- ยอมรับ เงื่อนไข เข้าร่วม พปชร.อยู่ที่ "พล.อ.ประยุทธ์" คนเดียว ไม่เกี่ยว "พรรคเผด็จการ" หรือ "พรรคประชาธิปไตย" สาเหตุเพราะ?
- เผย คำพูด "บิ๊กป้อม" ที่"ลุงมิ่งฯ" หยอด คือ "ผู้ใหญ่ใจดี" ชวนให้มาช่วยงานทีมเศรษฐกิจพรรคพปชร.
- สมมติ "ลุงตู่" ได้กลับมาเป็นนายกฯอีก แล้ว "ลุงป้อม" นำพปชร.ไปร่วมรัฐบาลแล้วจะทำยังไง?
เลือกตั้ง 2566 : หากให้นึกถึงชื่อคนที่ถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย รวมทั้งเป็นนักการตลาดมือทอง เชื่อว่า 1 ในชื่อที่ประชาชนจะนึกถึง แน่นอน จะต้องมีชื่อของบุคคลท่านนี้ติดอยู่ในห้วงสำนึกของประชาชนคนไทยอย่างไม่ต้องสงสัย
ยิ่งการเปิดตัวด้วยนโยบายฮือฮา ด้วยการประกาศจะลดราคาน้ำมัน “เบนซิน” ถึง 18 บาทต่อลิตร และ "ดีเซล" 6 บาทต่อลิตร ในภาวะราคาพลังงานของโลกแพง สร้างความเดือดร้อนยากลำบากให้ประชาชนคนไทย โดยเฉพาะ "คนเดินดินกินข้าวแกง"
...
ถึงตรงนี้ก็รู้ทันทีว่าหมายถึงใคร ใช่ "ลุงมิ่ง" นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ที่เพิ่งตัดสินใจย้ายเข้าร่วมงานกับ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ของ "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
ซึ่ง "ลุงมิ่ง" บอกกับทีมข่าวการเมืองไทยรัฐออนไลน์เองว่า สำหรับ "ลุงป้อม" ถือเป็น "ผู้ใหญ่ใจดี"
พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดใจแบบหมดเปลือก ย้อนอดีตชีวิตนักการเมืองของ "ลุงมิ่ง" ที่ดูเหมือนจะไม่มีทางจะลงรอย เป็น "ไม้เบื่อไม้เมา" กับ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาโดยตลอด
ยิ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา "ลุงมิ่ง" กับ "บิ๊กตู่" จับคู่ปะทะกันโดยตลอด โดยเฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ รับหน้าเสื่อ เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลด้วย
ขณะเดียวกัน นายมิ่งขวัญ ยังจะมาไขความในใจที่ไม่ลับ ตกลงอยากเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจริงหรือ และเพราะอะไร ทำไมถึงตัดสินใจเข้าทำงานกับพรรคพลังประชารัฐ ใช่เหตุผลเพราะไม่มีชื่อ "ลุงตู่" อยู่ในพรรคแล้ว เพียงแค่นั้นจริงหรือ? มีอะไรในกอไผ่มากกว่าที่เห็นหรือเปล่า
ถึงวันนี้ เราจะได้รู้ความในใจของชายชื่อ "มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์" กันแบบหมดเปลือก!
ย้อนความหลัง วีรกรรมอภิปราย "บิ๊กตู่" คนเดียว จนกลายเป็น "มวยคู่เอก" สภาโพสต์เฟซบุ๊กที ยอดวิว ทะลุ 10 ล้าน
นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดสภาวันแรก จนถึงวันที่ผมลาออก คนเดียวที่ผมอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถามว่า เขามีความผิดอะไรเหรอ 1. ก็เขาเป็นนายกรัฐมนตรี 2. เขาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ แล้วทำเศรษฐกิจไม่สำเร็จไง เศรษฐกิจก็สไลด์ดาวน์ ตกลงอย่างรุนแรง คนก็เดือดร้อนไปทั่ว มันก็เลยเหมือนกลายเป็น "มวยคู่เอก" ของสภา คนก็รอฟัง ผมยังจำได้ แค่โพสต์เฟซบุ๊กสั้นๆ ว่า พรุ่งนี้ เวลาบ่าย 2 โมง เราจะอภิปรายนายกรัฐมนตรีในสภา โอ้โห คนมาดูเยอะ ยอดเพจวิวทะลุ 10 ล้านวิว
แจงยิบ เหตุผลทำไมตัดสินใจร่วมงานกับ พปชร.
"มิ่งขวัญ" กล่าวต่อว่า แล้วเราก็รักษาทุกคะแนนเสียงที่โหวตให้เรา ใครจะไปจะมาจะบอกว่าใครกินกล้วย อันนี้เราไม่รับรู้ เราก็ไม่ใช่หัวหน้าพรรคด้วย เพราะเราลาออกแล้วตอนนั้น ถึงกับแถลงข่าวในสภาว่า ผมไม่อนุญาตให้พรรคเศรษฐกิจใหม่ เอาชื่อของผมไปอ้างเครดิตใดๆ ทั้งสิ้นต่อไป อันนี้คงทราบข่าวดี จนผมยื่นใบลาออก พอลาออกแล้ว กลับเข้ามาวงการการเมือง พรรคเก่าก็กลับไปไม่ได้เลย เพราะประกาศกลางสภาตัดขาดไปแล้ว
"พล.อ.ประวิตร" ผู้ใหญ่ใจดี รู้จักกันมานานมากแล้ว ไม่ใช่เพิ่งรู้จัก
"มิ่งขวัญ" กล่าวอีกว่า เพราะกรณีปรับกฎเกณฑ์กติกาเลือกตั้ง ใช้สูตรหาร 100 พอดูแบบนี้ โห เหนื่อยสิ อย่างที่สอง เราเป็นคนพูดอะไรชัดเจน เราไม่มีเงินขนาดนั้นหรอก เพราะพรรคการเมืองใช้ทุนเป็นพันล้าน ฉะนั้น เลยตัดสินใจหาพรรคใหม่ อันนี้ถึงมาหา พล.อ.ประวิตร ต้องใช้คำว่า ท่านเป็น "ผู้ใหญ่ใจดี" แล้วไม่ใช่เพิ่งรู้จักกันนะ รู้จักกันมาตั้งแต่ พล.อ.ประวิตร เป็น ผบ.ทบ.แล้วขึ้นเป็นรองนายกรัฐมนตรี "พี่ป็อก" พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เข้ามาเป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แล้วเวลาไปต่างประเทศ เราก็เจอกันบนเครื่องบิน อันนี้เป็นความรู้สึกดีๆ
"บิ๊กตู่ ไม่อยู่แล้ว" คำพูด "บิ๊กป้อม" วันขอให้มาช่วยงานทีมเศรษฐกิจ พปชร.
"สำหรับ พล.อ.ประวิตร เรามีไมตรีที่ดีกันมาตลอด พล.อ.ประวิตร ก็พูดกับผมว่า "อาจารย์มิ่งขวัญ ช่วยผมหน่อยสิ เรื่องเศรษฐกิจประชาชนเดือดร้อน คุณเหมาะจะช่วยประชาชน" เราก็ต้องรู้นิสัยกันอยู่แล้วว่า ผมเป็นคนยังไง ซึ่งผมก็ถามท่าน พล.อ.ประวิตร ตรงๆ ว่า พลังประชารัฐ ยังมี พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ ตอนนั้นยังไม่มีข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติเลย ท่านประวิตร ก็ตอบว่า "ท่านประยุทธ์ มาลาออกแล้ว เขาไม่ได้อยู่" ผมก็บอก ท่านครับเรื่องนี้สำคัญสำหรับผมมากนะ พูดแค่นี้ก็เข้าใจ นั่นคือ วันแถลงข่าว ตอนแถลงข่าวผมถึงพูดไง ว่าที่เข้ามาเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่อยู่ที่นี่แล้ว ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีใครรู้เรื่องเลย
ผมพูดเลย ถ้าผมไม่พูดเรื่องนี้ ก็เข้ามาพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ แล้วยืนยันไม่ได้ว่า ผมจะอยู่พรรคอะไร จุดยืนผมเหมือนเดิม ไม่ได้พูดหาเสียง คือ ประชาชน 90% วันนี้ยังลำบากยากแค้น มีคนกลุ่มหนึ่ง ไม่ถึง 10% ที่อยู่สบายๆ" มิ่งขวัญ กล่าว...
เงื่อนไขอยู่ที่ "พล.อ.ประยุทธ์" คนเดียว ไม่เกี่ยว "พรรคเผด็จการ" หรือ "พรรคประชาธิปไตย" ใช่หรือไม่
ยืนยัน "จริงๆ ผม ไม่ได้มีอะไรกับท่าน พล.อ.ประยุทธ์ แต่ 1. ต้องปฏิเสธ เพราะ ท่านเป็นหัวหน้าปฏิวัติมาก่อนนะ 2. ถึงมีรัฐธรรมนูญ เหมือนน้ำล้างแรก แล้วยังมี 8 ปี อีก ท่านก็ไม่ยอม แต่ผมไม่โกรธอะไรท่าน เฉยๆ" มิ่งขวัญ กล่าวยืนยัน
จะมีวิธีบอกกับประชาชนแบบไหน เมื่อภาพออกไป ดูเหมือนไม่ได้อยู่กับพรรคการเมืองที่หนุนฝ่ายประชาธิปไตยแล้ว
ผมจะบอกว่า "ผมก็คือผม" ผมไม่ว่าจะนั่งทำงานอยู่ตรงไหน ยืนยันว่า ไม่มานั่งหาเสียงแบบนักการเมืองทั่วไป ผมเห็นประชาชนส่วนใหญ่ยังลำบาก 2 ผมคิดว่า ประเทศนี้ให้อะไรผมเยอะ ให้โอกาสในการศึกษาเล่าเรียน ผมมาจากโรงเรียนวัด ฝั่งธนฯ สอบเข้ามหา'ลัย ได้ทุนไปเรียนเมืองนอก ผมมีหน้าที่การงานที่ดี มีชีวิตที่เจริญเติบโต ประเทศชาติให้ผมเยอะ ไม่งั้นไม่ยื่นใบลาออกตอนมีเงินเดือนเยอะหรอก
ถามว่าผมคิดอะไร ถ้าเป็นคนอื่น ผมก็ไม่ได้มีฐานะมั่งคั่งร่ำรวยอะไรนัก ผมก็มีฐานะพออยู่ได้ ทรัพย์สิน แจงบัญชีทรัพย์สินหมด ผมไม่มีครอบครัว ก็แจงบัญชีทรัพย์สินชัดเจน เน้น ผมไม่เคย "รับสินบาทคาดสินบน" อะไร ตอนนี้เศรษฐกิจดิ่งเหว แล้วคนไทยจะเจ๊ง บริหารจัดการผมเอาอยู่
มั่นใจ "พลังประชารัฐ" จะตั้งรัฐบาลได้?
"มิ่งขวัญ" ระบุว่า มั่นใจหรือเปล่า ถามการเมืองผมตอบไม่ได้ เพราะผมไม่ใช่นักการเมืองหรือผู้เชี่ยวชาญการเมือง แต่ผมคิดว่า ถ้า พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ หรือแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แล้วถ้าท่านเห็นว่า ผมทำงานได้ ผมก็ทำ
สมมติ "ลุงตู่" ได้กลับมาเป็นนายกฯ แล้ว "ลุงป้อม" ไปร่วมรัฐบาลจะทำยังไง?
อย่าเพิ่งสมมติเลย เพราะยังไม่ถึงวันเลือกตั้งเลย วันนี้ก็เห็นข่าวยุบพรรคอะไรเต็มไปหมด ถ้าดูก็มีโอกาส รอดูอีกสักพัก
ตอนนี้เริ่มมีการหารือกันในทีมเศรษฐกิจ พปชร.บ้างหรือยัง?
นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ผมอยากจะใช้คำนี้ดีกว่า "ผมดูเศรษฐกิจ คนอื่นก็ดูเศรษฐกิจได้ แต่ผมดูเศรษฐกิจเฉพาะทาง" จะเจาะเป็นเรื่องๆ ที่มีอิมแพ็ก ที่มีผลกระทบกับคนจำนวนมาก อย่าง พลังงาน เรื่องลดราคาน้ำมันเบนซิน 18 บาท ที่เคยพูดไป แต่ที่ยังไม่ได้พูดเลย คือ มาตรการหลังจากลดราคาน้ำมัน ยัน ไม่กลัวถูกลอกนโยบาย เพราะไม่มีคนทำได้หรอก
ยัน ไม่ได้มีปัญหา ปมเป็นแคนดิเดตนายกฯ พปชร.
วันที่ผมเข้ามา พปชร.วันแรก ผมไม่เป็นกรรมการบริหารพรรค เหตุผลเพราะเขามีกันอยู่แล้ว -ผมไม่ใช่เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เนื่องจากเขาก็มีหัวหน้าทีมเศรษฐกิจอยู่แล้ว ถ้าจะต้องไปดีเบต ก็ต้องมีแคนดิเดตนายกฯ ก็เลยบอก "ผมอยากเป็นนะ" ท่านประวิตร เลยบอกว่า ถ้าอย่างนั้นผมจะนำไปบรรจุในวาระพรรค ให้กรรมการบริหาร เขาตัดสินกันอีกที
ถามว่า ผมมีปัญหาอะไรไหม "ผมไม่มี" แต่ผมไม่ชอบพูดอะไร อ้ำๆ อึ้งๆ ผมก็เลยพูดวันนั้น แล้วอีกอย่างวันนั้น ไม่ต้องอะไร ผมยื่นไมค์ให้ พล.อ.ประวิตร เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็มีสื่อบางแห่งหาว่าผมดึงไมค์ออกมา ความหมายต่างกันเลย
ไม่ได้บอกจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ พปชร.เป็นการเข้าใจผิดใช่หรือไม่?
ถ้าพูดตรงเลยนะ ถ้าท่าน พล.อ.ประวิตร จะเอาไปเป็นหมายเลข 2 หมายเลข 3 ก็แล้วแต่ท่าน ถ้าที่ประชุมพรรคประชุมกันมาแล้ว จะมีแคนดิเดตนายกฯ คนเดียว ก็จบแค่นั้นล่ะ
เลือกตั้งครั้งนี้ ลง ส.ส.บัญชีรายชื่อ?
นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ถ้าพรรคเขาให้ลง ผมก็ลง ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่ยังไม่ได้คุยกันนะเรื่องนี้
หลังจากนี้ ก็มาดูกัน ว่า "ลุงมิ่ง" มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จะสามารถทำงานตามความฝัน ช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนและประเทศไทย จากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้หรือไม่
หลังผ่านเลือกตั้ง 2566 ถึงจะได้รู้บันไดขั้นแรกพรรค พปชร.ต้องอยู่จัดตั้งฝ่ายรัฐบาลให้ได้เสียก่อน
นั่นจึงจะทำให้ความฝันของผู้ชายที่ชื่อ "ลุงมิ่งขวัญ" ได้เป็นความจริง!
ผู้เขียน:เดชจิวยี่
กราฟิก:sathit chuephanngam