รองโฆษกพรรคเพื่อไทย “ชญาภา” ชี้ดัชนีคอร์รัปชันไทย 65 อาจแย่กว่าที่เห็น เหตุยังไม่รวมทุจริตราชการ ทุนจีนสีเทา จี้ “พล.อ.ประยุทธ์” หยุดอยู่ต่อ ก่อนประเทศจะตกต่ำกว่านี้

วันที่ 1 ก.พ. 2566 นางสาวชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่ดัชนีการรับรู้การทุจริต ประจำปี 2565 (Corruption Perception Index ปี 2022 : CPI) ของประเทศไทยว่า แม้อันดับการรับรู้การทุจริตของไทยจะขยับขึ้นมาจากอันดับที่ 110 ในปี 2564 จาก 180 ประเทศ ได้คะแนน 36 คะแนน ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากปีที่แล้วเพียง 1 คะแนนเท่านั้น แทบไม่มีนัยสำคัญ หากดูตัวเลขในปี 2557 ไทยได้คะแนนอยู่ที่ 38 คะแนน อยู่ลำดับที่ 85 ซึ่งมากกว่าและดีกว่า แสดงให้เห็นว่าหลังยึดอำนาจ 8 ปีผ่านไป ไม่มีอะไรดีขึ้น คะแนนและลำดับลดลงตกต่ำลงเรื่อยๆ หากเป็นการสอบของนักเรียน ถือว่าปีนี้ยังคงสอบตกจากคะแนนเต็มร้อยอยู่ ทั้งนี้คาดว่าการจัดลำดับนี้น่าจะยังไม่รวมกับปัญหาทุนจีนสีเทา ตู้ห่าว การคอร์รัปชันของตำรวจที่เป็นข่าวรายวัน หรือข้อกล่าวหาการส่งส่วยในกรมอุทยานฯ ซึ่งอาจจะไม่สะท้อนลำดับที่แท้จริงตามสถานการณ์ในปัจจุบันหรือไม่ หมายความว่าการคอร์รัปชันยังมีมากกว่าที่เห็นใน CPI ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาสำคัญและรุนแรงเกาะกินประเทศไทยอยู่ ทั้งนี้คะแนน CPI ของไทย ในปี 2565 ยังได้ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม โดยปีนี้อยู่อันดับที่ 77 ของโลก ได้ 42 คะแนน ส่วนสิงคโปร์ได้ 78 คะแนน ได้มากกว่าไทย 2 เท่า แล้วเช่นนี้ขีดความสามารถแข่งขันของไทยจะแข่งขันกับประเทศอื่นได้อย่างไร

สำหรับคะแนนเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น 1 คะแนน แต่ยังพบว่าคะแนนในรายหัวข้อลดลงจากปีที่ผ่านมา ได้แก่ การรับรู้ว่าการทุจริตเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสถาบันสังคม เศรษฐกิจและการเมือง และโดยเฉพาะการรับรู้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีพฤติกรรมในทางตำแหน่งหน้าที่ในทางมิชอบ แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งมีหน้าที่หลักในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ละเลยต่อปัญหาดังกล่าว การตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐบาลลดลงด้วย

...

“เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาไป 8 ปี กับรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงไม่ได้แก้ปัญหาการทุจริต มีปัญหาการทุจริต ทุนสีเทาเกิดขึ้นรายวัน พลเอกประยุทธ์เคยประกาศให้การแก้ไขปัญหาการทุจริตเป็นวาระแห่งชาติ แต่ปรากฏว่าพลเอกประยุทธ์ยิ่งอยู่นานปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันยิ่งเบ่งบาน แล้วพลเอกประยุทธ์ยังกล้าขออยู่ต่ออีก 2 ปี พลเอกประยุทธ์ต้องหยุด พอได้แล้ว ประเทศไทยตกต่ำลงมามากพอแล้ว” นางสาวชญาภา กล่าว.