ก็เป็นเรื่องดี ถ้า นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเสนอ ร่างพระราช-กฤษฎีกา ปิดสมัยประชุมสภา ต่อ ครม.ในวันนี้ เพื่อยุติปัญหาความวุ่นวายในบ้านเมืองลงชั่วคราว จากกฎหมายปรองดองที่ไม่มีเรื่องปรองดอง เพื่อตั้งสติกันใหม่เพราะ ชื่อกฎหมาย กับ เนื้อหาในกฎหมาย เป็นคนละเรื่องเดียวกัน ตามนิสัย ลับ–ลวง–พราง ที่ติดตัว พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้เสนอ ซึ่งมีพฤติกรรมน่าสงสัย พล.อ.สนธิ สารภาพกับ นักข่าวมติชน แบบไม่อายว่า ตัวเองไม่ใช่นักกฎหมาย ไม่ใช่คนร่างกฎหมายปรองดองที่เสนอสภา “ถามรายละเอียดในนั้น ผมก็คงไม่รู้ทั้งหมด” ถ้าจะให้ตีความก็น่าสงสัยว่า “รับจ๊อบ” มาเสนอแทน

งาน “วิสาขบูชา” ที่ผ่านมา นายกฯยิ่งลักษณ์  ได้แสดงสุนทร- พจน์ต่อที่ประชุม ประมุขสงฆ์ 85 ชาติ ว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญ กับการฉลองพุทธชยันตี เพื่อให้ชาวพุทธทั่วโลกเห็นว่า หลักธรรมทางพุทธศาสนามีความสำคัญ ช่วยสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในโลก มีหลักคำสอนไม่ให้ใช้ความรุนแรง สอนให้ทุกคนเคารพซึ่งกันและกัน เรื่องสันติภาพและการไม่ใช้ความรุนแรง เวลานี้เหมาะสมกับประเทศไทย เพื่อก่อให้เกิดความสงบสุขอย่างแท้จริง

ที่ประชุมสงฆ์ 85 ประเทศ ยังได้ประกาศ “ปฏิญญากรุงเทพมหานคร” 8 ข้อ โดย ข้อที่ 1 ขอให้พยายามปฏิบัติตาม “หลักอริยมรรค 8” ที่ พระพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้เมื่อ 2,600 ปีก่อน เพื่อสร้างสันติภาพแก่ชาวโลก และลดความขัดแย้งในมิติต่างๆ

ปฏิญญากรุงเทพมหานคร เรียกร้องให้ รัฐบาลทั่วโลก ต้องช่วยกันยุติความขัดแย้งทางสังคมและการเมือง โดยประยุกต์คำสั่งสอนในพระพุทธศาสนาในเรื่องการให้อภัย อหิงสา กรุณา และขันติธรรม อย่างชาญฉลาด

ในคอลัมน์ของผมตรงนี้ฉบับเมื่อวานนี้ ผมก็เขียนเรียกร้องให้ นักการเมืองไทย และ คนไทย ปฏิบัติตามหลักธรรม “อริยมรรค 8” หรือ “มรรค 8” เพื่อดับทุกข์ของบ้านเมืองอันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางสังคมและการเมือง

...

ในเมื่อ นายกฯยิ่งลักษณ์  แสดงสุนทรพจน์ เรียกร้องให้นำหลักธรรมในพุทธศาสนามาสร้างสันติภาพและลดความรุนแรง ผมก็ขอเสนอ นายกฯยิ่งลักษณ์ ให้นำหลักธรรมเรื่อง“มรรค 8” ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติเพื่อให้พ้นทุกข์ และความขัดแย้ง มาใช้ในการบริหารบ้านเมือง รณรงค์ให้คนไทยทุกคน รวมทั้ง นักการเมือง  และ ข้าราชการ  ยึดมั่นในหลักธรรมแห่ง “มรรค 8” เพื่อนำไปสู่ความสงบสุขสันติภาพและความเจริญของบ้านเมืองอย่างแท้จริง

มรรค 8 มีอะไรบ้าง ผมเขียนไปแล้วเมื่อวานนี้ วันนี้ขอนำมาทบทวนอีกครั้ง

1. มีปัญญาชอบ คือ ใช้ปัญญาความรู้ความเก่งที่มี คิดปฏิบัติไปในทางที่ดี ไม่คิดปฏิบัติในทางชั่ว โดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมคุณธรรม ใช้วิชามารลับ-ลวง-พราง อย่างไรก็ทำหมด เพื่อประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง

2. มีดำริชอบ คือ คิดไปในทางที่ดีตลอดเวลา ไม่คิดไปในทางร้าย

3. มีการเจรจาชอบ คือ พูดแต่สิ่งสร้างสรรค์ ไม่พูดไปในทางร้าย หรือพูดจาให้ร้ายกันอย่างไร้สาระ อย่างที่พูดกันในสภาของฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล

4. ประพฤติชอบ คือ ประพฤติตัวไปในทางที่ดี ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ไม่ประพฤติตัวไปในทางที่เลวร้าย ลับ-ลวง-พราง และไม่ประพฤติไปในทางที่เสื่อมเสีย

5. มีอาชีพชอบ คือ ทำมาหากินโดยสุจริต ไม่ทุจริตคดโกง ไม่ไปจ่ายใต้โต๊ะเพื่อชนะการประมูลงาน ทุกอาชีพก็จะมีแต่ความเจริญ

6. มีความเพียรชอบ คือ เพียรทำความดี แม้จะไม่มีคนเห็นก็ไม่ท้อ

7. มีสติชอบ คือ มีความรู้ตัวอยู่เสมอ จะทำแต่สิ่งที่ดี ไม่ทำชั่ว

8. มีสมาธิชอบ คือ มีความตั้งมั่นที่จะทำดี มีคุณธรรม แล้วฝึกจิตให้ตั้งมั่น ไม่วอกแวกไปกับอามิสไหลไปตามเงินที่ไหลมา

ถ้า นายกฯยิ่งลักษณ์  นำหลัก “มรรค 8”   ไปประยุกต์ใช้ในรัฐบาล ก็จะได้ชื่อว่าเป็น นายกฯคนแรกในโลก ที่นำหลักธรรมไปใช้บริหารประเทศ จะเป็นกุศลกรรมอันยิ่งใหญ่ ส่งให้ คุณปู ได้เป็นนายกฯไปอีกนานทีเดียว.

“ลม เปลี่ยนทิศ”