สธ. ตัดสินใจ แจ้งความตำรวจดำเนินคดี ปิดเพจ "ชมรมแพทย์ชนบท" ไม่รับผิดชอบเสมือนเพจผี เพจเถื่อน หลังบิดเบือนข่าวสาร สร้างความเข้าใจผิดกับสังคม ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อเพจดังกล่าว

14 ก.พ. 2566 นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ระดับ 11) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังจากเพจชมรมแพทย์ชนบท ปลุกระดม สร้างความเข้าใจผิดกับสังคมว่า

กระทรวงสาธารณสุข ติดตามเพจชมรมแพทย์ชนบทมาอย่างต่อเนื่อง พบว่า ที่ผ่านมา เพจชมรมแพทย์ชนบท ไม่ได้ทำหน้าที่ให้ข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์แก่สังคม เป็นเพียงเพจปลุกปั่นสังคม สร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน แอบอิงการเมือง เน้นการโจมตีแบบโกหก ทำเพื่อประโยชน์พวกพ้อง ส่งผลกระทบกับการให้บริการด้านสาธารณสุขไทยอย่างมาก ไม่สอดคล้องกับการก่อตั้งชมรมเมื่อหลายสิบปีก่อนที่เน้นสิ่งดีๆ เพื่อชาวชนบท เพื่อระบบสาธารณสุข

ปัจจุบัน เพจชมรมแพทย์ชนบท ถือเป็นภัยต่อระบบสาธารณสุขไทย ด้วยการให้ข้อมูลเท็จ เสริมความ ยุยงปลุกปั่น มุ่งประโยชน์พวกพ้อง

กระทรวงสาธารณสุข ตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดีกับเพจนี้ ไปจนถึงนายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ในฐานะประธานชมรมแพทย์ชนบท ที่แม้ท่านจะพูดอยู่เสมอว่า ไม่เกี่ยวกับเพจ ไม่รู้ใครโพสต์ พูดแบบขาดความรับผิดชอบ

กระทรวงสาธารณสุขขอสื่อสารมายังพี่น้องประชาชน เรื่อง เพจชมรมแพทย์ชนบท ที่ไม่มีใครรับผิดชอบ โพสต์โดยใครก็ไม่รู้ แต่ใช้ชื่อ เพจ "ชมรมแพทย์ชนบท" ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลเพจดังกล่าว เสมือนเพจผี เพจเถื่อน ต้องดำเนินคดีทางกฎหมาย

"ล่าสุด เพจชมรมแพทย์ชนบท ไปใส่หน้ารัฐมนตรี แล้วบิดเบือนว่าท่านออกคำสั่งให้ปิดประตูสกัดม็อบ เรื่องนี้ ไม่เคยมีคำสั่งจากท่าน แต่เป็นผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตัดสินใจ เพราะเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ 2558 มาตรา 8 ซึ่งไม่ให้ชุมนุมในสถานที่ทำการหน่วยงานรัฐ ซึ่งกระทบกระเทือนสร้างความเดือดร้อนกับพี่น้องประชาชนที่มาติดต่อราชการ ประชาชนไม่สามารถมารับบริการที่หน่วยฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกระทรวงสาธารณสุขได้ ซึ่งกระทบกระเทือนมากๆ การปล่อยให้ม็อบเข้ามาชุมนุม มันเกิดผลกระทบต่องานบริการประชาชนเป็นอย่างมาก และมีเรื่องร้องเรียนเข้ามามากมาย ซึ่งต้องจัดการ

...

ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขได้มอบกองกฎหมาย ไปแจ้งความดำเนินคดีแล้ว กับนายแพทย์สุภัทร ประธานชมรมแพทย์ชนบท และเพจชมรมแพทย์ชนบท ตามกฎหมายต่อไป”