“พิธา” นำทีมก้าวไกลลุยบางกะปิ แนะนำ “หมิว สิริลภัส” เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ลั่น เลือกตั้งรอบนี้ กทม.ต้องเป็นสีส้ม ด้าน “พิจารณ์” มั่นใจก้าวไกลครองที่หนึ่ง กทม. ตั้งเป้า 70 ที่นั่งทั้งประเทศ
วันที่ 7 มกราคม 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ พูดคุยทักทายประชาชนที่มาออกกำลังกายตอนเช้าบริเวณสนามกีฬาคลองจั่น รวมถึงประชาชนและผู้ค้าขายในตลาดเช้าเคหะคลองจั่น พร้อมทั้งแจกแผ่นพับแนะนำนโยบายและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ เขตบางกะปิ คือ น.ส.สิริลภัส กองตระการ หรือ “หมิว” รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ พื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ นายเฉลิมชัย กุลาเลิศ หรือ “หมอออย” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตห้วยขวาง-วังทองหลาง, นายธนเดช เพ็งสุข หรือ “ภูมิ” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตลาดพร้าว-วังทองหลาง, นายสุภกร ตันติไพบูลย์ธนะ หรือ “กิ๊ฟ” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตสวนหลวง-ประเวศ และ นายณัฐพงศ์ เปรมพูลสวัสดิ์ หรือ “คุง” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตประเวศ-สะพานสูง
นายพิธา เปิดเผยถึงความพร้อมของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้ง ส.ส. พื้นที่กรุงเทพฯ ว่า การลงพื้นที่วันนี้เพื่อถือโอกาสสวัสดีปีใหม่ประชาชน และแนะนำ น.ส.สิริลภัส หรือ “หมิว” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางกะปิ ซึ่งเป็นที่รู้จักของสังคมจากการเป็นอดีตนักแสดงและเป็นกระบอกเสียงของประชาชนมาตลอด 2 ปีในช่วงโควิด วันนี้ตัดสินใจลงสมัครเป็นผู้แทนราษฎรในนามพรรคก้าวไกล สำหรับพื้นที่บางกะปิถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ เราเคยได้คะแนนเฉียดฉิว ครั้งนี้มั่นใจว่าด้วยทุกองคาพยพ ทั้งผู้สมัครที่มีความสดใหม่ครบเครื่อง มาจากหลากหลายวงการ ทั้งอดีตแพทย์ อดีตทหาร นักแสดง นักผังเมือง นักสิ่งแวดล้อม และมีคนที่ร่วมทำงานกับพรรคมาตั้งแต่ครั้งพรรคอนาคตใหม่ ผนวกกับนโยบายพรรคที่ครอบคลุมทุกด้าน จะช่วยให้ประชาชนสนับสนุนเรา คว้าชัยชนะในพื้นที่นี้และพื้นที่อื่น ทำให้กรุงเทพฯ เป็นสีส้ม โดยวันที่ 28 มกราคมนี้ เป็นวันประชุมวิสามัญของพรรค จะมีการเปิดตัวนโยบายและแคมเปญที่ทำให้สังคมเชื่อมั่นว่าพรรคก้าวไกลพร้อมเข้าไปบริหารประเทศ
...
นายพิธากล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมา มีหลายฝ่ายตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง สำหรับพรรคก้าวไกล เรายืนยันชัดเจนว่าปฏิเสธระบอบประยุทธ์ จะไม่มีวันจับมือกับพรรคทหารจำแลง และเชื่อว่าขั้วพรรคร่วมฝ่ายค้านคือคำตอบที่ดีที่สุดของประเทศ ส่วนในวันที่ 9 มกราคมที่มีข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเปิดตัวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ตนคิดว่าเป็นเพียงเหล้าเก่าในขวดใหม่ ไม่ได้ให้ราคา พรรคก้าวไกลขอใช้เวลาและสมาธิไปกับการลงพื้นที่ นำเสนอนโยบายที่จะแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยเชื่อว่าการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ที่จะเกิดขึ้นในเดือนมกราคมนี้ ซึ่งพรรคก้าวไกลจะทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้นเหมือนทุกครั้ง แม้ ส.ส. จะไม่สามารถลงมติได้ แต่จะช่วยให้ประชาชนตัดสินใจง่ายขึ้นในการลงมติรัฐบาลผ่านการเลือกตั้ง
ขณะที่นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ในฐานะแม่ทัพยุทธศาสตร์กรุงเทพฯ แสดงความมั่นใจว่าพรรคก้าวไกลจะสามารถคว้าเก้าอี้ ส.ส.ในพื้นที่ กทม.ได้เป็นอันดับ 1 ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง
ส่วนความพร้อมในพื้นที่กรุงเทพฯ พิจารณ์ กล่าวว่า ขณะนี้พรรครับรองว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพฯ แล้วจำนวน 30 เขตจากทั้งหมด 33 เขต และจะเปิดตัวครบทุกเขตหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แบ่งเขตเลือกตั้งเสร็จสิ้น ดังนั้น วันนี้ทุกพื้นที่ในกรุงเทพฯ มีคนของพรรคก้าวไกลทำงานอยู่ มั่นใจว่าจากศักยภาพและความพร้อมที่เรามี จะทำให้พรรคก้าวไกลครองอันดับหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้อย่างแน่นอน ส่วนในระดับประเทศ เราคาดหวังว่าต้องได้มากกว่า 70 ที่นั่ง เป็นเป้าหมายที่ต้องทำให้ได้
ด้าน น.ส.สิริลภัส กล่าวถึงความพร้อมในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กรุงเทพฯ เขตบางกะปิ ว่า ตนเป็นคนมุ่งมั่นกับการทำงานมาตลอด แม้การเป็นนักแสดงมาก่อนอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประชาชนรู้จักตนเร็วขึ้น แต่เชื่อว่าในการเลือกตั้ง ประชาชนจะตัดสินเราที่การทำงาน จึงขอใช้ความทุ่มเทในการลงพื้นที่ และความกล้าหาญในการพูดแทนประชาชน ทำให้ชาวบางกะปิตัดสินใจเลือกพรรคก้าวไกลและเลือกตนเป็นผู้แทน