“บิ๊กตู่” ร่วมงานทหารดักสื่อไม่ตอบเรื่องการเมือง เป็นประธานวันสถาปนา ร.ร.เตรียมทหาร ไร้เงา “พี่ป้อม” ที่ยุ่งติดงาน ซุ่มเปลี่ยน สถานที่คุยปิดดีล ควบรวมกลืน สอท.กลับเข้า พปชร. สั่งย้ายมารวมตัวกันเป็นทางการเร็วที่สุด เปิดตัวเป็น ทางการสัปดาห์หน้า “สันติ” อ้าแขนยินดีต้อนรับ “จอมยุทธ์กวง” คืนถิ่น ที่ประชุมใหญ่ พปชร.เคาะ “ประวิตร” แคนดิเดตนายกฯหนึ่งเดียว ปลุกสมาชิกลงสมรภูมิรบชูสโลแกน “ป้อม 700” “สุริยะ” การันตี สามมิตรปักหลักบ้านหลังเก่า “อุ๊งอิ๊ง” นำทัพ พท. เดินสายไปเลย-หนองบัวลำภู ย้ำไม่เน้นพาพ่อกลับบ้าน ขำๆ “นายกฯตู่” ไม่ชอบ “ทักษิณ” อ้อน 2 อดีตนายกฯ ฝากความคิดถึงพี่น้องคนอีสาน “เต้น” วอน “พี่ตู่” ถล่มคนกันเองพอแล้ว “พิธา” กระตุกพลังสีส้มตัดท่อ อำนาจ 3 ป.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ต่างเร่งเครื่องจัดทัพพรรคการเมืองในสังกัด เริ่มขับเคี่ยวลงพื้นที่ช่วงชิงฐานเสียงกันอย่างเข้มข้น โดยมีการ จัดคิวทั้งไปตรวจราชการ และลงพื้นที่เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครกันอย่างคึกคัก

...
“บิ๊กตู่” ปธ.วันสถาปนา ร.ร.เตรียมทหาร
เมื่อเวลา 08.23 น. วันที่ 27 ม.ค.ที่โรงเรียนเตรียมทหาร จ.นครนายก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เป็นประธานงานวันคล้ายวันสถาปนาโรงเรียนเตรียมทหาร ครบรอบปีที่ 65 และงานเกียรติยศจักรดาวประจำปี 2566 มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหมเข้าร่วม โดย พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทสส.ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร ให้การต้อนรับนอกจากนี้ยังมี ผบ.ทร. ผบ.ทอ.ผบ.ตร ผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร นายทหารชั้นผู้ใหญ่ ศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร เข้าร่วมงาน ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ (ตท.6) ไม่ได้มาร่วมงาน เนื่องจากติดภารกิจประชุมคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ
สดุดี “ชินดนัย” ทหารกล้าแลกชีวิต
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นประธานในงานคล้ายวันสถาปนาฯ ครบรอบปีที่ 65 และงานเกียรติยศจักรดาว ประจำปี 2566 ขอกล่าวสดุดีแด่ ร.อ.ชินดนัย แร่ทอง ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายยุทธการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส นายทหารที่มีจิตวิญญาณทหารกล้าที่เสียสละทุ่มเท แลกมาทั้งชีวิตของตนเองเพื่อรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงของชาติและเพื่อชาติ สันติสุขแก่ประชาชน จะถูกจารึกไว้ในจิตใจของเรานักเรียนเตรียมทหารทุกคนตลอดไป
ปรี่ดักคอมางานทหารไม่พูดการเมือง
ต่อมาเวลา 10.33 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินเข้ามาหาสื่อมวลชนเพื่อให้สัมภาษณ์ด้วยตนเองว่า วันนี้ทุกคนทราบดีว่านายกฯมางานอะไร มางานวันสถาปนาโรงเรียนเตรียมทหาร และมอบรางวัลเกียรติยศจักรดาวให้กับผู้ที่ทำหน้าที่ทุกเหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ มุ่งหวังให้ทุกคนได้ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด และขอให้กำลังใจบรรดานักเรียนเตรียมทหารรุ่นใหม่ด้วย เราต้องสร้างคนขึ้นมาให้เข้มแข็ง วันนี้สถานการณ์หลายๆอย่างมีความกดดันมากที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเทคโนโลยีต่างๆ ขอให้ระมัดระวังให้มากที่สุด ขอให้เตรียมความพร้อมในการเข้ารับราชการต่อไป ผู้ที่เรียนจบมาแล้ว ขอให้ยึดมั่นในการทำความดีและกระบวนการยุติธรรม โดยนายกฯย้ำเตือนมาตลอด ส่วนที่มีปัญหาติดขัดอยู่บ้างก็ให้กระบวนการยุติธรรมได้ทำการตรวจสอบเกิดความชัดเจนขึ้น นำไปสู่การพิจารณาในเรื่องของวินัยและกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ นายกฯออกตัวไม่ให้ถามเรื่องการเมือง เพราะมาภารกิจของทหาร
ลุยเก็บงานนครสวรรค์-พิจิตร
นายอนุชา บูรพชัยศรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.นครสวรรค์และพิจิตร วันจันทร์ที่ 30 ม.ค.เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำเพื่อความยั่งยืนและเพื่อการเกษตรสมัยใหม่ “สี่แควโมเดล” ที่สันฝายเก่าบึงบอระเพ็ด อ.เมืองนครสวรรค์ จากนั้นไปติดตามการขับเคลื่อนระบบการบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้าระดับพื้นที่ ฟังรายงานบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร (บึงบอน) ที่วัดดงแม่ศรีเมือง อ.บรรพตพิสัย เสร็จแล้วไปติดตามโครงการพัฒนาความมั่นคงด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่ รพ.บรรพตพิสัย ช่วงบ่ายไปตรวจเยี่ยมโครงการต้นแบบการเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็ง รพ.บึงนาราง อ.บึงนาราง จ.พิจิตร และรับฟังปัญหาน้ำ ก่อนตรวจเยี่ยมโครงการต้นแบบชุมชนคุณธรรม ที่ รพ.บางมูลนาก และโครงการพัฒนาบางมูลนากเมืองน่าอยู่ ที่ตลาดฟื้นอดีตบางมูลนาก
“บิ๊กป้อม” เปลี่ยนที่ดีล สอท.หลบสื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกระแสข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นัดหารือกับนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ในเวลา 14.00 น. วันที่ 27 ม.ค.ที่ห้องอาหารจีน สโมสรราชพฤกษ์ เขตหลักสี่ กทม.ถึงแนวทางย้ายพรรคทำงานกัน หลังมีการพูดคุยแล้วระดับหนึ่งเมื่อวันที่ 26 ม.ค.ปรากฏว่า สื่อมวลชนจำนวนมากได้เดินทางมาเกาะติดบรรยากาศการพูดคุยที่บริเวณหน้าสโมสรราชพฤกษ์ แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลานัดหมาย ไม่มีแกนนำของพรรคใดเดินทางมา จนเวลาผ่านไป 30 นาที ได้มีแจ้งเปลี่ยนสถานที่พูดคุย ต่อมามีรายงานข่าวว่า พล.อ.ประวิตร นายอุตตมและนายสนธิรัตน์ ได้เปลี่ยนไปพูดคุยกันที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กทม.โดยมี พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร่วมพูดคุยด้วย
สัปดาห์หน้าเปิดตัวย้ายรวมทางการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยการพูดคุยเป็นไปในทางที่ดี ซึ่ง พล.อ.ประวิตรต้องการให้มีการย้ายมารวมกันโดยเร็วที่สุด โดยสัปดาห์หน้าจะมีการแถลงเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรต้องการให้ภาพออกมาเป็นการก้าวข้ามความขัดแย้งตามนโยบายพรรค โดยนายอุตตมจะเข้ามาช่วยดูยุทธ ศาสตร์เศรษฐกิจ และนายสนธิรัตน์เข้ามาช่วยดูยุทธศาสตร์การเมืองให้กับพรรคพลังประชารัฐ

พปชร.เคาะ “ประวิตร” แคนดิเดตนายกฯ
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 มีแกนนำ กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ส.ส.ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. สมาชิกพรรค เข้าร่วมจำนวนมาก ขาดเพียง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้า พปชร.ที่ติดราชการ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ติดลงพื้นที่ นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาฯ มีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลังและเลขาธิการพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคและนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ได้แก้ไขข้อบังคับพรรค เลือกตั้ง กก.บห.แทนตำแหน่งที่ว่าง พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ เป็นนายทะเบียนพรรค นายสกลธี ภัททิยกุล นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ และนายอภิชัย เตชะอุบล เป็น กก.บห. ทำให้ กก.บห.มีทั้งหมด 21 คน ต่อมานายไพบูลย์ เสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร เป็นแคนดิเดตนายกฯของ พปชร.เพียงคนเดียว โดยไม่มีใครคัดค้าน
กระตุกสมาชิกลงสมรภูมิชู “ป้อม 700”
นายวิรัชกล่าวว่า วันนี้ถือว่า พปชร.ก้าวนำในพื้นที่เลือกตั้ง โดยเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯก่อนทุกพรรค พวกเราหมายมั่นปั้นมือกันทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจ เอาใจบันดาลแรง ทำให้แคนดิเดตนายกฯ พปชร.ได้เป็นนายกฯคนที่ 30 เราเชื่อมั่น 100% หรือ 1,000% ว่า หัวหน้าพรรค พปชร.จะได้เป็นนายกฯแน่นอน พร้อมชูนโยบายแรกบัตรประชารัฐ 700 บาท ชูสโลแกน “ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาพื้นที่” ขอให้ทุกคนช่วยรณรงค์หาเสียงกับประชาชนว่า “700 ทั่วไทย” หรือ “ป้อม 700” หัวหน้าพรรคก็ไม่ได้ขัดข้อง ส่วนงานจัดระดมทุนในวันที่ 30 ม.ค.นั้น ขอแจ้งให้สมาชิกเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง ห้ามขาด
ต่อมานายไพบูลย์ แถลงผลการประชุมใหญ่สามัญว่า หลังรับฟังความเห็น ส.ส. ตัวแทนพรรค สาขาพรรคและสมาชิก ทุกท่านเห็นตรงกันว่าต้องเสนอบุคคลที่สมาชิกพรรคเคารพสูงสุด เป็นศูนย์รวมจิตใจมาโดยตลอดคือ พล.อ.ประวิตร จึงได้เสนอเป็นแคนดิเดตนายกฯเพียงชื่อเดียว เพื่อคงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์และศักดิ์ศรีของพรรค เชื่อว่าท่านจะได้เป็นนายกฯคนที่ 30 แน่นอน
“สันติ” อ้าแขนรับ “จอมยุทธ์กวง”
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลังและเลขาธิการพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) จะนำสมาชิกพรรค สอท. กลับมาอยู่ พปชร.ว่า หัวหน้าพรรค พปชร.วางแนวทางเป็นพรรคก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่ว่าจะนายสมคิด นายอุตตม สาวนายน หัวหน้า สอท. หากขอเข้ามาร่วมกับพรรค ส่วนตัวเห็นว่าดีเสียอีก ไม่มีความเสียหายใดๆ เพราะนายสมคิดตั้งใจจะดูแลบ้านเมือง มีความรู้ความสามารถค่อนข้างมาก ท่านมีกำลังจะมาช่วยหัวหน้าพรรคด้านเศรษฐกิจ พรรคไม่ปฏิเสธแน่นอน เมื่อถามว่า ทำงานร่วมกับนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคและนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ได้ใช่หรือไม่ นายสันติตอบว่า พรรคการเมืองยิ่งมีนักเศรษฐกิจหลายคนยิ่งเกิดความแข็งแกร่ง ผลประโยชน์ตกอยู่กับประชาชน เมื่อถามว่า นายสมคิดจะเข้ามาก่อนเลือกตั้ง หรือหลังเลือกตั้ง นายสันติตอบว่า อยู่ที่ กก.บห.
“จั้ม” ปรับแผนลุยเขตป้อมปราบฯ
นายสกลธี ภัททิยกุล ในฐานะหัวหน้าทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. พรรค พปชร.กล่าวถึงกรณีกำหนดการปราศรัยครั้งแรกของหัวหน้า พปชร. ที่เขตป้อม ปราบศัตรูพ่ายว่า อยู่ในขั้นการวางแผนยุทธศาสตร์และนโยบายของ กทม. ตามสภาพพื้นที่เขตป้อมปราบ ศัตรูพ่าย ไม่สามารถรองรับการจัดการปราศรัยใหญ่ได้ ดังนั้นรูปแบบที่วางไว้จะให้หัวหน้า พปชร. ลงพื้นที่ไปวัดไทย วัดจีนและมัสยิด เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย ตามชื่อเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ไม่น่าเกินกลางเดือน ก.พ.จะมีบทสรุปให้หัวหน้าพรรคลงพื้นที่ได้ การลงพื้นที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ถือเป็นสีสัน ไม่ได้มองใครเป็นศัตรู ส่วนการปราศรัยใหญ่ใน กทม. จะจัดช่วงใกล้เลือกตั้ง 2 ครั้ง ฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี ในใจคาดว่าได้ ส.ส.5-6 ที่นั่ง เมื่อถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ไปปราศรัยจุดแรกที่แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร ถือเป็นการแก้เกมกันหรือไม่ นายสกลธีตอบว่า ถือเป็นสีสันของการเลือกตั้ง ขึ้นอยู่ที่ทีมยุทธศาสตร์ของแต่ละพรรคจะจัดกันอย่างไร
“สุริยะ” ปักหลักอยู่บ้านหลังเก่า
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร.ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีทางการเมืองของกลุ่มสามมิตร ท่ามกลางกระแสข่าวเตรียมย้ายพรรคว่า การมาประชุมใหญ่สามัญแสดงว่าอยู่กับ พปชร. เมื่อถามว่าชัดเจนอยู่ พปชร. นายสุริยะยิ้มตอบพร้อมกับยกมือทำท่าโอเค และย้อนถามสื่อมวลชนว่า ที่ผ่านมามีข่าวว่าผมจะไปอยู่กับพรรคอื่นหรือ ผู้สื่อข่าวตอบกลับว่า มีกระแสข่าวจำนวนมาก ทำให้นายสุริยะส่ายหัวพร้อมกับตอบอย่างอารมณ์ดีว่า “ไม่มีๆ”
“ลุงป้อม” ฟิต ก.พ.คิวลงพื้นที่แน่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนไหว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในการลงพื้นที่ตรวจราชการยังคงมีอย่างต่อเนื่องและมากขึ้นล่าสุด เดือน ก.พ.มีกำหนด วันที่ 1 ก.พ. ลงพื้นที่ จ.นครปฐมและ จ.ราชบุรี โดยที่ จ.ราชบุรี ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งที่ 2 แต่ครั้งแรกนั้นเมื่อวันที่ 17 ม.ค.เป็นการลงไปพบ ส.ส.พรรค พปชร.ที่มีกระแสข่าวย้ายพรรค เพื่อโน้มน้าวให้อยู่กับพรรคต่อไป จากนั้นวันที่ 2 ก.พ. พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่ตรวจราชการ ตรวจเยี่ยมโครงการแก้มลิงบ่อโจ้โก้พร้อมระบบส่งน้ำ บ.ศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร และตรวจเยี่ยมโครงการ “เติมน้ำ เติมบุญ เติมทุน พัฒนาอาชีพ” พบปะผู้นำท้องถิ่นและประชาชน จ.มุกดาหาร วันที่ 8 ก.พ. ลงพื้นที่ จ.ปทุมธานี วันที่ 13 ก.พ.ลงพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ขณะเดียวกันบรรดา ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรค พปชร. ต่างขอให้ พล.อ.ประวิตร ช่วยลงพื้นที่ตัวเองจำนวนมาก เพราะเห็นว่าได้รับการตอบรับดี

พท.เดินสายเลย–หนองบัวลำภู
เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ท่าอากาศยานเลย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในงาน#แลนด์สไลด์เพื่อไทยเท่านั้น พื้นที่ จ.เลย และ จ.หนองบัวลำภู มีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรค พท. นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส.เลย อาทิ นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ และประชาชน รอมอบดอกกุหลาบต้อนรับตะโกน “เพื่อไทย สู้ๆ” “อุ๊งอิ๊ง” สู้ๆ ถือเป็นการลงพื้นที่หาเสียงในนามพรรค พท.ครั้งแรก หลังลงพื้นที่ในนามครอบครัวเพื่อไทย จากนั้นทีมงานพรรค พท.ได้ไปหารือกับตัวแทนภาคเอกชน จ.เลย ที่ร้านอาหารล้านช้าง ก่อนออกตระเวนปราศรัย
“อุ๊งอิ๊ง” ยัน พท.ไม่เน้นพาพ่อกลับ
น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นการเดินสายหาเสียงอย่างเป็นทางการของพรรค พท.ตนยังสามารถเดินทางด้วยเครื่องบินได้พยายามลงพื้นที่ให้ได้มากที่สุด เมื่อใกล้คลอดจะปรับเป็นนั่งรถ เมื่อถามว่า มีการพูดถึงการจับมือทางการเมืองหลังเลือกตั้ง ระหว่างพรรค พท.กับพรรค พปชร.เพื่อนำนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯกลับบ้าน น.ส.แพทองธารตอบว่า ยังไม่เคยคุยกันเลย นายทักษิณยังไม่ได้บอกจะกลับเมื่อไหร่อย่างไรที่ให้อิ๊งเป็นคนบอกก็ตามนั้น คุณพ่อคงวิธีการว่า จะมาอย่างไรก็เคารพการตัดสินใจ และท่านพูดเองว่าไม่เอาพรรคมาเกี่ยวข้อง ดังนั้นพรรคเรามุ่งหน้าหาเสียงทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องพานายทักษิณกลับบ้าน ขอให้แยกเรื่องกัน ประชาชนที่ติดตามข่าวมีวิจารณญาณ ตอนนี้ไม่ได้คุยจริงๆยังไม่มีดีิล
ขำ “นายกฯตู่” ไม่ชอบ “ทักษิณ”
เมื่อถามว่า สิ่งที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ออกมาพูดโจมตีนายทักษิณ จะชี้แจงอย่างไร น.ส.แพทองธารตอบว่า ไม่มีอะไรให้ชี้แจง เมื่อถามว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ระบุไม่อยากได้ยินชื่อนายทักษิณ รู้สึกอย่างไร น.ส.แพทองธาร หัวเราะพร้อมตอบว่า “ถามคุณพ่อหรือยังคุณพ่อชอบรึเปล่า ล้อเล่นๆ ตลกดี ไม่มีอะไร ท่านอาจจะเครียดหลายอย่างอาจจะหงุดหงิด มนุษย์หงุดหงิดได้เข้าใจได้”
“เต้น” วอน “พี่ตู่” เลิกถล่มพอแล้ว
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า พรรค พท.ไม่มีแนวทางตอบโต้กับนายจตุพร หรือใครก็ตามที่วิพากษ์วิจารณ์ส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับนโยบาย ตอนนี้ไม่รู้สึกเป็นปฏิปักษ์กับนายจตุพร แต่อยากบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันน่าจะเพียงพอหรือได้ข้อยุติสำหรับการแสดงท่าทีแล้วหรือไม่ เราไม่ทะเลาะ หากไม่สบายใจนายจตุพรจะหันมาที่ตนไม่เป็นไร อยากให้มองมาที่พรรค พท.เป็นพี่ เพื่อน น้อง ที่เคยยืนเคียงข้างกัน ตนยืนข้าง น.ส.แพทองธาร มีหัวใจเป็นคนเสื้อแดง เติบโตมากับการเห็นภาพคนเสื้อแดงถูกกระทำ เจ็บปวดหลั่งน้ำตาให้กับการสูญเสีย ขอให้น้องอิ๊งได้ทำหน้าที่อย่างที่ควรจะทำ เชื่อว่าพี่น้องเสื้อแดงหากจะไปสนับสนุนพรรคอื่นในฝ่ายประชาธิปไตย คงเป็นด้วยเหตุผลอื่นไม่น่าจะเป็นเพราะประเด็นของนายจตุพร และยังเชื่อว่าพี่น้องเสื้อแดงส่วนใหญ่สนับสนุนพรรค พท.อยู่
“อดิศร” หยันสุนัขฉี่รดภูเขาทอง
นายอดิศร เพียงเกษ แกนนำเสื้อแดงและสมาชิกพรรค พท.ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีนายจตุพร พูดถึงนายทักษิณในทางที่ไม่ดีนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับฐานเสียงพรรค พท.ที่เป็นคนเสื้อแดง นายกฯทักษิณไม่ได้เป็นอย่างที่นายจตุพรพูด หากเปรียบเทียบก็เหมือนกับสุนัขฉี่รดภูเขาทอง ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ได้กระทบกระเทือนอะไร ไม่ได้รู้สึกอะไร เพียงแต่จะ เหม็นฉี่บ้างก็เท่านั้น เรื่องนี้ก็ชี้ให้เห็นว่า นิ้วไหนที่มันเน่าควรต้องตัดทิ้งไป
“ชลน่าน” ย้ำนายกฯ พท.คนรุ่นใหม่
ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่สนามกีฬากลางจังหวัดเลย นพ.ชลน่านปราศรัยว่า เป้าหมายแลนด์สไลด์เราส่ง 400 เขต ภาคอีสานมี 132 เขต มั่นใจแลนด์สไลด์ทั้งภาคอีสาน จะทำให้เมืองเลยเป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งอีสานตอนบน นโยบายเราจับต้องได้ ถ้าแลนด์สไลด์จะคืนความสุขให้ประชาชน ไม่ว่านโยบายดีอย่างไร นายกฯเป็นเหมือน 8 ปีที่ผ่านมาไม่ได้ ฉะนั้น นายกฯเพื่อไทยเป็นคนรุ่นใหม่ วิสัยทัศน์ก้าวไกล ประชาชนสัมผัสได้ ขอให้เลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ ให้แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน
ลั่นเสื้อแดงไม่ใช่สมบัติของใคร
จากนั้นนายณัฐวุฒิขึ้นปราศรัยว่า เลือกตั้งครั้งนี้ไม่ต้องแข่งมีคนชนะเห็นๆคนแพ้ไม่ควรเป็นรัฐบาล แต่กติกาที่มีอยู่ตั้งใจโกงพรรคเพื่อไทย โกงพรรคที่ชนะเลือกตั้งเท่ากับโกงคนทั้งประเทศ แต่พรรคเพื่อไทยสู้มีแต่ประชาชน วันนี้ขอประกาศว่าคนเสื้อแดงไม่ได้เป็นสมบัติของใคร หรือพรรคการเมืองไหน แต่เป็นสมบัติของตัวเอง ที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย สู้เพื่ออนาคตที่ดีกว่า ไม่ว่าจะใส่เสื้อสีอะไร ถ้าวันนี้เห็นตรงกันว่า บ้านเมืองมีปัญหาต้องแก้ไขเท่านั้นก็เพียงพอที่จะเข้าคูหากาเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์
“2 นายกฯ” ฝากคิดถึงคนอีสาน
น.ส.แพทองธารปราศรัยว่า ก่อนมาถึงเวทีพ่อใหญ่ (นายทักษิณ) โทร.มาฝากความคิดถึงคนจังหวัดเลย ตนคุยกับคุณพ่อ คุณอา (น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ) ใครจะมาอีสานฝากความคิดถึงพี่น้อง วันนี้เราตั้งใจพัฒนาแนวคิดทำกระเช้าขึ้นภูกระดึง ที่พรรคไทยรักไทยเริ่มไว้ เพื่อดึงศักยภาพ จ.เลยให้มีรายได้ แทนที่ต้องไปขายลอตเตอรี่กำไรน้อย ห่างไกลครอบครัว และเราจะแก้ปัญหาธุรกิจสีเทาให้ถูกต้อง เรียกเก็บภาษีมาทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น ยืนยันทำให้เกิดขึ้นได้ ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาล สินค้าเกษตรราคาขึ้นยกแผงแน่นอน โดยใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยให้ปลูกได้ง่ายขึ้น หาช่องขายไปยังต่างประเทศ ตนจะฟุตฟิตฟอไฟช่วยขายเอง ส่วนปัญหายาเสพติดเราให้ความสำคัญเป็นเรื่องแรกๆ อนาคตลูกหลานต้องไม่เหมือนทุกวันนี้ เพื่อไทยคิดใหญ่ทำเป็นเพื่อคนไทยทุกคน
อ้อนห้ามแบ่งใจเพื่อแลนด์สไลด์
ต่อมาเวลา 17.30 น. น.ส.แพทองธารนำคณะเดินทางต่อไปปราศรัยที่ตลาดนัดเก้าค่ำ ต.กุดดินจี่ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู มีนายไชยา พรหมา นายสยาม หัตถสงเคราะห์ ส.ส.หนองบัวลำภู พรรค พท.รวมถึงนายณพล เชยคำแหง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หนองบัวลำภู พรรค พท.รอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ปราศรัยตอนหนึ่งว่า พรรคเพื่อไทยไม่เคยสัญญาลมๆ แล้งๆพูดแล้วต้องทำได้ หากเป็นรัฐบาลบริหารงาน 4 ปี ค่าแรง 600 บาท ทำได้แน่นอน เราจะไม่เอาเงินไปซื้อเรือดำน้ำแต่จะเอามาแก้ปัญหาให้ประชาชน ขอให้เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์ เพื่อมาแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชน การเลือกตั้งครั้งนี้แบ่งใจไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเดินทางมายังเวทีปราศรัย น.ส.แพทองธารและ นพ.ชลน่าน แวะไปที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง พบปะพ่อแม่ญาติผู้สูญเสีย ร่วมแสดงความเสียใจเหตุการณ์กราดยิงเศร้าสลดที่เคยเกิดขึ้น

“พิธา” ปลุกพลังส้มตัดท่ออำนาจ 3 ป.
เมื่อเวลา 15.30 น. ที่โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ต (ดอนเมือง) พรรคก้าวไกล จัดการประชุมเครือข่ายพรรคก้าวไกลทั่วประเทศ โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. กล่าวเปิดการประชุม ตอนหนึ่งว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการรวมตัวของตัวแทนเครือข่ายพรรคทุกจังหวัดทั่วประเทศ ก.ก.มีสมาชิก 60,284 คน การเดินทางไปดูปัญหาทั่วประเทศมากกว่า 45,358 กิโลเมตร ขยายแนวคิดก้าวไกลออกไปทั่วประเทศ ปีนี้ ก.ก.พร้อมเลือกตั้ง ทั้งจากจำนวนสมาชิกพรรค ว่าที่ผู้สมัครและอาสาสมัครของพรรค เชื่อมั่นว่าจะปักธงประเทศไทย ให้การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคตได้ พวกท่านกำลังทำเพื่อเยาวชนของชาติ ที่อยากให้การเมืองดี โดยไม่ต้องเอาชีวิตเข้าแลกสร้างการเปลี่ยนแปลง ทำเพื่อประชาชนทั้งประเทศ ที่ต้องการพอแล้วกับระบอบทหารและ 3 ป.ที่สืบทอดอำนาจผ่าน พปชร. และ รทสช. ฝากถึงประชาชน ต้องร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยกัน
ต่อมาการประชุม มีการนำเสนอแผนเครือข่ายของภูมิภาคต่างๆเครือข่ายแรงงาน และเครือข่ายชาติพันธุ์ รวมทั้งมีการอบรม workshop การสื่อสารนโยบาย โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรค ก.ก. ทั้งการทำความเข้าใจนโยบาย การทดลองพูดเสนอนโยบายกับประชาชนในวาระโอกาสต่างๆเพื่อให้การทำงานพื้นที่ของทีมงาน ก.ก. ขยายการรับรู้เกี่ยวกับนโยบายพรรคออกไปถึงประชาชนได้มากที่สุด
“ชวน” แฉ ส.ว.ไม่กดบัตรต้านหักดาบ
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ กล่าวถึงกรณีการประชุมสภาล่มต่อเนื่อง ว่า ความจริงได้ขอร้อง ส.ส.ว่า ช่วงสุดท้ายของปลายสมัยประชุมสภาเวลามีค่ามาก แม้สั้นๆแค่ 4-5 สัปดาห์ แต่ยังพิจารณากฎหมายเรื่องสำคัญให้ผ่านไปได้ แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือ ส.ว.ก็เป็นไปด้วย ไม่กดบัตรแสดงตน เพื่อไม่ให้ครบองค์ประชุม เดิมเข้าใจว่าเข้าใจข้อบังคับ และวาระผิด แต่ตอนหลัง ส.ว.บางคนมาบอกว่าไม่อยาก จะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นกฎหมายที่จะด่าเขา เพราะมีประเด็นเดียวคือลดอำนาจและบทบาท ส.ว.ลง จึงทำให้ ส.ว.ส่วนหนึ่งไม่อยากประชุม เรื่องนี้ หนีไม่พ้นที่ต้องหารือกับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เพราะต้องบรรจุวาระแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ดี คาดว่าจะนัดประชุมร่วมรัฐสภาสัปดาห์ก่อนการ อภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 จะบรรจุวาระร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมจริยธรรมและ มาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. ... 1 วัน และวาระ แก้ไขร่างรัฐธรรมนูญอีก 1 วัน ประมาณวันที่ 6-7 ก.พ. หากนัดประชุมร่วมรัฐสภาอีกแล้วองค์ประชุมไม่ครบอีก จะเหมือนเดิม วิธีปฏิบัติของสมาชิกเพื่อไม่ให้ครบองค์ประชุม อาจใช้ได้บางเรื่อง เช่น รัฐบาลเอาเสียงข้างมากไปแกล้ง แต่หากไม่ชอบกฎหมายฉบับใด แล้วทำให้องค์ประชุมไม่ครบ ไม่ค่อยทำกัน
“ตะวัน-แบม” เขียน จม.สู้ไม่ถอย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม 2 เยาวชน ผู้ต้องหามาตรา 112 ที่อดข้าวอดน้ำ และรักษาตัว อยู่ที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี เขียนจดหมายด้วยลายมือฝากนายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือทนายด่าง เพื่อให้นำไปเผยแพร่ต่อ โดย น.ส.ทานตะวันเขียนว่า “ฝากถึงพี่ทราย พี่ด่าง ตอนนี้ น้ำตาลตะวันตกมาก และน้ำตาลพี่แบมคงตกลง แม้ตอนนี้น้ำตาลพี่แบมยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ พวกหนู จะไม่กินอะไรเลย และไม่รับยาอะไรเลย ไม่เลยสักอย่าง และหลังจากนี้อาการคงแย่ลงเรื่อยๆ แต่สิ่งที่กังวลคือ ติดเสาร์-อาทิตย์ และไม่รู้ว่าอาการจะเป็นยังไงต่อไป อยากให้พี่ทราย พี่ด่าง คอยติดต่อทางโรงพยาบาล ถึงอาการแต่ละวันในวันเสาร์-อาทิตย์ และคอยอัปเดต ให้ภายนอกรับรู้ พวกมันท้าทายเรา และตอนนี้พวกเรา จะท้าทายมันกลับ” ส่วนจดหมายของ น.ส.อรวรรณ มีข้อความว่า “หนูอยู่ได้เพราะใจล้วนๆกว่าจะผ่านไปได้แต่ละวัน พวกเราผ่านไปได้เพราะใจ ผ่านไปได้ เพราะทุกคน”
ม็อบกระจาย “ยืนหยุดขัง” ต่อเนื่อง
เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (หอศิลป์) สี่แยกปทุมวัน กลุ่มทะลุฟ้า จัดกิจกรรมยืนหยุดขัง ต่อเนื่องจากกิจกรรมยืนหยุดขัง 112 ชม. ที่ครบ 112 ชั่วโมงไปแล้วเมื่อวันที่ 26 ม.ค. นำโดยนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน แกนนำกลุ่มทะลุฟ้าและแนวร่วมราว 20 คน สลับกันออกมายืนชู 3 นิ้ว และนำป้ายผ้า ข้อความ อาทิ “มีคนอดน้ำอดอาหารอยู่ในคุก” “ยกเลิก 112” ไปติดไว้บนทางขึ้นลงสกายวอล์ก นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมยืนหยุดขังกระจายกันไป อาทิ กลุ่มพลเมืองโต้กลับ จัดที่หน้าศาลฎีกา สนามหลวง แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่หน้าประตูทางเข้า ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่ม ทะลุคุก ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร หน้าศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก กลุ่มแนวร่วม ราษฎรไม่ทน หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นต้น