"ถาวร เสนเนียม" ประธานพรรคไทยภักดี มอบตัวแทน ยื่นหนังสือถึง "บิ๊กตู่" ทบทวนสร้าง-การเดินรถไฟฟ้าสายสีส้ม ชี้ รัฐต้องให้เงิน ผู้ชนะการประมูลสูงถึงกว่า 7.8 หมื่นล้าน 

วันที่ 8 ก.พ. 66 เวลา 10.30 น. นายถาวร เสนเนียม ประธานพรรคไทยภักดี ได้มอบหมายให้ นายวสันต์ มีวงษ์ รองหัวหน้าพรรค และคณะทำงานพรรคไทยภักดี เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอให้พิจารณาตรวจสอบและทบทวนการประมูลการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตะวันตก (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) และเดินรถตลอดสาย (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี) ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

นายถาวร กล่าวว่า ตนเองและคณะทำงานพรรคไทยภักดี ได้รับข้อมูล การประมูลการก่อสร้างรถไฟฟ้า ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 มาศึกษาและพิจารณาอย่างถ้วนถี่แล้วพบว่า ผลจากการประมูลครั้งที่ 2 นี้ รฟม. ต้องให้เงินสนับสนุน BEM ผู้ชนะการประมูลเป็นเงินจำนวน สูงถึง 78,287.95 ล้านบาท ซึ่งแตกต่างจากการประมูลครั้งแรกที่บริษัทเอกชนผู้เข้าร่วมการประมูลได้เสนอขอเงินสนับสนุนเพียง 9,675.42 ล้านบาท เพิ่มมากขึ้นกว่าการประมูลการก่อสร้างครั้งแรกถึง 68,612.53 ล้านบาท จึงมีนักวิชาการ ประชาชน และผู้เกี่ยวข้องให้ความสนใจติดตามแสดงความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์ผลการประมูลการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายนี้ และการเดินรถตลอดสาย อย่างกว้างขวาง เช่น องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ประเทศไทย หรือ ACT สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย รวมถึงพรรคไทยภักดี ต่างก็มีคำถามและข้อสงสัยหลายประการด้วยกัน

...

นายถาวร กล่าวต่อว่า จากข้อมูลทั้งหมดที่ตนเองและคณะทำงานของพรรคไทยภักดีได้รวบรวมและจัดทำขึ้นเพื่อยื่นให้ท่านนายกฯ ในวันนี้ หวังให้ท่านพิจารณาตรวจสอบ ทบทวน และดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไปด้วยเพื่อประโยชน์ของประเทศและพี่น้องคนไทยทุกคน

ด้านนายวสันต์ มีวงษ์ รองหัวหน้าพรรคไทยภักดี ที่ได้เดินทางไปกับคณะทำงาน
พรรคย้ำว่าโครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่มีเรื่องไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง ที่เป็นประเด็นข้อสงสัย การประมูลครั้งแรกมีการยกเลิก เรื่องยังอยู่ที่ศาลถึง 2 คดีทำไมไม่รอให้สิ้นสุดก่อน

"พรรคไทยภักดี เราไม่ได้ต้องการขวางการพัฒนาของประเทศแต่ขอให้การประมูลงานทุกอย่างทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ต้องมีความโปร่งใส ต้องทำความจริงให้กระจ่าง การแข่งขันต้องเท่าเทียม ถูกต้องไม่เอื้อประโยชน์กับกลุ่มหรือบริษัทใดใดทั้งสิ้น นายกรัฐมนตรีต้องเร่งจัดการเรื่องนี้เพื่อความสง่างามและความถูกต้อง เพราะท่านต้องการเล่นการเมืองต่อ" นายวสันต์ กล่าว.