ถึงจะช้าไปหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าไม่มากับเสียงทักท้วงของ สภาพัฒน์ และ ทีดีอาร์ไอ ปนความกังวลต่อนโยบายที่ใช้หาเสียงของบรรดาพรรคการเมืองทั้งหลาย

ที่มุ่งอัดฉีด ลด-แลก-แจก-แถม

อาทิ “ป้อม 700” เติมเงินใส่บัตรประชารัฐเป็น 700 บาท/เดือน ของพลังประชารัฐ

ซึ่งถูกเบิ้ลบลัฟด้วย “ตู่ 1,000” บัตรสวัสดิการพลัส, เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ รวมไทยสร้างชาติ

พักหนี้ 3 ปี ปลอดต้น ไร้ดอก ของภูมิใจไทย

ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท จากเพื่อไทย

เงินช่วยชาวนา 3 หมื่น ช่วยประมง 1 แสน โดยประชาธิปัตย์

หรือชุดสวัสดิการก้าวหน้า ของก้าวไกล

ที่ยกมา คือพรรคการเมืองหลักๆ ที่คาดว่าจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หรือไม่ก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาล

ยังมีอีกหลายพรรค ที่ทยอยเปิดตัวนโยบายหาเสียง เพื่อเป็นอีกทางเลือกของประชาชน

ภาพรวมของทุกพรรค มุ่งเน้นไปที่ประชานิยม เพื่อหวังผลต่อคะแนนเสียงจากกลุ่มเป้าหมาย ที่มีสิทธิเลือกตั้ง

ยังคงเน้นไปที่การแจกเงิน และเพิ่มเงินอัดฉีดให้กับประชาชนในแต่ละกลุ่ม

บางพรรคก็แจกแจงที่มาที่ไปของเงินงบประมาณที่จะนำมาใช้ได้

แต่บางพรรคก็ไม่สามารถแจกแจงได้ ว่าจะเอาเงินมาจากแหล่งใด เพราะถนัดแต่กู้ๆๆ แล้วก็กู้ แถมยังเหนียมไม่กล้าใช้คำว่า “ประชานิยม”

ไพล่ไปประดิดประดอย ใช้คำ “รัฐสวัสดิการ” แทน

ทั้งที่ประชานิยมกับรัฐสวัสดิการ มันก็แค่เส้นแบ่งบางๆ

แต่ความหมาย หรือนัยแห่งการใช้เงินลงไปอัดฉีด มันก็คล้ายกันนั่นแหละ

อยู่ที่เจตนาของผู้ใช้ ต้องการอัดฉีดเป็นยากล่อมประสาทชาวบ้าน ให้หลงเคลิ้ม จนไม่สามารถยกระดับพัฒนามายืนอยู่บนขาตัวเองได้

...

หรือจะใช้ เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ไปพร้อมกับการพัฒนาวิชาชีพ จนสามารถขึ้นมาแข่งขันได้

ทั้งหมดนี้ต้องควบคู่ไปกับการวางนโยบายแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ให้ทันกับการพัฒนาของประเทศในอนาคต

ที่สำคัญคือการวางแผน การกำหนดนโยบาย ต้องทำให้เป็นระบบ

การจะเพิ่มรายได้ให้ประชาชน คือต้องทำนโยบายที่ทำให้ประชาชนเข้มแข็ง พึ่งพาตัวเองได้

ต้องให้แบบมีเงื่อนไข คือปลุกศักยภาพทำงานแลกกับเงิน ที่รัฐจะสนับสนุน

เท่าที่ดูพรรคการเมืองส่วนใหญ่ ยังคงเน้นไปที่การแจก

เพราะยังไม่สามารถแหวกกรอบความคิดเดิมๆได้

สุดท้ายก็กลายเป็นภาระงบประมาณ

ต้องไปก่อหนี้ก่อสินมหาศาล จนต้องขยายเพดานกู้เงินกันหลายรอบ

ที่ผ่านมา สภาพัฒน์ ทำตัวเป็นลูกคู่ ลูกไล่ รัฐบาลนี้มาตลอด

ความจริงควรจะออกมาท้วงติงตั้งนานแล้ว แต่ก็เงียบ

ก็ยังดีที่มาคิดได้ตอนนี้ ก่อนที่มันจะสายไปกว่านี้

ไม่รู้ว่าคำทักท้วงนี้ จะไปเข้าหูบรรดาพรรคการเมืองทั้งหลายหรือไม่.

เพลิงสุริยะ