คณะก้าวหน้า “ธนาธร-พรรณิการ์-ปิยบุตร” ผนึกกำลังขึ้นเวทีปราศรัยขอนแก่น ชี้ต้องเลือกก้าวไกล ให้ “พิธา” เป็นนายกฯ ขอคนไทยอย่าหลงเชื่อ “ประวิตร” ชี้เป็นส่วนหนึ่งของ “3 ป.” ยันรอบนี้ไม่มีงูเห่า

วันที่ 4 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวานนี้ (3 มีนาคม 2566) ที่สวนรัชดานุสรณ์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เวทีปราศรัยของพรรคก้าวไกล นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่และประธานคณะก้าวหน้า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้ร่วมเวทีปราศรัย ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล พร้อมกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล

โดยนายธนาธร ได้กล่าวถึง ในวันที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ว่า ตนเองไม่โกรธ ไม่แค้น แต่น้อยใจในโชคชะตาที่ไม่มีโอกาสมีอำนาจมารับใช้ประชาชน 4 ปีที่ผ่านมาสรุปได้อย่างหนึ่งจากประสบการณ์ของตนเอง ว่าประเทศนี้ สังคมแบบนี้กดขี่เอารัดเอาเปรียบคนส่วนใหญ่ของประเทศ ประเทศนี้เอาดอกผลของการพัฒนาไปจุนเจือให้กับคนส่วนน้อยในสังคม ให้กับอภิสิทธิ์ชนในสังคม ถ้าอยากสร้างสังคมที่ดีขึ้น ต้องกล้าชนกับโครงสร้างที่อยุติธรรม ประเทศนี้มีพรรคการเมืองเดียวที่กล้าเผชิญปัญหาที่ต้นตอ กล้าต่อสู้กับกลุ่มทุนผูกขาด ต่อสู้กับรัฐราชการรวมศูนย์ คือพรรคก้าวไกล

...

“ผมเคยเชื่อว่าพิธาจะเป็นรัฐมนตรีที่ดีคนหนึ่ง แต่วันนี้ผมเลิกเชื่อไปแล้วว่าพิธาจะเป็นรัฐมนตรีที่ดี… แต่พิธาจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุด ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าพิธาในการเป็นผู้นำพาประเทศไทยออกจากความสิ้นหวัง จุดเทียนแห่งแสงสว่างให้กับประเทศไทย” นายธนาธรกล่าวทิ้งท้าย

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่และประธานคณะก้าวหน้า ขึ้น เวทีปราศรัยของพรรคก้าวไกลที่สวนรัชดานุสรณ์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่และประธานคณะก้าวหน้า ขึ้น เวทีปราศรัยของพรรคก้าวไกลที่สวนรัชดานุสรณ์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น

ขณะที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ด้วยเสียงของคนเพียงไม่กี่คน ทำลายเสียงประชาชนกว่า 6,000,000 คน แม้ยอมรับว่าตนรู้สึกแค้น แต่การยุบพรรควันนั้นทำให้เกิดพรรคก้าวไกลที่เดินหน้าทำงานในสภาฯ เกิดคณะก้าวหน้าที่ทำงานท้องถิ่นอย่างขยันขันแข็ง


“ส.ส.ก้าวไกลวันนี้ ดีกว่า ส.ส.อนาคตใหม่ เพราะ ส.ส.อนาคตใหม่ มีเวลาทำงานในสภาเพียง 1 ปี แต่ ส.ส.ก้าวไกลที่เหลืออยู่ในสภาฯ ทุกคน ทำงานหนักอย่างต่อเนื่องตลอด 4 ปี แม้ผู้คนจะบ่นว่ายุบพรรคอนาคตใหม่ทำให้เสียปิยบุตร แสงกนกกุล ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พรรณิการ์ วานิชไป แต่กลับทำให้ได้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ รังสิมันต์ โรม อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ศิริกัญญา ตันสกุล พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ มาแทนที่ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าอนาคตใหม่ไม่ได้มีแค่ธนาธร ปิยบุตร พรรณิการ์ แต่อนาคตใหม่ ซึ่งตอนนี้คือก้าวไกล ทุกคนที่เป็น ส.ส. ได้ทำหน้าที่สมศักดิ์ศรีกับคำว่า ‘ผู้แทนราษฎร’ เป็นผู้แทนของคนตัวเล็กตัวน้อย และคนทุกกลุ่มในประเทศไทย วันนี้อนาคตใหม่และก้าวไกลรวมตัวกันไม่ใช่เพราะกระแสตก แต่ถึงเวลาแล้วที่จะลั่นกลองรบ พวกเรากลับมาแล้ว ที่นี่ที่แรกที่ขอนแก่น” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว

น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้ร่วมเวทีปราศรัย จ.ขอนแก่น ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล
น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้ร่วมเวทีปราศรัย จ.ขอนแก่น ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล

ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวปราศรัยว่า การที่เราทุกคนมารวมตัวกันวันนี้ พิสูจน์แล้วว่าการเมืองคือเรื่องของความเป็นไปได้ “เขากระทืบเราให้จมดิน แต่ไม่รู้เลยว่าเราคือเมล็ดพันธุ์ ยิ่งเหยียบยิ่งโต เขาเด็ดดอกไม้ได้ แต่หยุดฤดูใบไม้ผลิไม่ได้”

นายพิธากล่าวต่อว่า 2 เดือนก่อนหน้านี้ หลายคนบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ที่แกนนำอดีตพรรคอนาคตใหม่ จะมาช่วยพรรคก้าวไกลหาเสียง แต่พวกเราคือมิตรแท้ ผูกเสี่ยวกันไว้หมดแล้ว วันนี้เหลืออีกเพียงประมาณ 60 วันก่อนเลือกตั้ง อยากชวนให้ประชาชนเปลี่ยน 3ป. เป็น 3P “พิธา-ปิยบุตร-พรรณิการ์” เลือกตั้งทั้งที อย่าแค่เปลี่ยนรัฐบาล แต่ต้องเปลี่ยนประเทศ กาก้าวไกล ให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม

ขอให้ประชาชนเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ขอนแก่น ของพรรคก้าวไกลทั้ง 11 คนเข้าสภาฯ ยืนยันไม่มีงูเห่าแน่นอน เพราะพรรคก้าวไกลมีเวลามากกว่าพรรคอนาคตใหม่ในการคัดสรรผู้สมัคร มีถึง 4 ด่าน คือ เขียนใบสมัคร สอบสัมภาษณ์ ผ่านหลักสูตรการเมือง และลงพื้นที่หาเสียง ขอให้ประชาชนไว้ใจ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ปราศรัย ที่สวนรัชดานุสรณ์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ปราศรัย ที่สวนรัชดานุสรณ์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น

จากนั้นได้เปิดตัวรายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น พรรคก้าวไกล จำนวน 11 เขต ประกอบด้วย


เขต 1 วีรนันท์ ฮวดศรี
เขต 2 อิทธิพล ชลธราศิริ
เขต 3 ชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง
เขต 4 วุฒิรักษ์ แพงตาแก้ว
เขต 5 วิชัย อินทรประสิทธิ์
เขต 6 สานิตย์ พระโบราณ
เขต 7 รุ่งวิชิต คำงาม
เขต 8 อำนวย วิชาโคตร
เขต 9 วนัฏศนันท์ ธีรวรวรรณ
เขต 10 นิวัตร สระพรม
เขต 11 ณัฏฐณิชา สารบรรณ

อย่างไรก็ตาม นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้เป็นผู้ขึ้นเวทีปิดท้ายการปราศรัย ระบุว่า แม้พวกเราอดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ จะถูกยุบพรรคและตัดสิทธิ์ 10 ปี แต่เชื่อได้ว่าความรักความผูกพันที่ประชาชนมอบให้เรามายังคงอยู่ ทำให้เรายังมีความรู้สึกว่ายังเป็นผู้แทนของประชาชนเสมอ วันนี้มาเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ร่วมเวทีปราศรัยที่ จ.ขอนแก่น ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ร่วมเวทีปราศรัยที่ จ.ขอนแก่น ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล

นายปิยบุตรกล่าวต่อไปว่าในเดือน พ.ค. นี้ ประชาชนคนไทยจะได้หย่อนบัตรเลือกตั้งอีกครั้ง ซึ่งตนอยากชวนให้ทุกคนใช้บัตรเลือกตั้งในการเปลี่ยนสามสิ่งใหญ่ คือ 1) เปลี่ยนขั้วรัฐบาลให้ได้ เพราะ 8 ปีที่ผ่านมายาวนานเหลือเกินไปแล้ว แต่เราต้องอย่าหลงลืมไปจำเพาะเจาะจงแต่ พล.อ.ประยุทธ์ เท่านั้น เพราะ 3 ป. ยังมี “ป.ประวิตร” และ “ป.ป๊อก-อนุพงษ์” ด้วย โดยเฉพาะในการเลือกตั้งรอบนี้ เราต้องจับตาไปที่ พล.อ.ประวิตร เป็นพิเศษ

2) คือการเปลี่ยนรัฐธรรมนูญ ทางเดียวที่เราจะจัดการเรื่องนี้ได้ ต้องเลือก ส.ส. พรรคก้าวไกลเข้าไปให้มากที่สุด ให้เกิน 250-300 และ 3) เปลี่ยนประเทศไทย เพราะประเทศไทยมีโครงสร้างปัญหาหลากหลายเรื่องราว เราต้องมีรัฐสวัสดิการ ไม่ใช่นโยบายแจกเงินแบบครั้งคราวเดี๋ยวก็หมด, เราต้องทลายทุนผูกขาด ที่กินรวบประเทศไทยทั้งโครงสร้าง ไม่ใช่มาลดแลกแจกแถมให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กเป็นเรื่องๆ ไป และเราต้องการการปฏิรูปที่ดิน ไม่ใช่การไปเดินแจกโฉนดชุมชนทีละที่