“จุรินทร์” แจ้งชาวนา เงินส่วนต่างประกันรายได้ งวด 14 ออกแล้ว ธ.ก.ส. โอนภายใน 18 ม.ค. รับสูงสุดครัวเรือนละ 12,040.14 บาท พร้อมแจงปมปาล์มทะลัก ส่ง “สินิตย์” ลุยแก้ปัญหา ดำเนินคดีไปแล้ว 1 ราย
วันที่ 14 ม.ค. 2566 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการจ่ายเงินโครงการประกันรายได้ข้าว สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 4 โดยราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 14 สำหรับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 7-13 ม.ค.66 ดังนี้
1) ข้าวเปลือกหอมมะลิ เกณฑ์กลางตันละ 14,139.99 บาท
2) ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ เกณฑ์กลางตันละ 13,540.74 บาท
3) ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี เกณฑ์กลางตันละ 11,081.16 บาท
4) ข้าวเปลือกเจ้า เกณฑ์กลางตันละ 9,949.63 บาท
5) ข้าวเปลือกเหนียว เกณฑ์กลางตันละ 12,492.79 บาท
สำหรับการชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันรายได้กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง งวดที่ 14 ดังนี้
1) ข้าวเปลือกหอมมะลิ ชดเชยตันละ 860.01 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 12,040.14 บาท
2) ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ชดเชยตันละ 459.26 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 7,348.16 บาท
3) ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ไม่ต้องชดเชยเนื่องจากราคาเกณฑ์กลางสูงกว่าเป้าหมาย
4) ข้าวเปลือกเจ้า ชดเชยตันละ 50.37 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 1,511.10 บาท
5) ข้าวเปลือกเหนียว ไม่ต้องชดเชยเนื่องจากราคาเกณฑ์กลางสูงกว่าเป้าหมาย
...
โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงภายใน 3 วันทำการ หรือภายในวันที่ 18 ม.ค. 2566 มีเกษตรกรได้รับชดเชยตามข้อมูลของกรมส่งเสริมการเกษตรงวดนี้ จำนวน 3,516 ครัวเรือน และจนถึงวันที่ 11 ม.ค. 2566 ธ.ก.ส. ได้จ่ายเงินส่วนต่างให้เกษตรกร งวดที่ 1-13 จำนวนถึง 2.575 ล้านครัวเรือน
ส่วนปัญหาปาล์มที่เกิดจากการที่โรงงานรับซื้อไม่ทัน เพราะมีปาล์มทะลักมามากนั้น รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้ได้มอบให้ นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงไปแก้ปัญหาแล้ว โดยให้ลานเท โรงสกัด จะต้องรับซื้อปาล์ม ซึ่งเมื่อวานก็ดำเนินคดีไปแล้ว 1 ราย ตนได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ก็เชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงไปได้บ้าง