที่ประชุม ครม.มีมติแต่งตั้งให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ทำหน้าที่ผู้รักษาราชการ รมว.ยุติธรรม กรณีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ให้นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ทำหน้าที่แทน และแต่งตั้งให้นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ทำหน้าที่ผู้รักษาการ รมว.อุตสาหกรรม กรณีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ให้นายธนกรทำหน้าที่แทน
“โรม” ให้การปม ส.ว.พัน “ทุนมินลัต”
ที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด นายรังสิมันต์ โรม อดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล เข้าให้ปากคำในฐานะพยานกรณีกล่าวหานายอุปกิต ปาจรียางกูร ส.ว. พัวพันขบวนการฟอกเงินการค้ายาเสพติดของทุนมินลัต ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า เชิญนายรังสิมันต์เข้าให้ถ้อยคำ หลังเจ้าตัวยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด ขอส่งหลักฐานเอกสารเพื่อประกอบการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดี ให้อัยการสูงสุดพิจารณาพยานหลักฐานที่นายรังสิมันต์อ้างถึงทั้งหมด ก่อนอัยการสูงสุดจะมีคำสั่งให้สำนักงานการสอบสวนพิจารณาดำเนินการ เนื่องจากเป็นเรื่องที่อัยการสำนักงานการสอบสวน รับผิดชอบสอบสวน ร่วมกับพนักงานสอบสวนบก.ปส.3 มีนายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีฯ ร่วมกำกับการสอบสวน ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายตามพยานหลักฐาน