"บิ๊กตู่" เข้าแอดมิต รพ. มืออักเสบต้องงดเดินสาย หมอจับฉีดยาใส่เฝือกอ่อน

เพื่อไทยขนทัพใหญ่ยึดโคราช “ประเสริฐ” ยก “อุ๊งอิ๊ง” นารีขี่ม้าขาว “สุทิน” อวยต่อฟ้าประทาน “ลูกทักษิณ” “อุ๊งอิ๊ง” หยอด “เศรษฐา” เหมาะผู้นำ ออกตัวแทนปมนายกฯแค่ตั้งใจผลักดันนโยบาย “พิธา-ปิยบุตร” ตระเวนขอนแก่นทวงคืนเขต ส.ส.งูเห่า ก.ก.ไม่สน กกต.แบ่งเขตใหม่ พร้อมสู้แบบแฟร์ๆกับ “เศรษฐา”-พท. “บิ๊กตู่” จ๋อย เข้าพระมงกุฎฯ เช็กมือขวาอักเสบหนัก ต้องฉีดยาแก้อักเสบ เข้าเฝือกอ่อน หมอสั่งงดภารกิจลงพื้นที่ ต้องยกเลิก-เลื่อนงานที่ราชบุรี-สงขลา-ฉะเชิงเทรา-ยะลา-ระนอง เจ้าตัวฝากขอบคุณทุกกำลังใจ “ลุงป้อม” ไปนครศรีฯร่วมจิบชา แห่ผ้าขึ้นพระธาตุฯ รับปาก “จุลเจิม” ก้าวข้ามขัดแย้ง “สมชัย” ฉะ กกต.ไม่ใส่ใจทำงาน “กรณ์” จี้ กกต.แบ่งเขตต้องยึดประชาชน

คอการเมืองจับตาหลังนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ประกาศหากไม่ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็จะขอทำงานอยู่เบื้องหลังคอยให้คำปรึกษา เพราะตำแหน่งนายกฯสามารถผลักดันนโยบายที่ตั้งใจเสนอไว้ตอนหาเสียง ไปทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและประเทศได้

“ชลน่าน” ย้ำกาเพื่อไทยไล่ “ตู่”

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 มี.ค.ที่อาคารกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เทศบาลเมือง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นายพานทองแท้ ชินวัตร พี่ชาย น.ส.แพทองธาร นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย และแกนนำพรรค เปิดเวทีปราศรัยใหญ่มีประชาชนเข้าร่วมจนเต็มพื้นที่ นพ.ชลน่านปราศรัยว่า ตั้งใจยกทัพใหญ่มาโคราช เพราะมี ส.ส.มากถึง 16 เขต ต้องปักธงแลนด์สไลด์เพื่อไทยเท่านั้น เดือนที่แล้วโพลที่ทำโดยหน่วยงานลับรายงานว่าเพื่อไทยจะได้ 270 ที่นั่งทั่วประเทศ หากต้องการเพื่อไทยเป็นรัฐบาลต้องกาทั้งสองใบ ไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ออกไป ถ้าไม่ได้ 250 เราจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้

ยก “อุ๊งอิ๊ง” นารีขี่ม้าขาวมาช่วย

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคพท. ปราศรัยว่า เป็นคนโคราชตัวจริงเสียงจริงไม่เหมือนบางคนบอกว่าเป็นคนโคราช แต่ไม่มีบ้านอยู่โคราช แอบใช้บ้านหลวงใช้ไฟฟรี โคราชเป็นเมืองหญิงกล้า วันนี้ น.ส.แพทองธารเป็นอีกหนึ่งหญิงกล้า เปรียบเป็นนารีขี่ม้าขาวมาอาสากอบกู้วิกฤติ ถึงเวลาสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงของโคราชแล้ว 8 ปี แห่งการเปลี่ยนแปลงไม่มีอะไรดีขึ้นเลย บอกว่าจะปฏิรูปหลายอย่างเอา ส.ว.ที่ตัวเองแต่งตั้งเลือกนายกฯอย่างหน้าด้าน คนไทยตัวเล็กลงแต่ระบบราชการใหญ่ขึ้น ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลราคาสินค้าเกษตร ทั้งอ้อย ข้าว ข้าวโพด จะราคาสูงขึ้น ราคาปุ๋ยลดลง รวมทั้งจะฟื้นฟูโครงการสินค้าโอทอปที่เกิดในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ดังนั้นเพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์ถ้าไม่แลนด์สไลด์ คนที่เราไม่อยากให้เป็นนายกฯจะกลับคืนมา

อวยฟ้าประทาน “ลูกทักษิณ”

นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค พท. ปราศรัยว่า ปี 40 ฟ้าดินประทานนายทักษิณ ชินวัตร มาช่วยแก้ไขปัญหา ปีนี้ฟ้าดินประทานลูกสาวมาช่วย อย่างนี้ประชาชนจะอยู่ต่อกับ พล.อ.ประยุทธ์หรือ ถ้าเราไม่แลนด์สไลด์ก็เสร็จมัน พล.อ.ประยุทธ์และสี่พรรคร่วมรัฐบาลกลับมาอีก เลือกตั้งคราวหน้าต้องเพื่อไทยทั้งสองใบ พล.อ.ประยุทธ์ก็เสร็จเรา แต่ถ้าเลือกใบเดียวเราเสร็จเขา

ดันผ้าไหมปักธงชัยไปเวทีโลก

ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ปราศรัยว่า ตั้งท้อง 7 เดือนกว่าแล้ว วันนี้เจอพี่น้องขนาดนี้แรงมันมา ใจมันฟู ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเราจะผลักดันผ้าไหมปักธงชัยไปสู่ระดับโลก ที่ผ่านมาเกิดรัฐประหารหยุดประเทศ หยุดความเจริญ และหยุดความกินดีอยู่ดี เพื่อไทยต้องกลับมาทำให้พี่น้องกินดีอยู่ดีอีกครั้ง ย้ำว่าพี่น้องทุกคนต้องมีที่ดินทำกินถ้วนหน้า จัดพื้นที่กักเก็บน้ำชุมชนแก้ปัญหาน้ำท่วม หาทางระบายน้ำออกทะเล และยกระดับถนนสาธารณะให้สัญจรได้สะดวกสบาย ด้วยนโยบายที่ทำได้จริง เราขอแลนด์สไลด์ทั้งโคราช

“เต้น” แซะมี ผอ.ไว้สู้กับครูใหญ่

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์มาโคราชเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้พี่น้องอกสั่นขวัญแขวน เพื่อไทยมาวันนี้เรามาปลด พล.อ.ประยุทธ์ กับพวก และมาทวงเก้าอี้นายกฯคืน ไล่ พล.อ.ประยุทธ์กลับบ้าน ถามว่าอยากอยู่ต่อไปเพื่ออะไร อยู่เพื่อเอากัญชาใส่มือเด็กพี้กันจนตาเยิ้มหรือ แต่เพื่อไทยไม่เอา ถึงจุดที่ประชาชนต้องจับมือช่วยกันแล้ว ถามผู้สมัครว่าที่นี่แข่งกับใคร เขาบอกว่าแข่งกับครูใหญ่ แต่ไม่ต้องไปกลัว เพราะเพื่อไทยมี ผอ.ที่เข้มข้นเหมือนกัน ทันทีที่ประกาศนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และทีมเศรษฐกิจ คนที่อยู่ทำเนียบออกอาการแต๋วแตก กล่าวหาว่าประเทศไม่ใช่ธุรกิจ แต่วันนี้เรามียามที่นั่งอยู่ในทำเนียบ แล้ววันนี้เราจะไปสักการะย่าโม เรายืนยันว่าเราไปขออะไรแล้ว เราจะไม่ถอนคำสาบาน

“อุ๊งอิ๊ง” หยอด “เศรษฐา” เหมาะผู้นำ

ต่อมาเวลา 13.30 น. น.ส.แพทองธาร และคณะ รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 16 คน เดินทางไปกราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) เพื่อความเป็นสิริมงคล และทำพิธีชักดาบประกาศชัยชนะ และห่มสไบให้ย่าโม มีประชาชนมารอต้อนรับให้กำลังใจจำนวนมาก น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ว่า หวังว่าที่โคราชต้องแลนด์สไลด์ ส่วนคำอธิษฐานขอไว้ในใจแล้ว เมื่อถามว่าการได้นายเศรษฐา ทวีสิน มาร่วมงานด้านเศรษฐกิจ จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจให้ชาวโคราชอย่างไร น.ส.แพทองธารตอบว่า หลังพรรคเปิดตัวทีมเศรษฐกิจและรวมถึงนายเศรษฐารู้สึกมีกำลังใจว่าเราได้คนที่มีความสามารถจริงๆ เข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศ เป็นความหวังที่ทีมเศรษฐกิจเราแข็งแรง มีแต่คนเก่งๆ ตอนอยู่ในธุรกิจโรงแรมมีการขอคำปรึกษาอยู่บ่อยครั้ง เมื่อถามต่อว่านายเศรษฐาคือหนึ่งในผู้ที่เหมาะสมเป็นนายกฯใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า “ส่วนตัวเห็นว่าเหมาะสมแน่นอน ท่านเป็นคนเก่ง มีความสามารถ และอิ๊งคิดว่าจากการ บริหารธุรกิจจนประสบความสำเร็จมาก ไม่ใช่ใครๆก็ทำได้”

ออกตัวแทนตั้งใจดันนโยบาย

เมื่อถามว่านายกฯระบุว่าการบริหารประเทศไม่ใช่การบริหารธุรกิจในครอบครัว น.ส.แพทองธารตอบว่า เป็นการแสดงความเห็นของท่าน แต่คิดว่าการบริหารไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยหลายความคิด หลายสมอง หลายความรู้เข้ามาช่วยกัน เมื่อถามว่านายเศรษฐาประกาศชัดว่าตำแหน่งที่ต้องการคือนายกฯ น.ส.แพทองธารตอบว่า นายเศรษฐาคงต้องการพูดว่าต้องการขับเคลื่อนนโยบาย ก่อนเปิดตัวก็เข้ามาช่วยงานด้านนโยบายอยู่แล้ว ยังบอกว่าตำแหน่งนายกฯเป็นตำแหน่งที่ผลักดันนโยบายได้มากที่สุด ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้สนใจจะเป็นนักการเมือง คงพูดในภาพรวมว่าถ้าจะเป็นจริงๆ นายกฯจะสามารถผลักดันนโยบายได้ แต่ตำแหน่งอื่นๆท่านไม่ได้มีความรู้และความสนใจ เมื่อถามว่าท่าทีนายเศรษฐาเป็นการกดดันพรรคหรือไม่ น.ส.แพทองธารรีบตอบว่า “ไม่เลยค่ะ ท่านก็พูดเองว่าหากไม่เสนอท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร ท่านก็ทำเรื่องนโยบายอย่างนี้ คุณเศรษฐาไม่ได้พูดว่าต้องเป็นนายกฯเท่านั้น ไม่งั้นไม่ช่วย ไม่ใช่เลยค่ะ คุณเศรษฐาช่วยมาตลอด”

วางคิวลุยพื้นที่จนถึงปลาย มี.ค.

เมื่อถามอีกว่าจะส่งไม้ต่อให้นายเศรษฐาอย่างไร หลังจากนี้ต้องพักการลงพื้นที่บ้าง น.ส.แพทองธารตอบว่า ไม่ได้ส่งไม้ต่อเฉพาะนายเศรษฐาเท่านั้น แต่ส่งให้ทุกคนที่ต้องช่วยกัน ช่วงใกล้คลอดอาจต้องเว้นการลงพื้นที่บ้าง แต่ตอนนี้ยังไหวอยู่ วางคิวงานไว้ถึงปลายเดือน มี.ค. จะมีการปรึกษากับคุณหมอไปเรื่อยๆ ที่เรามานี้เราไม่ได้โหดร้ายกับตัวเอง

ขอให้มั่นใจทีมเดิมกลับมาแล้ว

ต่อมาที่ตลาดเมืองคง อ.คง จ.นครราชสีมา น.ส.แพทองธารขึ้นเวทีปราศรัยจุดที่สอง มีประชาชนมารอรับฟังจนล้นพื้นที่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เมื่อ 20 ปีที่แล้ว เคยมา อ.คง ช่วยนายทักษิณหาเสียง ขอบคุณการต้อนรับที่อบอุ่นเหมือนเดิม นโยบายที่จะพัฒนานครราชสีมาและภาคอีสานเสียหายเพราะถูกรัฐประหารทำให้ชะงัก นโยบายที่เราพูดแล้วทำได้ทุกครั้ง ขอให้มั่นใจทีมเดิมยังคงอยู่ ประชาชนจะอยู่ดีกินดีอีกครั้ง ขอฝากว่าที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยทั้ง 16 คน ขอให้เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค

ห้ามไม่ให้พูดถึง “ทักษิณ” ไม่ได้

จากนั้นเวลา 17.30 น. ที่เวทีปราศรัยใหญ่สนามหน้าศาลากลาง อ.เมืองนครราชสีมา น.ส.แพทองธารปราศรัยอีกรอบว่า เห็นคนเยอะขนาดนี้มันฮึกเหิมจริงๆ ท้อง 7 เดือนไม่เหนื่อยเลยประชาชนมาเยอะมาก ทำให้มีกำลังใจมาบอกเล่านโยบาย ยังจำนายทักษิณ (ชินวัตร) กันได้หรือไม่ ที่จะห้ามไม่ให้พูดถึง ห้ามได้อย่างไร เพราะนายทักษิณยังอยู่ในใจประชาชน ถ้าไม่มีรัฐประหารตอนนี้โคราชคงมีรถไฟความเร็วสูงไปแล้ว ถ้าอยากพัฒนาภาคอีสานต้องเริ่มจากโคราช เกษตรกรทำงานมากแต่ได้รายได้น้อย ประชาชนเป็นหนี้เป็นสิน อยากได้พรรคเพื่อไทยมาล้างหนี้หรือไม่ วันนี้เรามีสามนโยบายมาให้ชาวโคราชโดยเฉพาะ ทั้งเรื่องที่ดินทำกิน แก้ปัญหาน้ำท่วม และพักหนี้เกษตรกร 3 ปี และเพื่อไทยมายาเสพติดต้องหมดไป

“ทิม-ปิยบุตร” ทวงคืนเขตงูเห่า

ที่ จ.ขอนแก่น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ผู้ช่วยหาเสียง พร้อมนายวีรนันท์ ฮวดศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 1 ขับรถซาเล้งนำขบวนประชาธิปไตย ตระเวนหาเสียงจากตลาดบางลําภู ไปยังอนุสาวรีย์พระนครศรีบริรักษ์ เขตเลือกตั้งนี้เมื่อปี 2562 พรรค ก.ก.ชนะเลือกตั้งแต่สุดท้ายกลายเป็นงูเห่าย้ายไปอยู่พรรครัฐบาล โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีพ่อค้าแม่ค้ามาขอถ่ายรูป ชมพรรคก้าวไกลมีแต่คนหล่อบางคนวิ่งนำขนมมาให้ ระหว่างทางยังมีชาวบ้านขับมอเตอร์ไซค์เข้ามาถามว่ารอบนี้จะมีงูเห่าอีกไหม นายปิยบุตรตอบทันทีว่า รอบนี้ไม่มีแน่นอน

สวดอัญเชิญเทวดาฝากตัวผู้สมัคร

ต่อมา นายพิธา นายปิยบุตร และคณะ ร่วมกันสักการะอนุสาวรีย์พระนครศรีบริรักษ์ พร้อมสวดบทอัญเชิญเทวดา ฝากตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคให้ไปทำงานเพื่อบ้านเมือง จุดนี้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่มารอฟังการปราศรัย โดยพรรค ก.ก.ชูนโยบายเปลี่ยนงบกองทัพเป็นสวัสดิการผู้สูงอายุ นายพิธากล่าวปราศรัยพาดพิง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค พปชร.ว่า มีเราไม่มีแล้ง มีแต่เลื่อนกับลอยแต่ถ้าเลือก ก.ก. เราจะแก้ปัญหาน้ำแล้งจากเส้นเลือดฝอย ด้านนายปิยบุตรกล่าวว่า นโยบายสวัสดิการน้ำประปาดื่มได้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยประชาชน เพื่อประเทศของเรา เพราะประเทศนี้เป็นของประชาชนทุกคน ไม่ใช่ของ 2 ลุง

ชาวน้ำพองเฮลั่นล้างหนี้ ธ.ก.ส.

จากนั้น ช่วงบ่ายที่ศาลาอเนกประสงค์วัดสมศรี อ.นํ้าพอง จ.ขอนแก่น คณะหาเสียงพรรคก้าวไกล เปิดเวทีปราศรัยช่วยนายชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 3 หาเสียง นายพิธาประกาศชูนโยบายขึ้นเบี้ยผู้สูงอายุ จาก 600 บาท เป็น 3,000 บาทต่อเดือน สุราก้าวหน้า และสังคายนากองทัพเปลี่ยนงบกองทัพเป็นสวัสดิการให้หมด และเลือกตนเป็นนายกฯคนต่อไป ให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิมสำหรับพี่น้องที่เป็นหนี้ ธ.ก.ส. และอายุเกิน 60 ปี หากผ่อนชำระไปเกินครึ่งแล้ว เราได้เป็นรัฐบาลหนี้ส่วนที่เหลือจะออกให้เอง ทำให้ชาวบ้านที่มาฟังต่างส่งเสียงเฮและปรบมือจนดังกระหึ่ม

นายปิยบุตรปราศรัยว่า วันนี้ 2 ลุงแยกกันเดิน ทำเป็นเนียน แต่เรารู้ทันว่าสุดท้ายจะมารวมกัน ขอให้เลือกพรรค ก.ก.เข้าไปหยุด 3 ป. หากได้นายพิธาเป็นนายกฯ จะไปได้ทั่วโลกแบบไม่อายใครแน่นอน

ไม่สน กกต.แบ่งเขตใหม่พร้อมสู้

นายพิธาให้สัมภาษณ์ว่า เลือกตั้งครั้งนี้เราอยากได้ ส.ส.เขต มากกว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ อยากได้ให้ครบทุกเขต ทุกภูมิภาค โดยเฉพาะภาคใต้ รวมถึงได้คะแนนป๊อปปูลาร์โหวตมากกว่าสมัยอนาคตใหม่ ที่ได้ 6.3 ล้านคะแนน หักลบคะแนนพรรคไทยรักษาชาติ จะเหลืออยู่ประมาณ 5 ล้านเสียง เมื่อถามว่าได้รับผลกระทบจากการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่หรือไม่ นายพิธายืนยันว่าสู้ทุกรูปแบบ จ.เชียงใหม่และเชียงราย เขตอาจหายไป แต่ จ.ปัตตานีที่เพิ่มขึ้น โพล ก.ก.ถือว่าดี เป็นจังหวัดที่มีสัดส่วนผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งแรก และครั้งที่สอง เยอะที่สุดในประเทศ ยังพอมีลุ้นที่จะรักษาเขตเดิม และเพิ่มเติมเขตใหม่ เราคาดไว้แล้วคงแบ่งเขตให้ผู้มีอำนาจได้ประโยชน์

ขอสู้กันแฟร์ในสนามกับ พท.

เมื่อถามพรรคเพื่อไทยตั้งทีมเศรษฐกิจ และเปิดตัวนายเศรษฐา ทวีสิน จะรับมืออย่างไร นายพิธาตอบว่า เราพร้อมรับมือและแข่งขัน แต่ก็พร้อมร่วมมือกับ พท. เราต้องแข่งขันกันในเชิงนโยบาย หากผลเลือกตั้งออกมาเราก็พร้อมจะร่วมมือกันทำงาน เมื่อถามถึงนิด้าโพลระบุ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น นายพิธาตอบว่า ก.ก.ตั้งใจทำงานตอบสนองต่อคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น ความนิยม ก.ก.ยังมีอยู่ แต่ไม่ประมาท ไม่มีใครเป็นเจ้าของประชาชน ต้องให้เกียรติประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก ทำให้รู้สึกว่าการเลือกตั้ง เป็นการสร้างโอกาสของการเปลี่ยนแปลงให้สมกับที่ต้องการ

ชัดไม่จับมือพรรคทหารจำแลง

เมื่อถามว่าหาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไปจับมือกับ พท. ก.ก.มีจุดยืนอย่างไร นายพิธาตอบว่า จุดยืนเราชัดเจนว่าพรรคทหารจำแลง อย่างพรรค รทสช. และ พปชร. ไม่มีพรรคก้าวไกลอยู่ในนั้นแน่นอน เราไม่มีทางที่จะไปอยู่ ครม.เดียวกันกับ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์แน่นอน เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าฐานเสียง พท. กับ ก.ก.ใกล้เคียงกัน นายปิยบุตรตอบว่า ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าท้ายที่สุดจะเลือกเพื่ออนาคต ไม่จมปลักอยู่กับปัญหาเดิมๆ ก.ก.ตอบโจทย์เรื่องนี้ เท่าที่ติดตามดูโพลพบว่าฝ่ายค้านปัจจุบันคะแนนรวมกันประมาณ 60% ตีเป็นจำนวน ส.ส. 300 ที่นั่ง ดังนั้น พรรคร่วมฝ่ายค้านปัจจุบันทั้งหมดจะได้ ส.ส. ประมาณ 300 ที่นั่ง คิดเป็นอื่นไม่ได้นอกจากจับมือร่วมกันตั้งรัฐบาลสามารถปิดสวิตช์ ส.ว. และ 3 ป. ได้ เมื่อถามย้ำว่าหมายความว่า ก.ก. กับ พท.จับมือกันใช่หรือไม่ นายปิยบุตรตอบว่า สุดท้ายอยู่ที่ผลการเลือกตั้ง

อ้อนคนนครนายกเลือก ภท.

ที่ จ.นครนายก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นำผู้บริหารพรรคไปช่วยนายวุฒิชัย กิตติธเนศวร และนายปิยวัฒน์ กิตติธเนศวร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครนายก หาเสียงที่โรงเรียนวัดวังปลาจีด นายอนุทินย้ำทั้ง 2 เวทีว่า ให้เชื่อมั่นว่าเราคือพรรคปฏิบัติการ เราพูดแล้วทำ สิ่งที่บางคนว่ายากนักยากหนา เราทำมาหมดแล้ว ทั้งนายวุฒิชัยและนายปิยวัฒน์ พ่อลูกกิตติธเนศวร ล้วนเป็นคนคุณภาพ ไม่ใช่คนอื่นไกล ขอให้เลือกเข้ามาทั้ง 2 คน ให้เราได้ทำงานรับใช้ชาวนครนายก

ช่วยบ้านใหญ่ “วิลาวัลย์” ที่ปราจีน

จากนั้นนายอนุทินเดินทางไปยังศูนย์อาหารโตริโน่ อ.เมืองปราจีนบุรี มีนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย นายชยุต ภุมมะกาญจนะ ส.ส.ปราจีนบุรี ช่วยนายอำนาจ วิลาวัลย์ หาเสียง นายอนุทินปราศรัยว่า ที่นี่มีบุญคุณกับพรรคภูมิใจไทย ที่นี่คือเกียรติยศแรก เราชนะการเลือกตั้งครั้งแรกก็ที่นี่ปี 2550 ทำให้เรายิ้มไม่หุบ นโยบายกัญชาไม่ลืมว่าชาวปราจีนบุรีอยู่เบื้องหลังความสำเร็จที่เกิดขึ้นเพราะโรงพยาบาลอภัยภูเบศร ตนอ้างชื่อชาวปราจีนบุรีคุ้มกะลาหัว ที่นี่เพิ่งมีรัฐมนตรีเป็นคนปราจีนบุรี สิ่งที่ท่านทำไว้มีคุณค่ามาก

โวย “ปิยบุตร” ยังจมกับอดีต

ที่ จ.ปทุมธานี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ขณะนำทีมช่วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี ทั้ง 7 เขตหาเสียงถึงกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เเกนนำคณะก้าวหน้า พาดพิง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. เป็นสาเหตุของความขัดแย้งตั้งแต่การสลายการชุมนุม การทํารัฐประหารว่า อยากให้ทุกฝ่าย รวมถึงนายปิยบุตรที่ยังจมอยู่กับอดีต วันนี้ไม่ใช่เวลาพูดถึงอดีต แต่ควรพูดถึงอนาคตที่เราจะต้องก้าวข้ามมันไป ไม่ควรนำเอาเรื่องการเมืองความขัดแย้งมาเป็นตัวตั้ง อะไรที่เป็นเรื่องที่ดีแต่อยู่ฝ่ายตรงข้ามก็คัดค้าน ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง อยากให้มองประชาชนเป็นศูนย์กลาง ช่วยกันแก้ปัญหาให้ประชาชน ทุกเรื่องปรองดองกันได้ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ให้การเลือกตั้งเป็นคําตอบ

“สมชัย” ฉะ กกต.ไม่ใส่ใจทำงาน

วันเดียวกัน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “บทเรียนจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ” การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ทำให้ กกต.ต้องถอยหลังในกระบวนการแบ่งเขตเลือกตั้งมากกว่า 15 วัน แทนที่จะประกาศเขตเลือกตั้งได้วันที่ 28 ก.พ. กลับต้องดำเนินการใหม่ทั้ง 77 จังหวัด รับฟังความคิดเห็นใหม่อีก 10 วัน กว่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ คงเลยวันที่ 15 มี.ค. เป็นบทเรียนว่า กกต.ขาดความใส่ใจศึกษาปัญหาการแบ่งเขต กลับใช้มุมมองแบบมีอำนาจ เคยทำแบบนี้ก็จะทำแบบนี้ ทำงานแบบไม่ประสานเรื่อยเฉื่อย ปรับตัวช้า ดื้อ ทักท้วงกลับเฉย หลบลี้หนีหน้า ไม่ชี้แจง ยิ่งทำให้ประชาชนไม่ไว้ใจ ไม่เชื่อมั่น นี่คือจุดอ่อนที่สุด ทำอะไรต้องกล้าชี้แจงกับสื่อ ประชาชนแทบไม่รู้ว่า กกต.คือใคร มีแนวทางแก้ปัญหาต่างๆอย่างไร

หมอสั่ง “บิ๊กตู่” พักมือขวาอักเสบ

สำหรับความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ช่วงเช้าวันเดียวกัน ได้เดินทางเข้าพบแพทย์ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เพื่อรับการตรวจรักษาจากอาการมือขวาบวม หลังเริ่มมีอาการตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค. จนล่าสุดลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ยังมีอาการปวดบวมอยู่ พอกลับถึงบ้านพักใน ร.1 ทม.รอ. พล.อ.ประยุทธ์ให้แพทย์ประจำตัวเข้ามาตรวจอาการ แพทย์วินิจฉัยว่ามีอาการมือขวาอักเสบ ขอให้เข้าตรวจอาการอย่างละเอียดอีกครั้ง พล.อ.ประยุทธ์จึงมาเอกซเรย์ตรวจอย่างละเอียด เบื้องต้นพบว่ามีอาการอักเสบต้องให้ยาปฏิชีวนะ และแพทย์ขอให้งดภารกิจก่อน ทั้งนี้ การลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ที่วางไว้ในสัปดาห์หน้าจนถึงวันที่ 17 มี.ค. ได้มีการยกเลิกภารกิจลงพื้นที่ทั้งที่ จ.ราชบุรี สงขลา ฉะเชิงเทรา ยะลา ระนอง ส่วนภารกิจที่ จ.เชียงใหม่ในวันที่ 17 มี.ค. ยังไม่มีการแจ้งยกเลิกหรือเลื่อน

มีอาการอักเสบผิดปกติ

กระทั่งช่วงบ่าย ยังไม่มีการแถลงจากคณะแพทย์อย่างเป็นทางการ เพียงแต่มีรายงานเบื้องต้น ว่าอาการอักเสบพบอาการผิดปกติ จำเป็นต้องรักษาและให้ยาปฏิชีวนะ รวมทั้งให้พักรักษารอดูอาการอย่างใกล้ชิด (แอดมิต) เป็นเวลา 1 คืน โดยมีทีมงานนายกฯนำกระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นไปยังอาคารสมเด็จย่า 90 ปี โดยรถเบนซ์ส่วนตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ ทะเบียน ญค 1881 กรุงเทพมหานคร และรถอัลพาร์ด ทะเบียน ธท 9797 กรุงเทพมหานครของนางนราพร ยังคงจอดอยู่ มีรายงานในเบื้องต้นว่า สืบเนื่องมาจากข้ออักเสบคล้ายนิ้วล็อก ไม่สามารถกำมือได้ทั้งหมด

ฉีดยาแก้อักเสบเข้าเฝือกอ่อน

ต่อมาเวลา 18.10 น. นายอนุชา บูรพชัยศรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เข้าเยี่ยมนายกฯที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า แพทย์ตรวจอาการและฉีดยารักษาอาการอักเสบให้ยาปฏิชีวนะ ใส่เฝือกอ่อน และให้เฝ้าดูอาการเป็นเวลา 1 คืน เพื่อตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง คาดว่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันที่ 5 มี.ค. ทั้งนี้แพทย์ที่ให้การรักษาขอให้นายกฯงดภารกิจที่ต้องเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ 5-7 วัน ทำให้จำเป็นต้องยกเลิกภารกิจไปจ.ราชบุรี และสงขลา แต่นายกฯยังเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ ก่อนประเมินอาการอีกครั้ง นายกฯยังฝากขอขอบคุณทุกคนที่ห่วงใย ส่งกำลังใจมาถึงทุกช่องทาง ยืนยันว่ายังมีสุขภาพใจสุขภาพกายที่ดี ยังทำงานและปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่คงต้องยกเลิกบางภารกิจต่างจังหวัดตามคำแนะนำของแพทย์

“ธนกร” ฟุ้งผลงาน “บิ๊กตู่” เพียบ

นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวตอบโต้แทนนายกฯที่ถูกโจมตีว่าไร้ผลงานว่า หากผู้ที่วิจารณ์เปิดใจทำความเข้าใจถึงปัญหาประเทศที่สะสมมานาน การแก้ไขต้องทำไปทีละขั้นตอน เรื่องไหนเร่งด่วนก็เร่งดำเนินการทันที อย่างพรรคเพื่อไทยถ้าลองปิดปาก แล้วเปิดตาดู จะเห็นว่าบ้านเมืองพัฒนาแล้ว และประชาชนดูออกคนไหนปลอม ไม่ต้องพึ่งบารมีเก่าแต่เราลงมือทำจริง จนประเทศดีขึ้นและจะทำต่อไป

พปชร.มั่นใจชุดนโยบายโดนใจ

ด้านนายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทีมโฆษกพรรค พปชร. กล่าวว่า จากผลโพลไลน์ ทูเดย์ พบว่าพรรค พปชร.ได้คะแนน 45,436 คะแนน มาเป็นอันดับ 2 หรือคิดเป็น 27.38% นับเป็นผลโหวตที่น่าพอใจ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของประชาชนยังนิยมใน พปชร. มั่นใจว่าระยะเวลาที่เหลือ การตัดสินใจเลือกพรรคเราจะเพิ่มขึ้น ด้วยสโลแกนของพรรค ก้าวข้ามความขัดแย้ง แก้ไขปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่ให้ประชาชนกินดีอยู่ดี สะท้อนผ่านนโยบายของพรรค อาทิ บัตรประชารัฐ 700 บาท (ป้อม 700) ดูแลทุกช่วงวัย “เบี้ยผู้สูงอายุ” ประชารัฐที่ดินทำกิน และน้ำ หลายนโยบายเป็นรูปธรรมและพร้อมสานต่อควบคู่ต่อยอดนโยบายใหม่

“ลุงป้อม” ไปนครศรีฯร่วมจิบชา

ที่ จ.นครศรีธรรมราช พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินทางลงพื้นที่เป็นการส่วนตัว มี ส.ส. ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ มารอให้การต้อนรับ โดย พล.อ.ประวิตรสวมใส่เสื้อปาเต๊ะสีสันสดใส สีหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดี พูดคุยและเซลฟี่กับแฟนคลับที่มาทักทายให้กำลังใจ ช่วงเช้า พล.อ.ประวิตรร่วมจิบน้ำชา “ริมถนน” (จิบชา กินตี แลนก) สี่แยกท่าซัก อ.เมืองนครศรีธรรมราช และไปร่วมแห่ผ้าขึ้นธาตุนครศรี ธรรมราช วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เนื่องในวันมาฆบูชา และกินข้าวกลางวัน มีเมนูผัดหมี่ปากพนัง (ผัดหมี่กะทิ) แกงเขียวหวานเนื้อ น้ำพริกกะปิ ปลาทอด คั่วหมู ต้มส้มปลากระบอก ช่วงบ่ายเป็นประธานในพิธีสมโภชผ้าพระบฏพระราชทาน ที่โรงเรียนปากพนัง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดนางพระยา และยังคงมีกลุ่มกองเชียร์มาขอเซลฟี่ และหอมแก้ม

รับปาก “จุลเจิม” ก้าวข้ามขัดแย้ง

วันเดียวกัน ม.จ.จุลเจิม ยุคล โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก หลังเข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค พปชร. ระบุว่า “เรื่องหนึ่ง ขอให้ลุงป้อมมองขึ้นไปบนฟ้าบ้าง อย่าดึงฟ้ามาเล่น อย่าเอามือไปปิดพระอาทิตย์ เหมือนบางคน บางพรรคการเมือง ไม่ดีหลอกครับลุง ลุงป้อมรับปากว่าเรื่องนี้ต้องทำ และอยู่ในใจตลอดแน่นอน ไม่ว่าได้เป็นนายกฯหรือไม่ เพราะในฐานะทหารเก่า ตั้งแต่ร้อยตรีถึงพลเอก ย่อมมีความจงรักภักดี ทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมได้ฟังแล้วรักลุงป้อมเลย ถ้ารับปากและทำจริงๆ ขอให้ทำตามที่ผมขอร้อง จะได้ข้ามความขัดแย้งสักที”

“กรณ์” หาเสียงบางคอแหลม

ขณะที่นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) พร้อมนายปรัชญา อึ้งรังษี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ลงพื้นที่พบปะประชาชนเขตบางคอแหลม ถนนเจริญกรุง กทม. มีประชาชนให้ความสนใจนโยบายยกเลิกแบล็กลิสต์ของพรรค เพราะหลายคนเจอปัญหาหนี้นอกระบบ นายกรณ์ กล่าวว่า พรรค ชพก.มีนโยบายหาเสียงที่ชัดเจนมุ่งเน้นไปที่ต้นตอของปัญหา ไม่เน้นประชานิยม มองว่าประชานิยม เช่น พักหนี้ ไม่ใช่การแก้ปัญหาแต่เป็นการผลักปัญหาออกไปโดยไม่ช่วยอะไร เราจึงเลือกนำเสนอนโยบายที่สร้างโอกาสให้ประชาชนปลดหนี้ ลดหนี้ “20 ปี ผมทำธุรกิจมา ทุกประสบการณ์เป็นประโยชน์ที่จะเข้ามาทำงานการเมือง เส้นแบ่งสำคัญของนักธุรกิจกับนักการเมือง คือจิตสาธารณะ ความเสียสละ ที่เราต้องปรับตัว”

จี้ กกต.แบ่งเขตต้องยึด ปชช.

นายกรณ์กล่าวอีกว่า ส่วนการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ของ กกต. นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค ชพก. ได้ยื่นหนังสือร้องต่อ กกต. คัดค้านการแบ่งเขตรูปแบบที่ 6, 7 และ 8 คาดว่าจะสรุปเร็วๆนี้ จึงมาหารือกับ กกต.อีกครั้งว่า การแบ่งเขตรูปแบบที่ 1-5 เป็นไปตามขั้นตอนที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว แต่รูปแบบที่ 6, 7 และ 8 ไม่ได้เป็นไปตามราชกิจจานุเบกษา ขัดต่อ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 5 อีกทั้งการแบ่งเขตรูปแบบที่ 6, 7 และ 8 แบ่งออกมาพิสดาร ขอเสนอต่อ กกต. ว่า ดีที่สุดต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ให้ความสะดวก อย่าสร้างความสับสนให้เขา ตัวกฎหมายเขียนไว้ดีแล้ว ต้องยึดตามเขตพื้นที่ที่ประชาชนคุ้นเคย อย่าไปพยายาม ซอย พยายามแบ่งให้ประชาชนเกิดความสับสน

“จุรินทร์” โอ่ใต้อย่างน้อย 40 บวก

ที่สนามบิน จ.สงขลา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง โดยเพิ่มเขตเลือกตั้งที่ จ.นครศรีธรรมราช และปัตตานีว่า เป็นเรื่องดีที่นครศรีธรรมราชกับปัตตานีจะมีผู้แทนฯเพิ่มขึ้น วันที่ 5 พรรคจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ครบทั้ง 5 เขต มีผู้สมัครครบแล้ว ส่วน จ.นครศรีธรรมราชไม่มีปัญหา เรามีตัวผู้สมัครเกินจำนวนเขตอยู่แล้ว ทำให้เขตเลือกตั้งในภาคใต้มีเพิ่มเป็น 60 เขต จากเดิม 58 เขต มั่นใจว่า ปชป.ได้ ส.ส.อย่างน้อย 40 บวก เรามั่นใจว่าพรรคอุดมการณ์ไม่เคยเปลี่ยน และ 4ปีมีผลงานเป็นรูปธรรม เที่ยวนี้ได้คนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ มีคุณภาพเข้ามาเสริมทัพมาก เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับพี่น้องคนภาคใต้

เด็ก ปชป.ดิ้นปมซื้อเสียง กก.บห.

นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลังจากเรียกร้องให้นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองหัวหน้าพรรค รทสช. นายชุมพล กาญจนะ และ น.ส.วชิรา ภรณ์ กาญจนะ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรครทสช. ที่พูดพาดพิงเรื่องการซื้อเสียงในการเลือกกรรมการบริหารพรรค ปชป.ว่า ยังคงไร้คำตอบ ต้องถามไปยัง น.ส.วชิราภรณ์ ว่าทราบเรื่องแต่กลับเก็บเงียบ ทั้งที่ควรเปิดเผยว่าบุคคลทั้ง 3 ที่ถูกกล่าวอ้างเป็นใครบ้าง จะได้เป็นพยานยืนยันว่าสิ่งที่ น.ส.วชิราภรณ์พูดมาเป็นความจริงหรือไม่ หาก น.ส.วชิราภรณ์กล่าวหาโดยไม่มีพยานหลักฐานมาหักล้าง ต้องยอมรับผลที่จะตามมาทางกฎหมายด้วย “เห็นใจ น.ส.วชิราภรณ์ที่จู่ๆถูกนักการเมืองในพรรคใช้ชื่อเพื่อหวังผลทางการเมือง หากยังมีจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อระบอบประชาธิปไตยและส่วนรวม ต้องรีบเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดโดยเร็ว”