นายกฯ ลุย จ.ภูเก็ต ติดตามความคืบหน้า เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand ชวนคนไทยร่วมสนับสนุน-เผยแพร่กิจกรรม เป็นโอกาสแสดงศักยภาพของไทย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ

วันที่ 19 มี.ค. นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ 19 มี.ค. 2566 เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุมท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับฟังความคืบหน้าการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand เพิ่มศักยภาพยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ด้านสังคม เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค การพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน

...

โดยมี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) นายพัฒนชัย สิงหะวาระ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการภาคใต้ ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมการตรวจติดตาม

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ติดตามความคืบหน้าที่ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand คือวาระแห่งชาติ ซึ่งประเทศไทยและจังหวัดภูเก็ต มีความพร้อมเต็มที่ โดยการเป็นเจ้าภาพ Expo ครั้งแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สร้างประโยชน์ต่อทั้งภูมิภาค อีกทั้งคาดว่าประเทศไทยมีความได้เปรียบเมืองคู่แข่งในประเทศต่างๆ ทั้งศักยภาพด้านโครงสร้างพื้นฐาน ภูมิประเทศ และแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ชุมชนและท้องถิ่นได้ร่วมผลักดันประเด็นต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ก่อนการเป็นเจ้าภาพ อาทิ ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของไทย การให้ความสำคัญกับการจัดการประชุม งานนิทรรศการระหว่างประเทศที่เน้นการดูแลสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน พร้อมเน้นสร้างการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของไทยลงสื่อออนไลน์ต่างๆ เพื่อออกสู่สายตาชาวโลก

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ขอเชิญชวนและประชาสัมพันธ์ให้คนไทยมีส่วนร่วมการสนับสนุนและร่วมเผยแพร่กิจกรรม การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานเอ็กซ์โปวาระพิเศษ (Specialised Expo) เอ็กซ์โป 2028 ภูเก็ต ประเทศไทย หรือ Expo 2028 Phuket Thailand ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญแสดงให้นานาประเทศเห็นถึงความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจของคนไทย เพราะหากไทยได้เป็นเจ้าภาพงานฯ ก็จะเป็นโอกาสอันดีที่ต่างประเทศ จะได้เห็นศักยภาพของประเทศไทย และสร้างรายได้ให้กับคนไทยได้อย่างเต็มศักยภาพ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้เข้าประเทศ ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนของจังหวัดภูเก็ต ที่ได้ร่วมกันผลักดันสนับสนุนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเป็นอย่างดี และหวังว่าทุกฝ่ายจะให้การสนับสนุนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานฯ ในครั้งนี้ของประเทศไทย พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดการประชุมหารือในวันที่ 29 มี.ค. 66 เพื่อรับทราบถึงแนวทางรูปแบบการจัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand ต่อไป

จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางไปยังตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ตรวจความพร้อมการเตรียมสถานที่จัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการ เพื่อเตรียมก้าวสู่การเป็นเจ้าภาพงานระดับโลก ซึ่งได้มีการนำเสนอความพร้อมของประเทศไทยในรอบที่ 2 เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา โดยเสนอให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานเอ็กซ์โปวาระพิเศษ (Specialised Expo) ภายใต้ชื่อ Expo 2028 Phuket Thailand ระหว่างวันที่ 20 มีนาคม-17 มิถุนายน 2571 บนพื้นที่ 141 ไร่ ในตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ภายใต้แนวคิด Future of Life : Living in Harmony, Sharing Prosperity หรือ ชีวิตแห่งอนาคต แบ่งปันความรุ่งเรือง อยู่ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว

ในขณะนี้ อยู่ในช่วงของการหาเสียง เพื่อให้ประเทศสมาชิกร่วมลงคะแนนเสียงเลือกประเทศไทย เป็นเจ้าภาพการจัดงานในปี 2028 โดยมีประเทศคู่แข่ง 4 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สเปน เซอร์เบียร์ อาร์เจนตินา ทั้งนี้ หากประเทศไทยได้รับการคัดเลือกเป็นเจ้าภาพการจัดงาน จะมีผู้เข้าชมงานทั้งไทยและต่างชาติ ไม่ต่ำกว่า 7 ล้านคน/ครั้ง หรือประมาณ 4.9 ล้านคน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 49,000 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) กว่า 39,357 ล้านบาท เกิดการจ้างงานได้มากกว่า 113,439 ตำแหน่ง และเกิดรายได้จากการจัดเก็บภาษีกว่า 9,512 ล้านบาท ส่งผลดีในการขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม และยังเป็นโอกาสสำคัญในการผลักดันประเทศไทย ก้าวสู่ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Wellness Tourism หรือในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับ Healthcare และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับ Green Service ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงถือว่าการเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าว จะสร้างโอกาสให้นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ ใช้เวทีการจัดงาน Expo เป็นเวทีการต่อยอดทางธุรกิจต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางไปยังชุมชนบ้านกิ่งแก้ว เทศบาลตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เพื่อตรวจติดตามการใช้พื้นที่ป่าชายเลนภายใต้โครงการ “ป่าในเมือง” ต่อไป.