"รองนายกฯ ประวิตร" ลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี ติดตามงานด้านการบริหารจัดการน้ำหวังป้องกันแก้ไขปัญหาทั้งน้ำท่วมน้ำแล้ง โดยเร่งรัดแผนงานพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่างให้แล้วเสร็จ

เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 8 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมด้วย นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และคณะ ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และพบประชาชนในพื้นที่อยุธยา และสระบุรี โดยเริ่มจากติดตามแผนงาน และโครงการสำคัญในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ณ วัดสะตือพุทธไสยาสน์ ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตร และคณะได้ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำของ จ.สระบุรี ณ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ สระบุรี อ.หนองแค 

ทั้งนี้ การลงพื้นที่ พล.อ.ประวิตร ได้มอบนโยบายให้กับหน่วยงานต่างๆ โดยพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีสภาพโดยรวมเป็นที่ราบลุ่มอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จึงมักประสบปัญหาน้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือน พื้นที่ทำกิน รวมถึงพื้นที่เศรษฐกิจ จึงมอบหมาย สทนช. เร่งรัดการดำเนินการตามแผนการบรรเทาอุทกภัยพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง 9 แผน โดยเฉพาะโครงการคลองระบายน้ำชัยนาท-ป่าสัก ป่าสัก-อ่าวไทย และบูรณาการหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ อ.ท่าเรือ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำเขื่อนพระรามหก มอบกรมชลประทานเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงการระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร ให้แล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้ รวมถึงซ่อมแซมอาคารชลประทานให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน เพื่อเตรียมรับฤดูน้ำหลากที่จะมาถึง พร้อมมอบให้กรมโยธาธิการและผังเมืองเร่งก่อสร้างกำแพงป้องกันน้ำท่วมบริเวณเขตโบราณสถาน เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น

...

สำหรับพื้นที่ จ.สระบุรี พล.อ.ประวิตร ได้สั่งให้ดำเนินการตามแผนงานโครงการเร่งด่วนไปแล้วหลายโครงการ ทั้งงานปรับปรุงซ่อมแซม งานเพิ่มประสิทธิภาพและการระบายน้ำ แต่ยังคงมีแผนงานที่ต้องขับเคลื่อน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาด้านทรัพยากรน้ำได้อย่างครอบคลุมทั้งระบบ จึงมอบ สทนช. เร่งบูรณาการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบให้เกิดรูปธรรม มอบกรมชลประทานเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงการด้านทรัพยากรน้ำโครงการคลองระบายน้ำหลากชัยนาท-ป่าสัก  ป่าสัก-อ่าวไทยและปรับปรุง บำรุงรักษา ซ่อมแซมอาคารชลประทาน ระบบระบายน้ำให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร ยังมอบนโยบายเกี่ยวกับทั้ง จ.พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี เพิ่มเติม โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตาม 10 มาตรการรองรับฤดูแล้งและรายงานผลต่อคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) อย่างต่อเนื่อง และขอให้ทั้ง 2 จังหวัด เร่งสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์โครงการด้านทรัพยากรน้ำ รวมถึงสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในโครงการต่างๆ ของหน่วยงานรัฐอย่างต่อเนื่อง

นายชยันต์ กล่าวว่า รัฐบาลได้ดำเนินการตามแผนบรรเทาอุทกภัยพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง มีผลการดำเนินงานที่ผ่านมาปี 2561-2565 มีแผนงาน/โครงการ จำนวน 1,058 แห่ง/บ่อ พื้นที่รับประโยชน์ 228,806 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 15,592 ครัวเรือน ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ระยะทางประมาณ 11,400 เมตร สำหรับปีงบประมาณปี 2566-2567 นั้น มีตัวอย่างโครงการสำคัญที่จะดำเนินการ ได้แก่ โครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนบางปะอิน โครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร ประตูระบายน้ำปากคลองบางหลวง ต.บางหัก อ.บางบาล เป็นต้น สำหรับการพัฒนาพื้นที่ จ.สระบุรี มีผลการดำเนินงานปี 2561-2565 มีแผนงาน/โครงการจำนวน 668 แห่ง/บ่อ พื้นที่รับประโยชน์ 82,390 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 11,925 ครัวเรือน มีดำเนินการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งระยะทาง 2,460 เมตร